ซีพีไอจีนเดือนเม.ย. เริ่มชะลอตัวลง

เอเจนซี -สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน แถลง ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ ซีพีไอ เดือนเม.ย. ขยายตัว 5.3 เปอร์เซ็นต์ปีต่อปี ขยับลง 0.1 เปอร์เซนต์ จากเดือนมี.ค. ซึ่งตัวเลขซีพีไอเดือนมี.ค. ทุบสถิติในรอบ 32 เดือน เท่ากับ 53.4 เปอร์เซนต์  

อย่างไรก็ตาม ซีพีไอในเดือนเม.ย. ยังคงทะลุเพดานเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดในปีนี้ ไว้ที่ 4 เปอร์เซ็นต์

นักวิเคราะห์จีนชี้แนวโน้มซีพีไอจีนจะชะลอลง เนื่องจากการขยายตัวของอุปทานสินค้าการเกษตรทำให้ราคาลดลง อย่างไรก็ตาม กลุ่มนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าราคาสินค้ายังคงอยู่ในระดับสูง และจะพุ่งสูงสุดราวกลางปีนี้ แม้ว่ารัฐบาลจีนจะพยายามควบคุมราคาสินค้าต่างๆ อาทิ อาหาร ที่อยู่อาศัย ฯลฯ

เซิ่ง ไหลอวิ้น โฆษกสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน กล่าวว่า “แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของซีพีไอ ได้รับการควบคุมแล้ว และชุดมาตรการคุมเข้มราคาสินค้าของรัฐบาลจีน เริ่มได้ผล”

“อย่างไรก็ตาม ซีพีไอยังอยู่ภายใต้แรงกดดันขนาดใหญ่ เนื่องจากสถานการณ์ทั้งภายในประเทศและในต่างประเทศ”

อลิซแทร์ ทอร์นทัน นักเศรษฐศาสตร์ของ IHS Global Insight ชี้ว่า “การที่ตัวเลขซีพีไอจีนลดลง เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า เงินเฟ้อกำลังจะถึงจุดสูงสุด ซึ่งหมายความว่า ภาวะเงินเฟ้อ ยังน่ากังวล”

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ ได้คาดการณ์ว่า ชุดนโยบายคุมเข้มเงินเฟ้อของรัฐบาลจีน จะทำให้ในสิ้นปี เงินเฟ้อจีนอาจลดลง แต่ยังอยู่ระดับสูงกว่า 4 เปอร์เซ็นต์

ทั้งนี้ นับตั้งแต่เดือนต.ค.2553 ธนาคารกลางจีนได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว 4 ครั้ง และได้เพิ่มสัดส่วนสำรองเงินฝากอีกหลายครั้ง เพื่อควบคุมปริมาณเงินสำหรับการปล่อยกู้

หวัง ฉีซาน รองนายกรัฐมนตรีจีน กล่าวระหว่างการเจรจาระดับสูงระหว่างจีน- สหรัฐฯ ในประเด็นการค้าและสิทธิมนุษยชน ที่กรุงวอชิงตัน ซึ่งปิดฉากลงเมื่อวาน(10 พ.ค.) ว่า “ปัญหาหนักสุดที่จีนกำลังเผชิญในตอนนี้ คือ ปัญหาเรื่องเงินเฟ้อ”

พร้อมกล่าวว่า "รัฐบาลจะใช้นโยบายด้านการเงิน นโยบายด้านการคลัง และการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ เพื่อแก้ปัญหาราคาสินค้าที่กำลังพุ่งสูง”

ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา เวิน จยาเป่า นายกรัฐมนตรีจีน ได้ให้คำมั่นว่าจะปรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนให้มีเคลื่อนไหวอิสระมากขึ้น เพื่อลดแรงกดดันของราคาสินค้า พร้อมทั้ง เสนอให้รัฐบาลจีน ยอมปรับเงินหยวนให้แข็งค่าขึ้น เพื่อลดราคาสินค้าภายในประเทศ

สำนักงานสถิติแห่งชาติ เผยข้อมูลตัวเลขผลผลิตในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา จากบรรดาโรงงานต่างๆ หลายล้านแห่งทั่วประเทศจีน เพิ่มขึ้น 13.4 เปอร์เซ็นต์ต่อปี

สำหรับการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของจีน ซึ่งเป็นมาตรวัดการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลจีน เพิ่มขึ้น 25.4 เปอร์เซ็นต์ ในไตรมาสแรกของปี 2554

ขณะที่ ตัวเลขยอดค้าปลีก ซึ่งเป็นมาตรวัดการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 17.1 เปอร์เซ็นต์ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา