เอเอฟพี - ชาวแดนมังกรไม่เชื่อความศักดิ์สิทธิ์คำสั่งห้ามสูบบุหรี่ภายในอาคารสถานที่สาธารณะ ซึ่งรัฐบาลปักกิ่งประกาศให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันอาทิตย์ (1 พ.ค.) เป็นต้นไป เพราะความคลุมเครือ และเหมือนกับไม่เต็มใจบังคับใช้
ความศักดิ์สิทธิ์ของคำประกาศห้ามดังกล่าวกำลังเผชิญบททดสอบที่ยากเย็น เนื่องจากการสูบบุหรี่เป็นพฤติกรรม ที่หยั่งรากฝังลึกเสียแล้วในประเทศจีน...ดินแดนที่การยื่นบุหรี่ให้สักมวนถือเป็นมารยาททักทาย การจุดบุหรี่สูบในลิฟต์ หรือแม้แต่ภายในห้องโถงรับแขกของโรงพยาบาลถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา
“คำประกาศห้ามสูบบุหรี่คงไม่มีผลอะไรมากนักหรอก”หยาง เหลย ชาวกรุงปักกิ่ง วัย 32 ปีให้ความเห็น ส่วนหยางเองนั้นสูบบุหรี่มานาน 4 ปีแล้ว
“ในเมืองจีน เวลาคุณอยู่ในร้านอาหาร คุณจะเห็นคนสูบบุหรี่กัน ทั้งที่มีป้ายห้ามสูบบุหรี่ เวลาคุณกำลังกินอาหารกับเพื่อน มีไม่กี่คน ที่จะถามคนอื่นว่า รังเกียจไหม ถ้าเขาจะสูบบุหรี่
ส่วนผู้จัดการร้านก็แทบจะไม่ห้ามปรามอะไร” หยางเล่า
การประกาศห้าม ซึ่งบังคับใช้ทั่วประเทศนี้เป็นการดำเนินการ เพื่อให้สอดคล้องกับการวางกฏระเบียบด้านสุขภาพในประเทศพัฒนา โดยปัจจุบันแดนมังกรมีสิงห์อมควันมากกว่า 300 ล้านคน ซึ่งโดยคร่าว ๆ แล้วมากเท่ากับจำนวนประชากรในสหรัฐฯ กันเลยทีเดียว
ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหลายคนเตือนจีน ซึ่งเป็นชาติผู้ผลิตและผู้สูบบุหรี่รายใหญ่ที่สุดในโลกว่า การสูบบุหรี่ของประชาชนมากมายเช่นนี้เหมือนจีนกำลังกำระเบิดเวลาด้านสุขภาพไว้ในมือ
นายเคลลี่ เฮนนิ่ง หัวหน้าฝ่ายการริเริ่มด้านสาธารณสุข ซึ่งรวมทั้งการควบคุมการสูบบุหรี่ของมูลนิธิบลูเบิร์กในสหรัฐฯ มองคำประกาศดังกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขของจีนกำลังดำเนินย่าวก้าวสำคัญในการควบคุมการสูบบุหรี่ในประเทศ
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่า รัฐบาลจีนมุ่งมั่นที่จะบังคับใช้คำประกาศห้ามเพียงใด
จีนเคยออกประกาศห้ามคล้ายๆ กันนี้เป็นการชั่วคราวระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2008 ที่กรุงปักกิ่งและการจัดงานแสดงสินค้าเวิลด์เอ็กซ์โปที่เซี่ยงไฮ้ในปีที่แล้ว แต่แทบไม่ได้รับการเชื่อฟัง หรือมีการบังคับใช้ตามกฎหมาย
การประกาศห้ามสูบบุหรี่ที่ออกมาล่าสุดนี้ระบุห้ามติดตั้งเครื่องจำหน่ายบุหรี่ในที่สาธารณะ อย่างไรก็ตาม การประกาศห้ามมิได้ครอบคลุมถึงอาคารสำนักงาน และโรงงาน นอกจากนั้น ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการบังคับใช้คำประกาศตามกฎหมายอย่างเต็มที่ตามบาร์ ร้านอาหาร และระบบขนส่งมวลชนหรือไม่
ทั้งนี้ บุหรี่คร่าชีวิตประชาชนปีละกว่าหนึ่งล้านคนในจีน โดยบุหรี่บางยี่ห้อนั้น มีเงินแค่ 3 หยวนก็ซื้อได้ ด้านผู้เชี่ยวชาญของจีนและต่างชาติระบุว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มสูงถึง 3 เท่าภายในปี 2573
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า การผูดขาดอุตสาหกรรมบุหรี่ของรัฐคืออุปสรรคใหญ่อันหนึ่งในการลดการสูบบุหรี่ ในขณะที่อุตสาหกรรมบุหรี่สร้างรายได้จากภาษีคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 1 ใน 10 ของภาษีรายได้ทั้งหมด
รัฐบาลจีนเองกว่าจะออกประกาศห้ามครั้งนี้ก็เมื่อหมดเขตเส้นตาย ที่กำหนดโดยอนุสัญญากรอบการทำงานว่าด้วยการควบคุมบุหรี่ขององค์การการค้าโลกถึง 4 เดือน
การบังคับใช้ตามกฎหมาย และบทลงโทษไม่มีความชัดเจน ทำให้ แม้กระทั้งสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนยังระบุว่า ผู้สูบและผู้ขายน่าจะเพิกเฉยกับคำประกาศห้ามนี้
นายเท่อ เว่ย หู อาจารย์ด้านสาธารณสุขของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย, เบิร์กลีย์ ระบุว่า เขายังไม่เห็นการออกมาให้คำมั่นสัญญาว่าจะดำเนินการเพื่อลดการสูบบุหรี่ของประชาชนจากปากของผู้นำระดับสูงของจีน เช่นรองนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี หรือประธานาธิบดีเลย
ส่วนเฉิน ฉือ หนุ่มนักศึกษาด้านสาธารณสุข วัย 22 ปี ซึ่งเรียนไปด้วย ทำงานเป็นบ๋อยในร้านอาหารในกรุงปักกิ่งไปด้วย ยอมรับว่าคำประกาศดังกล่าวเป็นเรื่องแปลกสำหรับเขา
“คนไม่เปลี่ยนหรอกครับ” เขาทำนาย
“พวกผู้ชายรุ่นหนุ่มเริ่มสูบบุหรี่กันมากขึ้นเรื่อย ๆ” เฉินกล่าว