เอเยนซี - สื่อทางการจีนรายงาน (25 พ.ค.) ว่า ภาคกลางจีนและบริเวณแม่น้ำแยงซีเกียง กำลังประสบภัยแล้งหนักสุดในรอบกว่า 50 ปี ขณะที่ สำนักงานควบคุมอุทกภัยและภัยแล้งของจีน สั่งการปล่อยน้ำจากอ่างเก็บน้ำเขื่อนสามโตรก เพื่อบรรเทาภัยแล้ง
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาจีน ได้เตือน(24 พ.ค.)ว่า ภาคกลางและภาคใต้ของจีน อาจต้องเผชิญกับภาวะฝนแล้งและอากาศร้อนถึง 36 องศาเซลเซียส ต่อเนื่องไปอีก 10 วัน
ไชน่า เดลี่ รายงานว่า ตั้งแต่เดือนม.ค. ถึง เม.ย.ที่ผ่านมา บริเวณแม่น้ำแยงซี ซึ่งเป็นแม่น้ำสายเศรษฐกิจที่สำคัญสุดของจีน มีปริมาณน้ำฝนลดลงเฉลี่ย 40 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปริมาณเฉลี่ยตลอด 50 ปีที่ผ่านมา
ขณะนี้ เจ้าหน้าที่สำนักงานควบคุมอุทกภัยและภัยแล้งของจีน ได้สั่งการให้มีการปล่อยน้ำจากอ่างเก็บน้ำของเขื่อนสามโตรก ซึ่งเป็นเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำใหญ่สุดในโลกของจีน ลงสู่แม่น้ำสายแยงซีเกียง เพิ่มขึ้นอีก 10-20 เปอร์เซ็นต์ หรือราว 5,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ภายใน 2 สัปดาห์ต่อจากนี้ เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับการอุปโภค-บริโภคของชาวจีนที่อาศัยอยู่บริเวณตอนกลางและตอนล่างของแม่น้ำแยงซี
หยวน จวินก่วง ผู้อำนวยการการจัดการอ่างเก็บน้ำหูเป่ย เผยว่า ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำมากกว่า 1,600 แห่ง ในมณฑลหูเป่ย ลดลงต่ำลงมาก
ข้อมูลสำนักงานกิจการพลเรือนประจำมณฑลหูเป่ย ระบุ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา(23พ.ค.) ภัยแล้งรุนแรงได้ส่งผลให้ชาวจีนในมณฑลหูเป่ยเกือบ 10 ล้านคน ได้รับความเดือดร้อน และพื้นที่การเกษตรเสียหาย ราว 7.3 ล้านไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจราว 7,100 ล้านหยวน(ราว1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ขณะเดียวกัน เกษตรกรในมณฑลหูเป่ย ต่างสูญเสียผลผลิตทางการเกษตรจำนวนมาก และบางรายก็ต้องยกเลิกการปลูกข้าว เนื่องจาก กังวลว่าจะไม่มีน้ำในปริมาณที่เพียงพอ หลังจากที่กรมอุตุนิยมวิทยาจีน พยากรณ์ว่า ภัยแล้งจะเกิดต่อเนื่องไปอีกหลายวัน
ตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา ปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ส่วนใหญ่ของมณฑลหูเป่ย ลดลงราว 50 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ในบางพื้นที่ของจีน ปริมาณน้ำฝนลดน้อยลงกว่าปกติถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ มณฑลอันฮุย เจียงซู หูเป่ย หูหนาน เจียงซี และมณฑลเจ้อเจียง พร้อมด้วย เทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ กำลังเผชิญปัญหาภัยแล้งรุนแรงสุดนับตั้งแต่ปี 2497
ข้อมูลสถิติจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาจีน ระบุ ระดับน้ำในแม่น้ำต้งถิง ซึ่งอยู่บริเวณตอนกลางของแม่น้ำแยงซี ลดลงถึง 73 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันจากปีที่แล้ว(2553)
นอกจากนี้ ภัยแล้งดังกล่าว ซึ่งทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำแยงซี ลดลงมากถึง 3 เมตร (ราว 10 ฟุต) ยังส่งผลกระทบต่อโลมานับ 1,000 ตัว ที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำดังกล่าว เสี่ยงต่อการเกยตื้นได้
อนึ่ง พื้นที่บริเวณแม่น้ำแยงซี มักประสบกับภัยแล้งและน้ำท่วมสลับกันอยู่เป็นประจำ โดยเมื่อช่วงฤดูร้อนปี2553 บริเวณดังกล่าว มีฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมสูง และดินถล่ม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 3,000 คน
บริษัทการไฟฟ้าแห่งประเทศจีน (State Grid Corporation of China) ได้รายงานในสัปดาห์นี้ว่า ผลกระทบด้านการผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำที่เกิดขึ้นจากภัยแล้ง จะส่งผลให้ 10 มณฑลของจีน รวมทั้งเซี่ยงไฮ้ และมหานครฉงชิ่ง ประสบกับภาวะการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้า ขณะเดียวกัน ในช่วงฤดูร้อนของจีนปีนี้ จะขาดแคลนพลังงานไฟฟ้า30 กิกกะวัตต์ ซึ่งมากสุดในรอบ 7 ปี