เฮนรี ถังไม่ท้อเรื่องอื้อฉาว มุ่งชิงตำแหน่งพ่อเมืองฮ่องกง

เอเอฟพี - เฮนรี ถัง หรือถัง อิงเหนียน บุคคล ที่เชื่อกันว่า จีนพอใจให้เป็นพ่อเมืองฮ่องกงคนต่อไป เดินหน้ายื่นใบสมัครลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งหัวหน้าคณะผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงเรียบร้อยแล้ว โดยไม่สนใจคะแนนนิยม ที่ทรุดฮวบจากเรื่องห้องชุดใต้ดินอื้อฉาวและความประพฤติส่วนตัว ที่ด่างพร้อย

นายถังได้ยื่นใบสมัครเมื่อวันจันทร์ (20 ก.พ.) หลังจากสื่อมวลชนเปิดโปงเรื่องห้องชุดใต้ดินสุดหรู แต่ก่อสร้างอย่างผิดกฎหมาย ที่บ้านในเขตเกาลูนของภรรยาคือนาง Lisa Kuo ผ่านมาได้ไม่กี่วัน โดยนายถัง ซึ่งเกิดในตระกูลร่ำรวยยอมรับว่า เขาได้ตำหนิภรรยาไปแล้วที่สั่งให้มีการก่อสร้างห้องชุดใต้ดิน โดยที่เขาไม่อนุญาต ห้องใต้ดินดังกล่าวสร้างขึ้นสำหรับเป็นสถานบันเทิงพักผ่อนหย่อนใจ แต่แปลนการก่อสร้างผิดกฎหมายผังเมือง

“ ผมยอมรับว่า เกิดเรื่องในแง่ลบหลายเรื่องกับผมในช่วงนี้ … เรื่องทั้งหมดเกี่ยวข้องกับครอบครัวผมทั้งนั้น” เขากล่าวกับผู้สื่อข่าว ภายหลังยื่นใบสมัครแล้ว

นายถังยังคาดการณ์ด้วยว่า จะเกิดข่าวในทางเสีย ๆ หาย ๆ กับเขาตามมาอีก แต่เขาสัญญาว่าจะเผชิญหน้าอย่างกล้าหาญ ข่าวที่ว่านี้เขาอาจหมายถึงข่าวลือ ที่สื่อมวลชนนำมาเผยแพร่เมื่อวันจันทร์ ที่ว่าเขามีการนัดพบกับลูกสาวของนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่ง

ตั้งแต่ช่วงปีที่แล้วมา นายถัง วัย 59 ปีถูกสังคมฮ่องกงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เขาออกมาประกาศลงเลือกตั้งล่าช้า และการออกมายอมรับว่าได้นอกใจภรรยา หรือเรื่องที่หลีกเลี่ยงอภิปรายโต้วาทีกับฝ่ายคู่แข่งในการเลือกตั้ง ตลอดจนการประกาศแผนนโยบายการบริหารฮ่องกง ที่ล่าช้า

แต่เขาปัดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ไปเสีย โดยระบุว่า เขาต้องการมุ่งไปที่เรื่องประสบการณ์ ความคิด และการประกาศนโยบายของตนเองมากกว่าปัญหาส่วนตัว และความผิดพลาดทางการเมือง นายถังยังหวังด้วยว่า ทุกคนจะให้โอกาสเขาทำงานรับใช้ฮ่องกง

อย่างไรก็ตาม จากผลสำรวจความเห็นประชาชนล่าสุดของมหาวิทยาลัยฮ่องกงเมื่อวันอาทิตย์ ที่ผ่านมา ระบุว่าร้อยละ 51.3 ของจำนวนผู้ถูกสำรวจทั้งหมด 516 คน เห็นว่า ถังควรถอนตัวจากการเลือกตั้งครั้งนี้ ผลสำรวจบ่งชี้ถึงกระแสสังคม ที่ไม่พอใจและสูญเสียความเชื่อถือในตัวของนายถังมากขึ้นทุกที

กระนั้นก็ดี สำหรับฮ่องกง ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองหนึ่งประเทศสองระบบของจีน ผลสำรวจความเห็นประชาชนแทบไม่มีผลเท่าใดนัก เนื่องจากการเลือกหัวหน้าคณะผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงมิได้กระทำโดยการหย่อนบัตรเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง แต่เลือกโดยคณะกรรมการเลือกตั้งจำนวน 1,200 คน ซึ่งประกอบด้วยตัวแทน ที่เป็นชนชั้นนำภาคธุรกจและภาคสังคม ที่สนับสนุนรัฐบาลปักกิ่ง