xs
xsm
sm
md
lg

จับตามหานครฉงชิ่ง หมายผงาดเทียบชั้นเซินเจิ้นและผู่ตง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สภาพความเจริญของมหานครฉงชิ่ง ซึ่งกำลังเติบโตไม่หยุดยั้งจากนโยบาย มุ่งสู่ตะวันตก ของรัฐบาลจีน - เอเจนซี่
เอเอฟพี - ในชั่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา “ ฉงชิ่ง” มหานครทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ ขนาดใหญ่เท่ากับมณฑลหนึ่ง และมีประชากรกว่า 32 ล้านคน ได้ผันตัวเองจากสภาพการเป็น “เตาหลอมโลหะ” หรือเมืองอุตสาหกรรมระดับกลาง มาเป็นนครศูนย์กลางด้านธุรกิจที่สำคัญได้ก็เพราะนโยบาย “มุ่งสู่ตะวันตก” ของรัฐบาลจีนเป็นตัวการสำคัญ

นโยบายดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อเปิดประตูให้นักลงทุนและประชาชน ก้าวเข้าไปพัฒนาภูมิภาคตอนใน ซึ่งเจริญน้อยกว่าดินแดนส่วนอื่น ๆ ของจีน โดยเสนอมาตรการจูงใจทางการเงินให้แก่บริษัทผู้ประกอบการ ที่เข้าไปเปิดธุรกิจในมณฑลตอนใน มากกว่าพวกที่เข้าไปดำเนินกิจการในเขตใจกลางอุตสาหกรรรมแถบชายฝั่งทะเล

เมื่อเดือนมี.ค. ในการเปิดเผยแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปีฉบับที่ 12 ของรัฐบาลจีน ได้ตั้งเป้าพัฒนาเขตเศรษฐกิจใหม่เหลี่ยงเจียงในมหานครฉงชิ่ง ให้ประสบความสำเร็จทัดเทียมอย่างที่นครเซินเจิ้นทางภาคใต้เคยทำไว้ในช่วงทศวรรษ1980 และเขตเศรษฐกิจพิเศษผู่ตงในนครเซี่ยงไฮ้ในช่วงทศวรรษ 1990

ในปัจจุบัน มหานครฉงชิ่งยังกำลังกลายเป็นศูนย์กลางการขนส่งสำคัญ ที่ตั้งอยู่ตรงพรมแดนระหว่างภาคตะวันออก อันเฟื่องฟูมั่งคั่ง กับภาคตะวันตก ซึ่งยากจนกว่า

“นักลงทุนกำลังแห่กันไปที่ฉงชิ่ง เพื่อแสวงหาประโยชน์ความได้เปรียบจากตลาดในภาคตะวันตก ซึ่งแสดงให้เห็นการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง” นายหวง เฉิงเฟิง หัวหน้าสถาบันการเงินและเศรษฐกิจของมหาวิทยาลัยฉงชิ่งเจียวทงระบุ

นักลงทุนเหล่านี้ ยังรวมถึงนักลงทุนจากทั่วโลก โดยค่ายผู้ผลิตรถยนต์ฟอร์ด และฮอนด้า บริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือโนเกียจากฟินแลนด์ หรือบริษัทผู้ค้าปลีกยักษ์ใหญ่สัญชาติฝรั่งเศสคาร์ฟูร์ ตลอดจนกลุ่มบริษัทด้านเคมีภัณฑ์บีเอเอสเอฟ ของเยอรมนี ล้วนอยู่ในกลุ่มบริษัทต่างชาติรายใหญ่ ที่เข้ามาลงทุนในมหานครฉงชิ่งแล้วทั้งสิ้น

นาย มาริน บูเรล่า ประธานและซีอีโอของบริษัทฉางอัน ฟอร์ด มาสด้า ระบุว่า สถานที่ตั้งของมหานครฉงชิ่งเป็นโอกาสด้านยุทธศาสตร์ ที่เหลือเชื่อ เพราะเชื่อมต่อกับภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก โดยขณะนี้มหานครฉงชิ่งได้กลายเป็นศูนย์กลางด้านยานยนต์ไปแล้ว และฟอร์ดจะเปิดโรงงานใหม่อีก 3 แห่งในเร็ว ๆ นี้ เพื่อผลิตรถให้ทันยอดขาย ซึ่งโตกว่าร้อยละ 56 ในปีที่แล้ว โดยมหานครฉงชิ่งจะกลายเป็นศูนย์กลางรถยนต์ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลกนอกเมืองดีทรอยต์สำหรับฟอร์ด

มหานครแห่งนี้ยังกำลังกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตสินค้าไฮเทคอย่างรวดเร็ว โดยฟ็อกซ์คอนน์ บริษัทผู้รับเหมาผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่สุดของโลก เอเซอร์ บริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลชั้นนำของไต้หวัน และบริษัทฮิวเล็ตต์-แพ็กการ์ด ได้เข้ามาลงทุนที่นี่แล้วเช่นกัน

ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ดินแดนแห่งนี้จะผลิตคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปมากถึง 1 ใน 3 ของคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปทั้งหมด ที่ขายทั่วโลก

การขนส่งสินค้าคุณภาพสูงเหล่านี้ ฉงชิ่งอาศัยเครือข่ายทางรถไฟเป็นหลัก ซึ่งจะแล่นผ่านภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ภูมิภาคซินเจียงทางภาคตะวันตกไกล ภูมิภาคเอเชียกลาง และรัสเซีย เพื่อไปถึงยุโรปตะวันตก เส้นทางรถไฟนี้จะย่นระยะเวลาการเดินทางการขนส่งทางเรือ ซึ่งออกจากนครเซี่ยงไฮ้ ฮ่องกง หรือกรุงไทเปได้อย่างมาก โดยย่นเวลาการเดินทางไปยุโรปจากราว 40 วันโดยทางเรือ เหลือเพียง 15 วันโดยทางรถไฟ

นายอดัม แม็กเวอร์เตอร์ ผู้แทนประจำท้องถิ่นจากหอการค้าสหภาพยุโรปถึงกับการันตีความสามารถด้านโลจิสติกส์ของมหานครฉงชิ่งว่า มหานครฉงชิ่งจะเข้าถึงได้ทั้งโลก
กำลังโหลดความคิดเห็น