เอเยนซี - เด็กหญิงตัวน้อยวัย 2 ขวบรอดตายปาฏิหาริย์อยู่ในเศษซากของรถไฟความเร็วสูงที่ปะทะกัน โดยหลังจากเกิดเหตุถึง 21 ชั่วโมง หน่วยกู้ภัยเพิ่งจะพบเธอ
อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ เวลาประมาณ 20.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ สะพานรถไฟฯ เมืองเวินโจว มณฑลเจ้อเจียง โดยรถไฟความเร็วสูงขบวน D301 ปักกิ่ง-ฝูเจี้ยน ได้พุ่งชนท้ายรถไฟความเร็วสูงขบวน D3115 ที่วิ่งจากหังโจว - ฝูโจว ขณะที่ D3115 จอดนิ่งอยู่เนื่องจากเสียการควบคุมหลังจากที่ถูกฟ้าผ่า
ไชน่าเดลีเผย “เซียง เว่ยอี้” สาวน้อย 2 ขวบเดินทางมากับผู้ปกครองของเธอเมื่อวันเสาร์โดยรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่เธอนั่งมา D3115เกิดจอดดับ และถูกอีกขบวนหนึ่งชนเสยท้าย เป็นเหตุให้ 4 ตู้หล่นลงมาจากราวสะพาน
กู้ภัยเพิ่งจะพบสาวน้อยในตู้สุดท้ายของขบวนรถไฟ เมื่อบ่ายวันอาทิตย์ (24 ก.ค.)
เจ้าหน้าที่เกรงว่าพ่อและแม่ของเธออาจเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งทางกระทรวงรถไฟออกมาเปิดเผยยอดผู้เสียชีวิต เป็น 36 ราย บาดเจ็บ 192 ราย เมื่อวันจันทร์ (25 ก.ค.)
แพทย์ผู้ดูแลไข้บอกกับสำนักข่าวซินหวาว่า อาจจะต้องตัดขาซ้ายของเธอทิ้ง “เรากำลังเฝ้าสังเกตการหมุนเวียนโลหิตในขาซ้ายของคนไข้ และกำลังรอตัดสินใจว่าจะต้องตัดขาเธอทิ้งหรือไม่” นายแพทย์พัน กั๋วเฉวียน กล่าว
การเสยท้ายรถไฟฯในครั้งนี้ส่งผลให้ตู้รถไฟ 6 ตู้ตกราง 4 ตู้ตกรางอยู่บนสะพาน อีก 2 ตู้หล่นลงมากองกับพื้น อีก 1 ตู้ หล่นทิ่มดินพาดราวสะพานเป็นแนวตั้ง
นาทีสลดของเด็กชาย 8 ขวบ
โรงพยาบาลคังหนิง เมืองเวินโจว รับผู้ป่วยบาดเจ็บจากเหตุฯ ดังกล่าว 54 ราย และเด็กชาย 8 ขวบอีกรายที่อาการไม่หนักหนาสาหัส อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ บิดาของเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทันที ขณะที่มารดากำลังอยู่ในระหว่างการรักษา
เด็กน้อยร่ำไห้ว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเดินทางไกลขนาดนี้” สมาชิกครอบครัวของเขาอยู่ในตู้แรกของบวนรถไฟ 6 คน
“ผมได้ยินเสียงปะทะดังมาก ทันทีก็มีประกายไฟขึ้น ตู้รถไฟเริ่มหมุน ผมหมดสติหลังจากกระเป๋าเดินทางของใครไม่รู้หล่นใส่หัว”
หลังจากรถไฟร่วงสู่พื้น เด็กชายก็ฟื้นสติ พยายามหาทางออกจากตู้รถไฟที่มืดสนิทกว่า 10 นาที
“เมื่อผมคลานออกมาภายนอก เห็นผู้คนร้องห่มร้องไห้ แต่ผมไม่ร้อง ผมแค่ต้องการหาพ่อกับแม่”
เด็กชายกวาดสายตา พบแม่ของตนอยู่ในอาการสาหัส ต่อมาทั้งเขาและแม่ก็ถูกอุ้มขึ้นรถพยาบาล “ผมเขย่าแขนแม่แล้วบอกให้แม่ตื่น แต่แม่ไม่พูดกับผมเลย”
แม่เฒ่าใจเด็ด “สั่งโดด” หนีตาย
ขณะที่ผู้โดยสารอีกคนเป็นแม่เฒ่าแซ่เฝิงวัย 62 และครอบครัวของเธอ ได้ตัดสินใจกระโดดออกจากรถทางช่องหน้าต่างรอดตายปาฏิหาริย์
นางเฝิง พร้อมด้วยสามีและหลายชายวัย 14 นั่งอยู่ในตู้ที่ 4 ของขบวนฯ ซึ่งเป็นตู้ที่ห้อยลงมาทิ่มดินในแนวตั้ง
นางเฝิงเล่าว่า “มีประกายไฟสว่างวูบ แล้วตู้รถไฟก็เขย่าอย่างรุนแรง ผู้โดยสารหกคะเมนตีลังกาไปหมด เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ด้วยสัญชาตญาณ ฉันได้แต่ตะโกนให้หลานวิ่ง ต่อมาผู้โดยสารที่รอดก็พยายามทุบหน้าต่างรถไฟฯ แล้วพวกเราก็ตัดสินใจโดดออกมา ตอนนั้นไม่ได้คิดถึงความสูงใด ๆ ทั้งสิ้น ก็โดดลงมาเลย”