เอเอฟพี - ผู้คุมกฎฯ จีนผ่านร่างกฎหมายให้อำนาจตำรวจสามารถจับกุมคุมขังผู้ต้องสงสัยคดีอาญาหนักได้เป็นเวลานานถึง 6 เดือนในที่ลับ หรือที่เรียกกันว่า “คุกมืด”
การกักตัวหรือคุมขังในสถานที่ที่ไม่เป็นทางการ เช่น โรงแรม หรือบ้านพักในจีนนั้นเป็นเรื่องจริงที่รับรู้กันโดยทั่วไป เมื่อปีที่ผ่านมา นักเคลื่อนไหวหลายคน ตั้งแต่ศิลปินปากกล้าไอ้ เว่ยเว่ย ไปยันนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ตลอดจนผู้ร้องทุกข์ ฯ ต่างถูกคุมขังอย่างผิดกฎหมายในสถานที่ที่ไม่เป็นทางการ บางครั้งกินเวลานานเป็นเดือน
แต่นักวิจารณ์เผยว่า การแก้ไขกฎหมายกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา จะมีผลกับการปฏิบัติต่อบุคคลที่เข้าข่ายว่าเป็นภัยคุกคามต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีน อาทิ ผู้เห็นต่างทางการเมืองจำนวนหลายสิบคนที่ถูกคุมขังเมื่อปีที่ผ่านมา
ร่างกฎหมายฯ ฉบับดังกล่าวผ่านขั้นตอนการลงมติขั้นสุดท้ายจากสภาผู้แทนประชาชนจีนแล้ว ซึ่งผู้แทนจำนวน 2,639 คนลงคะแนนเห็นชอบให้มีการแก้ไข มีผู้แทนฯ จำนวน 160 คนเท่านั้นที่ไม่เห็นด้วย ส่วนผู้ไม่ลงคะแนนเสียงมีเพียง 57 คน
“การแก้ไขกฎหมายนี้จะทำให้ไม่มีข้อยกเว้นใด ๆ แก่คนที่ตำรวจสงสัยทุกประเภท แม้ว่าพวกเขาจะแสดงออกอย่างสันติก็ตาม” องค์กรนิรโทษกรรมสากลเผย
การเสนอแก้ไขร่างกฎหมายเพิ่มอำนาจให้ตำรวจดังกล่าวฯ ได้รับแรงต้านจากกลุ่มนักสิทธิมนุษยชนตลอดจนนักปฏิรูปกฎหมายจำนวนมาก หลังจากเปิดเผยรายละเอียดเนื้อหาร่างฯ เมื่อปีที่แล้ว
มีมาตราย่อยมาตราหนึ่งของร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว มีผลผูกพันให้ตำรวจแจ้งญาติผู้ที่ถูกคุมขังภายใน 24 ชั่วโมง แม้ว่าสถานที่คุมขังนั้นจะต้องการเปิดเผยหรือไม่ก็ตาม
หลิว เสี่ยวหยวน นักกฎหมายและสหายของไอ้ เว่ยเวย เผยในบล็อกส่วนตัวว่า การแก้ไขจากต้นฉบับร่างกฎหมายนั้นถือว่าเป็นกระบวนการที่ชัดเจน “แต่เมื่อกฎหมายได้ประกาศมีผลบังคับใช้แล้ว จุดสำคัญกลับอยู่ที่ผู้มีอำนาจในการบังคับใช้กฎหมายว่าจะเคร่งครัดปฏิบัติตามอย่างแท้จริงหรือไม่”
จีนใช้ 3 วิธีในการปฏิบัติต่อผู้ต้องสงสัย อันได้แก่ จับกุมอย่างเป็นทางการ กักขังอย่างเป็นทางการ และการจับตาให้อยู่ในพื้นที่ที่กำหนด ซึ่งอาจหมายถึงบ้านหรือสถานที่แห่งอื่น อาจจะเป็นโรงแรมหรือบ้านพักก็ได้
ในสองกรณีแรก ผู้ต้องสงสัยที่จับกุมอย่างเป็นทางการ จะถูกคุมขังอย่างเป็นทางการด้วยเช่น ในสถานีตำรวจ หรือเรือนจำ
ปัญหาที่นักวิจารณ์กังวลคือ สิ่งที่จะตามมาหลังจากการจับกุม อันได้แก่การทำให้ตำรวจรู้สึกว่ามีอิสระมากขึ้นในการทรมานผู้ที่ถูกคุมขัง
การแก้ไขกฎหมายในครั้งแรกนั้น มีมาตราหนึ่งอนุญาตให้ตำรวจสามารถกักบริเวณผู้ต้องสงสัยให้อยู่ในการจับตาของเจ้าหน้าที่ได้ โดยกักบริเวณในสถานที่ที่ไม่ใช่บ้านของตนเองก็ได้ เป็นเวลานานได้มากสุด 6 เดือน
รูปแบบการกักบริเวณเช่นนี้จำกัดเฉพาะต่อผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย หรือเป็นอันตายต่อความมั่นคงของชาติ หรือต้องสงสัยรับสินบนจำนวนมาก ซึ่งการจับตาดูพวกเขาไม่ให้คลาดสายตานั้น จะสามารถช่วยให้ประวิงเวลาในการสืบสวนได้
แต่นักเคลื่อนไหวมองว่า ข้อหาเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาตินั้นมีการให้นิยามที่ไม่ชัดเจน และเป็นเครื่องมือที่รัฐบาลใช้ปิดปากนักวิจารณ์
กลุ่มสิทธิมนุษยชนและนักวิชาการกฎหมายเผยว่า อย่างไรก็ตาม การแก้ไขกฎหมายอาญาในครั้งนี้ก็ยังมีหลายส่วนที่เป็นข้อดี กลุ่มติดตามสิทธิมนุษยชนในจีนเผยแถลงการณ์ว่า พวกเขายินดีกับข้อกำหนดที่ให้มีการพิทักษ์จำเลยที่ดีขึ้น ตลอดจนกระบวนจัดการผู้ต้องสงสัยคดีอาญาเบื้องต้นด้วย
กลุ่มฯ เผยว่า ข้อดีนั้นยังรวมถึง วงเวลาจำกัดสำหรับการกักตัวผู้ต้องสงสัย และการรับประกันว่าจะสามารถต่อสู้ทางกฎหมายได้ ตลอดจนการพิทักษ์จำเลยที่เป็นเด็กและเยาวชน หรือผู้มีปัญหาทางจิตด้วย