เอเอฟพี - สำนักสถิติแห่งชาติจีนเผย สัดส่วนของประชากรจีนวัยทำงานในปี 2554 ลดลงเป็นครั้งแรกนับแต่ปี 2545 ซึ่งขณะนี้จีนต้องประสบภาวะขาดแคลนแรงงานอย่างกว้างขวาง สืบเนื่องจากนโยบายควบคุมประชากรของรัฐบาล
สัดส่วนของประชากรวัยระหว่าง 15 ถึง 64 ปีนั้นลดลง 0.10 จุด อยู่ที่ 74.4 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตามการลดลงดังกล่าวถือเป็นปัญหาที่ประเทศจีนซึ่งมีประชากรมากสุดของโลก ต้องประสบกับภาวะแรงงานหดหาย
“แม้ว่าจะดูจำนวนที่ลดลงเหมือนน้อย แต่ก็ถือเป็นประเด็นสำคัญสำหรับปัญหาแรงงานของจีน” สำนักสถิติฯ เผยในแถลงการณ์วันพุธ (18 ม.ค.) และเผยต่อสื่อสาธารณะในวันพฤหัส
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แรงงานมหาศาลของจีนเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างทะลักทะลายเพื่อตอบสนองต่อการผลิตเพื่อการส่งออกของจีน แต่ขณะนี้นักวิเคราะห์เชื่อว่า แรงงานกับลังขาดแคลน
อย่างไรก็ตาม บรรดาแรงงานที่ยังทำงานอยู่ก็เริ่มร้องเรียนให้ได้ค่าจ้างแรงงานที่สูงขึ้น จนกลายเป็นความไม่สงบและการประท้วงในหลายพื้นที่ของจีน
การประท้วงหยุดงานทั่วแผ่นดินจีนเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนพ.ย. เมื่อแรงงานได้ค่าแรงน้อย ไม่พอใจการหักค่าจ้าง และสิ่งแวดล้อมการทำงานย่ำแย่
กลุ่มติดตามแรงงานจีนของสหรัฐฯ เผยว่า ล่าสุดแรงงาน 2,000 คนของโรงงานผลิตเหล็กกล้า ในเมืองเฉิงตู มณฑลซื่อชวนประท้วงหยุดงานเนื่องจากได้ค่าจ้างต่ำ
อย่างไรก็ตาม การขาดแคลนแรงงานเป็นปัญหาเชิงจำนวนประชากรที่เปลี่ยนแปลง สืบเนื่องจากนโยบายลูกคนเดียว ที่เริ่มใช้มาเมื่อ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา
สำนักสถิติฯ เผยสัดส่วนของประชาชนในปี 2554 ที่มีอายุเกิน 65 ปี เพิ่มขึ้น 0.25 จุด อยู่ที่ 9.1 เปอร์เซ็นต์แล้ว
