พีเพิล เดลี - สำนักงานพลังงานแห่งชาติ หรือ เอ็นอีเอ เผย(15 พ.ค.) ว่า การบริโภคพลังงานของจีนในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 11.4 เปอร์เซ็นต์ปีต่อปี เท่ากับ 376,800 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง ซึ่งนับว่าชะลอตัวลง เมื่อเปรียบกับอัตราบริโภคพลังงานของเดือนมี.ค. เท่ากับ 2.21 เปอร์เซ็นต์
เสวีย จิ้ง ผู้อำนวยการแผนกสถิติของสภาการไฟฟ้าจีน เผยว่า “แม้ว่าอัตราการบริโภคพลังงานของจีนจะชะลอตัวลงในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา แต่ปริมาณความต้องการบริโภคพลังงานในจีนยังคงอยู่ระดับสูง โดยเฉพาะแถบตะวันตกของจีน”
สำหรับการบริโภคพลังงานของจีนในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา เท่ากับ 388,800 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง
ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา การบริโภคพลังงานในเขตปกครองตนเองชาชาติอุยกูร์มณฑลซินเจียง เพิ่มขึ้น 34.8 เปอร์เซ็นต์ปีต่อปี ขณะที่ ในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน มีการบริโภคพลังงาน 22.3 เปอร์เซ็นต์ และ18.1 เปอร์เซ็นต์ในเขตปกครองตนเองชนชาติหุยมณฑลหนิงเซี่ย รวมทั้ง 17.5 เปอร์เซ็นต์ในมณฑลกานซู่
ในทางกลับกัน การบริโภคพลังงานในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ของมณฑลเจ้อเจียงและมณฑลเจียงซู เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว(2553) 7.3 เปอร์เซ็นต์ และ 11.3 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ
การบริโภคพลังงานในช่วง 4 เดือนแรกของจีน รวมทั้งสิ้นเท่ากับ 1.47 ล้านล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง เพิ่มขึ้น 12.4 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อนหน้า(2553) โดยภาคกสิกรรมใช้พลังงานไป 27,900 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง เพิ่มขึ้น 3.2 เปอร์เซ็นต์ปีต่อปี ภาคอุตสาหกรรมการผลิตใช้พลังงาน 1.09 ล้านล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง เพิ่มขึ้น 12.1 เปอร์เซ็นต์ และภาคการบริการ บริโภคพลังงานไป 161,500 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง เพิ่มขึ้น 15 เปอร์เซ็นต์
สำหรับภาคครัวเรือน บริโภคพลังงานสูงสุด 188,600 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง เพิ่มขึ้น 13.2 เปอร์เซ็นต์ปีต่อปี