รอยเตอร์ - สหรัฐฯ เริ่มเดินเรื่องฟ้องต่อองค์การการค้าโลก หรือ WTO จี้จีนตอบคำถามให้ชัด ๆ เหตุใดจึงปิดกั้นไม่ให้บริษัทสหรัฐฯ เสนอบริการธุรกิจทางอินเทอร์เน็ตแก่ลุกค้าบนแดนมังกร แต่ถูกจีนสวนกลับ สหรัฐฯ กำลังแทรกแซงกิจการของจีน
นาย ไมเคิล พั้งก์ ทูตสหรัฐฯ ประจำWTO ได้ยื่นจดหมาย ซึ่งเป็นการตั้งคำถามต่อทูตจีนประจำ WTO เมื่อวันจันทร์ (17 ต.ค.) หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ รับทราบว่า บริษัทจำนวนหนึ่งของตนถูกจีนใช้ระบบไฟร์วอลล์ปิดกั้นเว็บไซต์ในการเสนอขายบริการธุรกิจ การจัดทำคำถามดังกล่าวเป็นขั้นตอนแรกของกระบวนการยื่นฟ้องต่อ WTO โดยทูตสหรัฐฯ ระบุว่า อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับบริษัทของสหรัฐฯ ในการเข้าถึงลูกค้าและผู้ประกอบการในจีน เพื่อเสนอขายบริการธุรกิจ จึงขอให้รัฐบาลจีนชี้แจงเกี่ยวกับนโยบายอินเทอร์เน็ตของจีนอย่างละเอียด
อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนออกมาตอบโต้เมื่อวันพฤหัสฯ (20 ต.ค.) ว่า รัฐบาลจีนพร้อมทำงานร่วมกับชาติอื่น ๆ ในการสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต แต่จีนคัดค้านการนำเรื่องเสรีภาพทางอินเทอร์เน็ตมาเป็นข้ออ้างในการเข้าแทรกแซงกิจการภายในของชาติอื่น
จดหมายดังกล่าวมีคำถามจากรัฐบาลแดนลุงแซมเกือบ 50 ข้อ อาทิ ใครเป็นผู้สั่งให้บล็อกเว็บไซต์ และการกระทำนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อใด และด้วยเหตุผลอะไร
" สหรัฐฯ ต้องการมีความเข้าใจดีขึ้นเกี่ยวกับกฎระเบียบของจีนในการควบคุมดูแลการปิดกั้นเว็บไซต์ เพื่อว่าบริษัทสหรัฐฯ ซึ่งตั้งอยู่นอกประเทศจีนจะได้ปฏิบัติตามนโยบายอย่างถูกต้อง เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหานี้อีก" สหรัฐฯระบุ
ระบบไฟร์วอลล์ของจีน ซึ่งทำหน้าที่เซ็นเซอร์ข้อมูล ที่รัฐบาลเห็นว่าเป็นเรื่องอ่อนไหวนั้น มีการเรียกขานกันว่า " กำแพงไฟมหึมาของจีน" โดยที่ผ่านมา จีนได้สั่งปิดเว็บไซต์หลายรายมาแล้ว เช่น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และยูทู้บ ตลอดจนเว็บไซต์ของสื่อต่างชาติบางราย เนื่องจากรัฐบาลจีนเห็นว่า การแบ่งปันรูปภาพและข้อมูลระหว่างผู้ติดต่อสื่อสารทางอินเทอร์เน็ต โดยไม่ผ่านการตรวจสอบ อาจทำลายความมั่นคงของชาติได้
ด้านนายเอ็ด แบล็ก ประธานสมาคมอุตสาหกรรมการสื่อสารและคอมพิวเตอร์ แสดงความยินดี ที่สหรัฐฯ ดำเนินการดังกล่าว โดยระบุว่า กฎข้อบังคับด้านอินเทอร์เน็ตของจีนยังขาดความโปร่งใส และการปิดกั้นเว็บไซต์ถือเป็นการตั้งกำแพงการค้าระหว่างประเทศอย่างผิดกฎหมายอีกด้วย