จีนคุมกิจกรรมกลุ่มการกุศล สกัดต่างชาติแพร่ลัทธิ

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - รัฐบาลจีนออกกฎข้อบังคับใหม่ ห้ามมูลนิธิการกุศล และกลุ่มศาสนาเผยแพร่ลัทธิความเชื่อและ “บ่อนทำลายผลประโยชน์ของชาติ”

กฎข้อบังคับดังกล่าวออกโดยหน่วยงานของรัฐบาล 6 หน่วย ซึ่งรวมทั้งสำนักงานบริหารกิจการศาสนาแห่งรัฐ และคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติเมื่อวันจันทร์ (27 ก.พ.) โดยระบุว่า การปฏิบัติงานการกุศลของกลุ่มองค์กรทางศาสนาควรยึดมั่นหลักการของการพึ่งพาตนเอง และเป็นอิสระจากอิทธิพลของพลังจากภายนอก

“พวกเขาไม่ควรรับเงินอุดหนุน การบริจาค หรือความช่วยเหลือจากต่างประเทศ ซึ่งมีเงื่อนไขทางการเมืองแลtศาสนาเข้ามาผูกมัด” เอกสารกฎข้อบังคับระบุ

ภายใต้ระเบียบข้อบังคับใหม่นี้ มูลนิธิการกุศลและองค์กรศาสนาต้องรายงานแผนการทำงานการกุศลประจำปีต่อสำนักงานบริหารกิจการแห่งรัฐ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนระบุว่าต้องการสนับสนุนการทำงานการกุศลขององค์กรศาสนาต่าง ๆ ต่อไป โดยเฉพาะในยามเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยยืนยันว่าองค์กรเหล่านี้จะได้รับการยกเว้นภาษี

ด้านนายหวัง ลีเว่ย บรรณาธิการ “Charitarian” ซึ่งเป็นนิตยสารภาคภาษาจีนกล่าวว่า มีกลุ่มศาสนาอาศัยการทำงานการกุศล เพื่อเผยแพร่ศรัทธาความเชื่อของตนกันมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และกิจกรรมของบางกลุ่มทำให้รัฐบาลจีนไม่ไว้วางใจ

ขณะที่ศาสตราจารย์เติ้ง กั๋วเซิงแห่งมหาวิทยาลัยชิงหวา ผู้เชี่ยวชาญการศึกษาเกี่ยวกับองค์กรไม่แสวงผลกำไรระบุว่า กฎข้อบังคับใหม่นี้เป็นการควบคุมดูแลกิจกรรมของกลุ่มศาสนาอย่างเหมาะสม ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมให้ทำงานการกุศลต่อไป โดยกลุ่มเอ็นจีโอและกลุ่มศาสนายังรับเงินบริจาคจากต่างชาติต่อไปได้ เพียงแต่จะยุ่งยากมากขึ้นเท่านั้น

ทั้งนี้ เมื่อปี 2553 รัฐบาลจีนได้ออกกฎระเบียบควบคุมกลุ่มเอ็นจีโอในการรับเงินบริจาคจากต่างชาติ มากขึ้น โดยกำหนดให้แสดงใบรับรองการลงทะเบียนเงินบริจาคต่างชาติ และต้องขอการอนุมัติจากทางการในการรับเงินบริจาคมากกว่า 1 ล้านหยวนขึ้นไป รัฐบาลจีนมีการตรวจสอบการดำเนินกิจกรรมของกลุ่มเอ็นจีโอต่างชาติบนแผ่นดินใหญ่ เช่นกลุ่มอ็อกซ์แฟมอย่างเข้มงวด และเมื่อเดือนก.พ. 2553 กระทรวงศึกษาธิการเคยออกประกาศในเว็บไซต์ กล่าวหาอ็อกซ์แฟมว่า มีเจตนาร้าย

อย่างไรก็ตาม วิกฤตการเงินในประเทศร่ำรวยกำลังกระทบต่อกลุ่มเอ็นจีโอระดับรากหญ้าหลายรายบนแผ่นดินใหญ่ในขณะนี้ เนื่องจากองค์กรต่างชาติได้ลดเงินบริจาคลง