ฟ็อกซ์บิสซิเนส - นักวิเคราะห์ไม่กังวลการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน ที่เริ่มแผ่วลง ระบุไม่ดิ่งลงอย่างรุนแรง
แม้ในรายงานประจำปีเกี่ยวกับจีนของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสฯ (21 ก.ค.) ระบุว่า เศรษฐกิจจีนกำลังไปได้ “ดีทีเดียว” และยังมีโอกาสให้ใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินต่อไป
อย่างไรก็ตาม สัญญาณล่าสุด ที่ตอกย้ำถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ที่เริ่มชะลอลง อันได้แก่ผลการสำรวจดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ประจำเดือนก.ค. 2554 โดยธนาคารHSBC ก็อาจเพิ่มความวิตกกังวลในหมู่นักลงทุนทั่วโลก ซึ่งวิตกกังวลอยู่แล้วเกี่ยวกับปัญหาความเสี่ยงจากวิกฤตหนี้สาธารณะของยุโรป และการเติบโตอย่างเฉื่อยเนือยของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ผลสำรวจดัชนี PMI ประจำเดือนก.ค. โดย HSBC ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดกิจกรรมความเคลื่อนไหวภาคอุตสาหกรรมของจีน ที่ออกมาตัวแรกสุด อยู่ที่ระดับ 48.9 จุด ลดลง 1.2 จุด จากเดือนมิ.ย.ซึ่งอยู่ที่ระดับ 50.1 จุด นับเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบปีของภาคการผลิตแดนมังกร และเป็นการหดตัวอย่างรวดเร็วที่สุด นับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2552 ทั้งนี้ ภาคการผลิตของจีนคิดเป็นสัดส่วนราวร้อยละ 40 ของจีดีพีของประเทศ
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายรายคาดว่า เศรษฐกิจจะไม่ดิ่งลงอย่างรุนแรง เนื่องจากได้แรงหนุนจากการขยายเมืองอย่างรวดเร็ว และการบริโภคของประชาชนในประเทศ ที่กำลังแข็งแกร่งขึ้น โดยนาย หวัง จิน นักวิเคราะห์แห่งบริษัทหลักทรัพย์ Guotai Junan Securities ระบุว่า เศรษฐกิจจีนจะยังคงชะลอการเติบโตในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เนื่องจากธนาคารกลางจีนยังไม่มีสัญญาณว่าจะยกเลิกนโยบายคุมเข้มทางกการเงิน แต่การชะลอตัวนี้อยู่ในขอบเขต ที่สบายใจได้
ด้านนาย ฉู่ หงปิน หัวหน้านักวิเคราะห์เศรษฐกิจจีนของHSBC ก็มองไปในทิศทางเดียวกัน โดยเห็นว่า การใช้จ่าย ที่ฟื้นตัวดีขึ้นของผู้บริโภค และการลงทุน ซึ่งยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องในโครงการก่อสร้างสิ่งสาธารณูปโภค ซึ่งมีมากมายหลายโครงการนั้น จะหนุนให้จีดีพีของจีนโตเกือบร้อยละ 9 ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ทั้งนี้ สมาพันธ์โลจิสติกส์และการจัดซื้อแห่งชาติของจีนมีกำหนดประกาศดัชนี PMI เดือนก.ค.ในวันจันทร์ที่ 1 ส.ค.นี้