เมื่อ นร.ชายเรียนอ่อน เซี่ยงไฮ้นำร่องห้องเรียนพิเศษ “ชายล้วน”

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - โรงเรียนมัธยมเซี่ยงไฮ้ระดับแนวหน้าแห่งหนึ่งอนุมัติเปิดห้องเรียนชายล้วน 2 ห้อง เป็นครั้งแรก ในปีการศึกษาหน้าเริ่มการเรียนการสอนในเดือนก.ย. เป็นโครงการนำร่องที่ออกแบบไว้รับมือปัญหาวิกฤตินักเรียนชายของแผ่นดินใหญ่

โครงการนำร่องดังกล่าวได้ก่อให้เกิดการโต้เถียงเกี่ยวกับปัญหานักเรียนชายที่เรียนอ่อน มีคะแนนและภาวะผู้นำน้อยกว่ารักเรียนหญิง

ลู่ จินเซิง ผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมเซี่ยงไฮ้หมายเลข 8 เผยว่า กรมการศึกษาเขตหวงผู่ และมหาวิทยาลัยอีสไชน่านอร์มัล ได้ตกลงเสนอแผนการกับกระทรวงศึกษาธิการเซี่ยงไฮ้ เพื่อสร้างสถาบันการเรียนการสอนสำหรับนักเรียนชายล้วน ขณะนี้กระทรวงได้ไฟเขียวให้มีโครงการนำร่อง 2 ห้องเรียนก่อนเมื่อวันพฤหัส (29 มี.ค.) ที่ผ่านมา

“กระทรวงศึกษาฯ เริ่มพิจารณาและตระหนักในปัญหาเหล่านี้ และเผยว่าโครงการนำร่องของพวกเราต้องค่อย ๆ ผลักดันและต่อเนื่อง”

ลู่ชี้ว่า ความคิดเรื่องโรงเรียนชายล้วนนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานความจริงที่ว่า นักเรียนชายโดยทั่วไปมีผลการเรียนต่ำกว่านักเรียนหญิง และผู้นำในห้องเรียนโดยมากมักจะเป็นผู้หญิง

ลู่อธิบายว่า นักเรียนหญิงมีแนวโน้มการเรียนที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ และเป็นที่ชื่นชมจดจำของครูบาอาจารย์ เนื่องจากพวกเขามีวุฒิภาวะการรับรู้ที่รวดเร็วกว่านักเรียนชาย นักเรียนหญิงกล้าแสดงออก มีหลักการ และเชื่อฟัง ขณะที่นักเรียนชายไม่ตั้งใจเรียนและมักจะดื้อแพ่งแข็งขืนบ่อยครั้ง

“ผลการเรียนปรากฏว่า นักเรียนชายสมาธิสั้น ขาดความสนใจในเนื้อหาการเรียน” ลู่เผย

เปอร์เซ็นต์เฉลี่ยของนักเรียนชายที่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยบนแผ่นดินใหญ่เริ่มลดน้อยถอยลงอย่างเห็นได้ชัด และหลังจากจบการศึกษาแล้ว นักศึกษาหญิงก็มักจะหางานทำได้ดีกว่าผู้ชาย

ลู่ชี้ว่า การแก้ปัญหานี้ ต้องจับนักเรียนชายมาอยู่ด้วยกัน และออกแบบการสอนชนิดพิเศษ

“จุดประสงค์ของการสร้างโรงเรียนชายล้วนขึ้นมาก็เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นสำหรับพัฒนาการของพวกเขา โดยผู้สอนจะสามารถทุ่มศักยภาพเต็มที่เพื่อดึงเอาศักยภาพและความสามารถของพวกเขาออกมาให้ได้”

ห้องเรียนชายล้วนจะมีนักเรียนทั้งหมด 60 คน ครูมีหน้าที่ทุ่มเทสร้างให้พวกเขามีความซื่อสัตย์ มีศีลธรรม ความรับผิดชอบ และมีความคิดที่เป็นของตัวเอง ห้องเรียนจะมีกิจกรรมเล่าเรื่องเกี่ยวกับแรงบันดาลใจของคนที่มีพื้นเพหลากหลาย มีการฝึกฝนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และการฝึกเล่นและซ่อมแซมอุปกรณ์ดิจิตอล

อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์อู๋ จุนหมิน จากมหาวิทยาลัยอีสต์ไชน่านอร์มัล โจมตีความคิดเรื่องโรงเรียนชายล้วนว่าไม่ค่อยมีเหตุผล

ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 มีโรงเรียนหญิงล้วนโผล่ขึ้นมาในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นโรงเรียนจากองค์กรศาสนาคริสต์ อู๋เผยว่า โรงเรียนหญิงล้วนผุดขึ้นมาก็เนื่องจากครอบครัวนั้นชอบการมีลูกชายสืบทายาท และมักจะจะส่งเฉพาะลูกชายไปเรียนหนังสือ อู๋ชี้ว่าการสร้างอะไรที่แบ่งแยกเช่นนี้ยิ่งทำให้ระยะห่างของความไม่เท่าเทียมระหว่างชาย-หญิงเพิ่มขึ้น แม้กระทั่งพวกเขาจะนั่งด้วยกันในห้องเดียวกันยังไม่อนุญาต

โรงเรียนหญิงล้วนต่อมาส่งมอบการดูแลให้เป็นของรัฐบาล และก็เลือกนักเรียนชายเข้าไปเรียนกลายเป็นโรงเรียนสหการศึกษา ขณะนี้มีโรงเรียนหญิงล้วนเพียงแห่งเดียวในเมือง ก็คือ โรงเรียนมัธยมสตรีหมายเลข 3

อู๋ เผยว่า การมีนักเรียนชายและหญิงในโรงเรียนเดียวกัน จะทำให้มีความก้าวหน้า มันไม่มีเหตุผลที่จะแยกพวกเขาออกจากกัน

อู๋ชี้ว่า ปัญหานักเรียนชายปัจจุบันยังมีวิกฤติเรื่องความเป็นชายด้วย “นักเรียนชายบางคนพูดจากระเดียดไปทางผู้หญิง ทำตัวไม่แมน ไม่แข็งแรง อ่อนแอ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาหนักใจอะไร”

สถานการณ์เหล่านี้ไม่ใช่แต่โรงเรียนเท่านั้นที่เป็นต้นเหตุ มันยังมีสิ่งแวดล้อมอื่นอีก เช่นครอบครัว ส่วนนโยบายลูกคนเดียวของรัฐบาลก็หมายถึง เด็กจะได้รับการเลี้ยงดูที่ดีจนเกินตัวจากพ่อแม่จนลูกเสียคน.