บริษัทอื่นผวา! เมื่อจีนปรับยูนิลีเวอร์

เอเอฟพี - การตัดสินใจของจีนที่ปรับบริษัทยักษ์ใหญ่สินค้าอุปโภคยูนิลีเวอร์เหตุวางแผนจะขึ้นราคาสินค้านั้น ได้ส่งกระแสความหวาดกลัวไปยังบริษัทอื่น ๆ และได้ชี้ให้เห็นความกังวลของจีนในการควบคุมราคาสินค้าอย่างเข้มงวด

ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า การปรับยูนิลีเวอร์ บริษัทสินค้าอุปโภคบริติช-ดัตช์ เป็นเงิน 2 ล้านหยวน แสดงให้เห็นอุปสรรคที่เหล่าบริษัทขายสินค้าในครัวเรือนทั้งหลายกำลังเผชิญ เมื่อจีนให้ความสำคัญกับเสียรภาพทางสังคมมาเป็นอันดับ 1

คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) หน่วยงานที่มีอำนาจดูแลการวางแผนเศรษฐกิจจีนเผยในเว็บไซต์เมื่อวันศุกร์ (7 พ.ค.) ว่า “ยูนิลีเวอร์ ไชน่า ทำให้ระเบียบตลาดของจีนยุ่งเหยิง โดยการแพร่ข่าวสารที่มีผลทำให้ผู้บริโภคเชื่อว่าสินค้าทั้งหมดจะแห่กันขึ้นราคา สร้างความหวาดกลัวในสังคม”

ชาอัน เรน กรรมการผู้จัดการกลุ่มวิจัยตลาดจีนในเซี่ยงไฮ้เผยว่า “มาตรการปรับนี้ใช้ไม่บ่อยนัก ผมคิดว่า นี่เป็นหนทางที่ทำให้บริษัททั้งหลายกลัว และจะหันมาคิดแล้วคิดอีกก่อนที่จะตัดสินใจขึ้นราคาสินค้า”

ยูนิลีเวอร์ชี้ว่า บริษัทฯจะเลื่อนการขึ้นราคาสินค้าออกไปจากที่แผนเดิมมีกำหนดในเดือนเม.ย. ตามคำสั่งของ NDRC หลังจากจีนแพร่ภาพสินค้าที่วางขายในห้างฯ จำพวกสบู่ ผงซักฟอกที่มีการขึ้นราคาหลายเท่าตัว

อาเธอร์ โครเบอร์ กรรมการผู้จัดการดรากอนโนมิกส์ ประจำกรุงปักกิ่ง ชี้ว่า การตัดสินใจของรัฐบาลจีนเป็นลักษณะพิเศษ นั่นคือรัฐบาลต้องการแทรกแซงปฏิบัติการตลาดเสรีอย่างเข้มข้น นั่นจะทำให้บริษัทต่าง ๆ ทำนายสิ่งแวดล้อมของตลาดได้ยากขึ้น”

ผู้นำของจีนกำลังกังวลและเร่งควบคุมราคาบ้านและอาหารที่พุ่งสูง โดยเฉพาะปัญหาเงินเฟ้อที่เป็นปัญหาหลักอันอาจก่อให้เกิดการจลาจลในจีน เฉกเช่นเดียวกับที่เกิดในโลกอาหรับมาแล้ว โดยในเดือนเม.ย.เงินเฟ้อจีนยังคงสูง 5.3 เปอร์เซ็นต์ ลดลงจาก 5.4 เปอร์เซ็นต์ในเดือนก่อนหน้าเพียงเล็กน้อย

ธนาคารกลางจีนก็ตอบโต้กับปัญหาราคาสินค้าแพงด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้ง ตั้งแต่เดือนต.ค. 2553 และเพิ่มเงินทุนสำรองธนาคาร พร้อมเข้มงวดการปล่อยกู้

รัฐบาลจีนแทรกแซงตลาดโดยตรง และเตือนบริษัททั้งหลายรวมทั้งบริษัทบะหมี่กึ่งสำเร็จไต้หวัน ติ่งอี้ ไม่ให้ขึ้นราคาสินค้า และรัฐบาลก็ลงโทษกับผู้กักตุนสินค้าอย่างหนักด้วย

โครเบอร์ชี้ว่า “การที่จีนบอกบริษัทต่าง ๆ ไม่ให้ขึ้นราคาย่อมไม่มีผลอะไร แต่หากปรับเป็นเงินแล้ว เท่ากับบอกว่า การขึ้นราคานั้นบริษัทเหล่านั้นจะต้องถูกลงโทษ”

“แต่มาตรการปรับฯ นี้ก็มีผลกระทบทางด้านราคาเพียงน้อยนิดเท่านั้น ปัญหาที่แท้จริงอยู่ที่รัฐบาลจีนยังคงแทรกแซงไม่ยอมแข็งค่าเงินหยวนต่อดอลลาร์มากกว่า” นักวิเคราะห์ชี้

การขึ้นราคาสินค้าทั่วโลกทำให้กำไรหน่วยสุดท้ายของบริษัทลดลงไปด้วย ซึ่งส่งผลให้บริษัทมีต้นทุนการผลิตสูงเนื่องจากราคาวัตถุดิบที่พุ่งสูงขึ้น