xs
xsm
sm
md
lg

เงินเฟ้อจีนเดือนก.ค. 6.5% สูงสุดในรอบกว่า 3 ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประชาชนจับจ่ายใช้สอยซื้อผักปลาอาหารในตลาดกรุงปักกิ่ง ทั้งนี้จีนประกาศระดับเงินเฟ้อเดือนก.ค. สูงสุดในรอบกว่า 3 ปี ที่ระดับ 6.5 เปอร์เซ็นต์ (ภาพเอเอฟพี)
เอเยนซี - สำนักสถิติแห่งชาติจีนเผยวันนี้ (9 ส.ค.) ว่า “เงินเฟ้อ” อันเป็นประเด็นอ่อนไหวทางการเมืองของจีน ได้เพิ่มระดับในเดือนก.ค. แตะ 6.5 เปอร์เซ็นต์ สูงสุดในรอบกว่า 3 ปี ขณะที่รัฐบาลกำลังดิ้นรนควบคุมราคาสินค้าที่สูงลิบลิ่ว

สำนักสถิติแห่งชาติจีน เผยว่า ค่าดัชนีราคาผู้บริโภค หรือซีพีไอ ปรอทชี้วัดเงินเฟ้อของจีนอยู่ที่ระดับ 6.5 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเดือนที่ผ่านมาเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งนับว่าเป็นระดับที่สูงสุดนับแต่เดือนมิ.ย. 2551 ซึ่งตอนนั้นแตะระดับ 7.1 เปอร์เซ็นต์

ค่าซีพีไอเดือนก.ค.ดูเหมือนว่าจะสร้างความกังวลใจให้กับผู้กำหนดนโยบายไม่น้อย ซึ่งปัญหาเงินเฟ้อนี้อาจกระตุ้นให้เกิดความไม่สงบในสังคมได้ และความไร้เสถียรภาพของเศรษฐกิจจีนอาจส่งผลให้โลกอยู่ภายใต้ปัญหาวิกฤติการเงินได้ด้วย

จีนพยายามดิ้นรนควบคุมเงินเฟ้อ ไม่ว่าจะสั่งให้ธนาคารลดการปล่อยกู้และสำรองเงินสดไว้มากขึ้น พร้อมกับปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 5 ครั้งนับแต่เดือนต.ค.ปีที่ผ่านมา

ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้นในเดือนก.ค.อยู่ที่ 14.8 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสำนักสถิติชี้ว่า จะส่งผลกระทบต่อผู้มีรายได้น้อยที่ต้องแบกภาระราคาค่าอาหารที่แพงลิบ ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 3 ของรายจ่ายทั้งหมด

นักวิเคราะห์ชี้ว่า เงินเฟ้อขณะนี้ใกล้จะถึงจุดสูงสุดและทำนายว่าจะค่อย ๆ ลดลงในปีต่อ ๆ ไป เมื่อจีนพยายามควบคุมให้ราคาสินค้าอยู่หมัด

เสียงนักวิเคราะห์

ไบรอัน แจ็คสัน นักยุทธศาสตร์อาวุโสประจำรอยัลแบงก์ออฟแคนาดา ชี้ว่า “ตัวเลขซีพีไอเดือนนี้ถือว่าเพิ่มขึ้นไม่มากนัก หากเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด”

อัตราการเพิ่มของซีพีไอเดือนก.ค.อยู่ที่ 0.5 เปอร์เซ็นต์ เดือนต่อเดือน ขณะที่ซีพีไอในเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 6.4 เปอร์เซ็นต์จากเดือนเดียวกันในปี 2553 ส่วนเดือนพ.ค.ก็เพิ่มขึ้น 5.5 เปอร์เซ็นต์ ปีต่อปี

“พวกเราคิดว่าเงินเฟ้อใกล้ถึงจุดสูงสุดและก็จะค่อย ๆ ลดลงในปีถัดไป เมื่อนโยบายและความพยายามทั้งหลายของภาครัฐเริ่มสัมฤทธิ์ผล และคาดว่าอีกไม่นานคงมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก” แจ็คสันกล่าว

ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต หรือ พีพีไอ มาตรวัดเงินเฟ้อในระดับราคาขายส่ง ในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 7.5 เปอร์เซ็นต์ ปีต่อปี ถือว่าเพิ่มขึ้นจากเดือนมิ.ย. ซึ่งอยู่ที่ 7.1 เปอร์เซ็นต์

นายกรัฐมนตรีจีน เวิน จยาเป่า ยอมรับในเดือนมิ.ย.ว่า เป็นการยากที่จะรักษาระดับเงินเฟ้อให้เป็นไปตามเป้าของรัฐบาลภายในปี 2554 แม้กระนั้นรัฐบาลจีนก็จะต้องควบคุมราคาสินค้าให้ได้เป็นลำดับแรก

จีนตั้งเป้าหมายควบุคมเงินเฟ้อในปีนี้ให้อยู่ที่ระดับ 4 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ต่อมานายกเวินฯ ก็ออกมากล่าวว่า แค่ควบคุมให้อยู่ไม่เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ รัฐบาลจีนก็แบกไม่ไหวแล้ว

นักวิเคราะห์บางคนก็กังวลว่า ปักกิ่งอาจจะต้องควบคุมนโยบายการคลังของประเทศและจะต้องทำให้เศรษฐกิจของตนขยายตัวช้าลงจึงจะเป็นทางออกของปัญหาฯ ได้
เครนกำลังยกตู้คอนเทนเนอร์ลงเรือ ณ ท่าเรือจีหลง เกาะไต้หวัน เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ทั้งนี้ยอดส่งออกไต้หวันเดือนก.ค. พุ่งดีเกินคาด เนื่องจากจีนรับซื้อสินค้าไต้หวันมากขึ้น (ภาพเอเอฟพี)
ไต้หวันได้อานิสงส์จีน การส่งออกพุ่ง

ขณะเดียวกัน ตัวเลขการส่งออกไต้หวันในเดือนก.ค. ก็พุ่งสูงเกินคาดถึง 28,120 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากมีความต้องการสินค้าไต้หวันจากจีนเพิ่มมากขึ้น

กระทรวงการคลังไต้หวันเผยในแถลงการณ์ว่า การส่งออกเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 17.6 เปอร์เซ็นต์ปีต่อปี และเพิ่มขึ้น 11.7 เปอร์เซ็นต์จากเดือนก่อนหน้า

สื่อท้องถิ่นไต้หวันคาดการณ์ว่า ภาคอุตสาหกรรมส่งออกไต้หวันซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้นในระดับเลขหลักเดียวในเดือนก.ค. แต่ก็เหนือความคาดหมายเมื่ออัตราการส่งออกเพิ่มขึ้นเป็นเลขสองหลัก

การเพิ่มดังกล่าวเป็นผลมาจากการส่งออกสินค้ามหาศาลไปสู่จีน หรือแม้แต่สินค้าลงเรือไปขายสหรัฐฯ ก็เพิ่มปริมาณเกินคาด

เดือนที่ผ่านมา การส่งออกของไต้หวันไปยังจีน (รวมฮ่องกง) เพิ่มขึ้น 15.1 เปอร์เซ็นต์ปีต่อปี มูลค่า 11,200 ล้านเหรียญสหรัฐ

ส่วนการส่งสินค้าลงเรือไปยังสหรัฐฯ ก็เพิ่มขึ้น 22.5 เปอร์เซ็นต์ปีต่อปี มูลค่า 3,530 ล้านเหรียญสหรัฐ และการขายสินค้าให้กลุ่มประเทศอาเซียนก็เพิ่มขึ้น 16.6 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็น 4,550 ล้านเหรียญสหรัฐ
กำลังโหลดความคิดเห็น