เอเยนซี - เพื่อดับไฟโทสะในบรรดาประชาชนและชาวเน็ตจีน ต่อกรณีรถไฟความเร็วสูงประสบอุบัติเหตุที่เมืองเวินโจวเมื่อเดือนที่ผ่านมา กระทรวงรถไฟตัดสินใจปลดโฆษกกระทรวงฯออกจากตำแหน่ง พร้อมกันนั้นก็ได้สั่งปรับลดความเร็วของรถไฟความเร็วสูงและลดจำนวนเที่ยวให้บริการลง
สำนักข่าวซินหวาเผยว่า กระทรวงรถไฟจีนออกมาแถลงเมื่อวันอังคาร (16 ส.ค.) ว่า ตัดสินใจปลดโฆษกกระทรวงรถไฟ นายหวัง หย่งผิงออกจากตำแหน่ง แต่ไม่ระบุเหตุผลการปลดดังกล่าว พร้อมกันนี้ได้ ได้โยกย้ายตำแหน่งนายหวัง หย่งผิง ไปเป็นกรรมการฝ่ายจีนในองค์การความร่วมมือเครือข่ายรถไฟที่ประเทศโปแลนด์
ทั้งนี้ องค์การความร่วมมือเครือข่ายรถไฟ ก่อตั้งขึ้นในปี 2499 โดยมีสมาชิกได้แก่ อัลบาเนีย บัลแกเรีย ฮังการี เวียดนาม เยอรมนีตะวันตก โซเวียต จีน มองโกเลีย โบแลนด์ เป็นต้น มีเป้าหมายพัฒนาการขนส่งทางรถไฟ การขนส่งทางรถยนต์ และพัฒนาเทคโนโลยีการขนส่ง
หวัง หย่งผิง กลายมาเป็นจุดรวมความโกรธเกรี้ยวของประชาชน เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในบทบาทหน้าที่การแถลงข่าวกรณีอุบัติเหตุรถไฟความเร็วสูงชนท้ายที่เมืองเวินโจว
เมื่อวันที่ 23 ก.ค. รถไฟความเร็วสูงขบวน D301 ปักกิ่ง-ฝูเจี้ยน พุ่งเข้าชนท้ายรถไฟความเร็วสูงขบวน D3115 ที่วิ่งจากหังโจว - ฝูโจว ขณะที่ D3115 จอดนิ่งอยู่เนื่องจากเสียการควบคุมหลังจากที่ถูกฟ้าผ่า ทำให้ตู้รถไฟ 4 ตู้ตกลงมาจากสะพานสูง 20 เมตร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 40 และบาดเจ็บเกือบ 200 จุดกระแสโกรธเคืองไปทั่วจีน พร้อมกับคำถามเรื่องความปลอดภัยและการจัดการถาโถมเข้าใส่กระทรวงรถไฟและรัฐบาล
ตัวอย่างหนึ่ง เช่น เมื่อมีผู้สื่อข่าวไปถามเกี่ยวกับเด็กหญิงที่ถูกดึงออกจากซากรถไฟแล้วรอดชีวิตนั้น หวังพูดเพียงว่า “ชีวิตมีปาฏิหาริย์” แค่นั้น
ในอีกเหตุการณ์หนึ่ง เมื่อมีผู้สอบถามว่า ทำไมรัฐบาลถึงรีบฝังชิ้นส่วนของตู้รถไฟ เขาก็อธิบายว่า เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับกู้ภัย ก่อนจะทิ้งท้ายประโยคว่า “คุณเชื่อหรือเปล่าล่ะ แต่ผมเชื่อว่าอย่างนั้นนะ”
พฤติกรรมบ่ายเบี่ยงและไร้ความรับผิดชอบของนายหวังนั้น ทำให้ชาวจีนโมโหโกรธา ซึ่งยิ่งทำให้เกิดความสงสัยไปอีกว่าเหตุใดอุบัติเหตุจึงเกิดขึ้น และรถไฟความเร็วสูงปลอดภัยจริงหรือ
ในเว็บเวยปั๋วจีน ซึ่งมีชาวเน็ตใช้บริการกว่า 35,000 คน ก็เปิดเผยว่า 97 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามไม่เชื่อคำพูดของหวังเกี่ยวกับอุบัติเหตุในครั้งนั้น
ปรับลดความเร็วและเที่ยวบริการรถไฟความเร็วสูง
รถไฟความเร็วสูง 3 เส้นทาง ได้แก่ ปักกิ่ง-เทียนจิน ก่วงโจว-จูไห่ และไห่หนาน อิสเทิร์น ริง เรลเวย์ ถูกสั่งปรับลดความเร็วลงอีก 50 กม.ต่อชั่วโมง ขณะที่เส้นทางปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้ปรับลดจำนวนให้บริการต่อวันลง 1 ใน 4
รองนายกรัฐมนตรีจัง เต๋อเจียง แถลงว่า เมื่อประสบอุบัติเหตุรถไฟแล้วก็ได้มีการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด เพื่อเร่งแก้ไขและฟื้นภาพลักษณ์ของรถไฟจีนคืนมา
คณะมุขมนตรีจีนตัดสินใจเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า การตรวจสอบความปลอดภัยนั้นจำเป็นอย่างมากสำหรับรถไฟที่วิ่งเร็วกว่า 200 กม.ต่อชั่วโมง โดยสองบริษัทผู้ผลิตรถไฟจีน CNR และ CSR พร้อมด้วยบริษัทไชน่าเรลเวย์ ซิกนัล แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น คอร์ปอเรชั่น ก็จะต้องถูกตรวจสอบทั้งหมด
หวัง จิน นักธุรกิจที่ต้องเดินทางระหว่างเทียนจิน-ปักกิ่ง ก็ชี้ว่า การกู้ภาพลักษณ์ก็ถือว่าต้องทำ แต่อย่างไรก็ตามคงทำอะไรไม่ได้มาก หากตัดสินใจลดความเร็วรถไฟฯ ลดแค่ 3 นาทีคงไม่ช่วยให้ปลอดภัยขึ้นมาได้
ตารางข่าวในหน้าเว็บกระทรวงรถไฟฯ ระบุ การโดยสารเส้นทางปักกิ่ง-เทียนจินจะช้าขึ้นกว่าเดิมอีก 3 นาที และราคาตั๋วก็จะลดลง 3 หยวน (5 เปอร์เซ็นต์)
นักสังเกตการณ์บางคนระบุว่า จำนวนรถไฟสายปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้ให้บริการน้อยลงจาก 88 เหลือ 66 เที่ยว นักเดินทางบางคนต้องจองล่วงหน้าก่อน เนื่องจากมิอาจหวังว่า จองวันนี้จะมีที่เหลือ
เจ้าหน้าที่ขายตั๋วเผยว่า “ขณะนี้รถไฟลดจำนวนเที่ยวลง คุณสามารถซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ก่อน 2 หรือ 3 วัน แต่ฉันไม่คิดว่าคุณจะต้องรีบร้อนขนาดจองล่วงหน้าถึง 5 วัน”
อย่างไรก็ตาม มีคำถามเกี่ยวกับจำนวนเก้าอี้นั่งบนรถไฟฟ้า นับแต่ให้บริการมา ซึ่งทางการอ้างว่าคนจองเต็มเกินไปถึง 107 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ก็มีชาวเน็ตถ่ายภาพเก้าอี้ว่างขึ้นเวยปั๋วให้เห็นเพียบ
เจ้าหน้าที่ฯ เผยว่า อัตราที่นั่งเต็มเกิน 100 เปอร์เซ็นต์ตลอด เพราะจำนวนผู้โดยสารมีขึ้นมีลงตลอดเส้นทางการเดินรถ
ดร. ซ่ง กั๋วฮวา แห่งมหาวิทยาลัยเป่ยจิงเจียวทง ชี้ว่า การลดความเร็วและจำนวนรถไฟลงจะช่วยยืนยันเรื่องความปลอดภัย “รถไฟเที่ยวน้อยลงแสดงว่ารถไฟได้พักช่วงนานขึ้น และจะทำให้สามารถตรวจสอบอะไรต่อมิอะไรได้นานขึ้น”
รัฐมนตรีกระทรวงรถไฟ นายเซิ่ง กวงจู่ เผยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า นอกจากตัดสินใจลดความเร็วไปแล้ว 4 เส้นทาง ขณะนี้ก็กำลังจะปรับลดความเร็วลงอีก 7 เส้นทางในอนาคตอันใกล้