ส.ส.บัญชีรายชื่อประชาธิปัตย์ ห่วงรัฐจำนำข้าวเสี่ยงสูงทำสต๊อกพุ่ง ชี้ปี 48-49 เสียหายรวม 1.9 หมื่นล้าน อีกทั้งขัดระเบียบการค้าโลก เสี่ยงถูกตอบโต้ สับรัฐไร้รายละเอียด แนะฟังคำเตือน เชื่อทำ ธ.ก.ส.เสียหายกว่า 5 แสนล้าน ทำชาวบ้านกินข้าวแพง
วันนี้ (6 ก.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า เป็นห่วงนโยบายการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ซึ่งตนเองได้เคยอภิปรายเมื่อครั้งรัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐบาลว่าโครงการนี้มีความเสี่ยงสูงมาก ทำให้สต็อกพุ่ง แต่ราคาตลาดโลกกลับไม่ได้สูงขึ้นตามที่คาด เรื่องนี้เคยทำมาแล้วในปี 48-49 ใช้เงินไปแสนกว่าล้านบาท แต่เสียหายรวมทั้งหมด 1.9 หมื่นล้านบาท อีกทั้งเรื่องนี้ยังขัดกับระเบียบขององค์การการค้าโลก ที่เข้าไปแทรกแซงราคาสินค้า เสี่ยงต่อการตอบโต้ทางการค้า และจนถึงวันนี้รัฐบาลไม่เคยมีคำตอบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ไม่เคยชี้แจง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และ รมว.คลัง บอกเพียงแต่จะดำเนินการ แต่ไม่ได้อธิบายรายละเอียด
"เมื่อสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนา (ทีดีอาร์ไอ) ออกมาพูดเรื่องนี้ด้วยการ ให้ข้อมูลย้อนไปเมื่อปี 49-51 กลับถูกออกมาตอบโต้ว่าให้เอาตำแหน่งเป็นประกันหรือไม่ ทั้งที่นักวิชาการออกมาเตือนด้วยความหวังดี ถ้าอย่างนั้นทุกคนในสังคมก็สามารถท้ากลับได้ว่าคุณจะเอาตำแหน่งเป็นประกันไหม จะเอาทรัพย์สินของครอบครัวมาเป็นประกันไหม มันไม่สิ้นสุด คุณควรจะดูประเด็นท้วงติงแล้วหาเหตุผลมาหักล้าง ซึ่งผมไม่ได้บอกว่าไม่ให้เขาทำประเด็นนี้ เพราะประกาศชัดเจนว่าจะทำ ผมก็เแค่ออกมาเตือนว่าอาจจะเกิดปัญหาอะไรได้บ้างกลับไม่ตอบ” นายเกียรติกล่าว
นายเกียรติกล่าวว่า โครงการนี้อาจสร้างความเสียหาย 4-5 แสนล้านบาท แม้จะไม่ใช่เสียหายกับรัฐบาลโดยตรง แต่เสียหายกับอาจไปตกที่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ที่อาจเป็นผู้รับผิดชอบภาระการขาดทุนเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นขอให้รัฐบาลออกมาอธิบายสิ่งที่ตนเอง หรือทีดีอาร์ไอ ออกมาอธิบาย และให้หลักประกันว่าจะไม่เกิดความเสียหายต่อทั้งชาวนา และคนไทยทั้งประเทศ ต้องบริโภคข้าวแพงขึ้น ไม่ทำให้รัฐบาลขาดทุนแสนล้านไม่ทำให้ไทยเสี่ยงต่อการทำผิดกฎองค์การการค้าโลก ต้องตอบ ไม่ใช่ให้โฆษกออกมาท้าทายนักวิชาการ
วันนี้ (6 ก.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า เป็นห่วงนโยบายการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ซึ่งตนเองได้เคยอภิปรายเมื่อครั้งรัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐบาลว่าโครงการนี้มีความเสี่ยงสูงมาก ทำให้สต็อกพุ่ง แต่ราคาตลาดโลกกลับไม่ได้สูงขึ้นตามที่คาด เรื่องนี้เคยทำมาแล้วในปี 48-49 ใช้เงินไปแสนกว่าล้านบาท แต่เสียหายรวมทั้งหมด 1.9 หมื่นล้านบาท อีกทั้งเรื่องนี้ยังขัดกับระเบียบขององค์การการค้าโลก ที่เข้าไปแทรกแซงราคาสินค้า เสี่ยงต่อการตอบโต้ทางการค้า และจนถึงวันนี้รัฐบาลไม่เคยมีคำตอบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ไม่เคยชี้แจง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และ รมว.คลัง บอกเพียงแต่จะดำเนินการ แต่ไม่ได้อธิบายรายละเอียด
"เมื่อสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนา (ทีดีอาร์ไอ) ออกมาพูดเรื่องนี้ด้วยการ ให้ข้อมูลย้อนไปเมื่อปี 49-51 กลับถูกออกมาตอบโต้ว่าให้เอาตำแหน่งเป็นประกันหรือไม่ ทั้งที่นักวิชาการออกมาเตือนด้วยความหวังดี ถ้าอย่างนั้นทุกคนในสังคมก็สามารถท้ากลับได้ว่าคุณจะเอาตำแหน่งเป็นประกันไหม จะเอาทรัพย์สินของครอบครัวมาเป็นประกันไหม มันไม่สิ้นสุด คุณควรจะดูประเด็นท้วงติงแล้วหาเหตุผลมาหักล้าง ซึ่งผมไม่ได้บอกว่าไม่ให้เขาทำประเด็นนี้ เพราะประกาศชัดเจนว่าจะทำ ผมก็เแค่ออกมาเตือนว่าอาจจะเกิดปัญหาอะไรได้บ้างกลับไม่ตอบ” นายเกียรติกล่าว
นายเกียรติกล่าวว่า โครงการนี้อาจสร้างความเสียหาย 4-5 แสนล้านบาท แม้จะไม่ใช่เสียหายกับรัฐบาลโดยตรง แต่เสียหายกับอาจไปตกที่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ที่อาจเป็นผู้รับผิดชอบภาระการขาดทุนเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นขอให้รัฐบาลออกมาอธิบายสิ่งที่ตนเอง หรือทีดีอาร์ไอ ออกมาอธิบาย และให้หลักประกันว่าจะไม่เกิดความเสียหายต่อทั้งชาวนา และคนไทยทั้งประเทศ ต้องบริโภคข้าวแพงขึ้น ไม่ทำให้รัฐบาลขาดทุนแสนล้านไม่ทำให้ไทยเสี่ยงต่อการทำผิดกฎองค์การการค้าโลก ต้องตอบ ไม่ใช่ให้โฆษกออกมาท้าทายนักวิชาการ
