ว่ากันว่าความรักคือพลังที่หมุนโลกและเคลื่อนชีวิตให้ดำเนินไปข้างหน้าอย่างมีความหวัง แม้ว่าบางครั้ง ความหวังเหล่านั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ไกลและยอกอกกลับมาทำเศร้าเพราะตรงข้ามกับความเป็นจริง แต่เมื่อมองภาพรวมของชีวิตทั้งหมดที่ได้จากความรัก คนที่ผ่านประสบการณ์ จนพ้นวัยลุ่มหลงแล้ว ต่างก็ยังคงยืนยันว่า ความรักทำให้มนุษย์อยากทำอะไรที่ดีงามเสมอ เป็นโอกาสที่คนได้พิสูจน์จิตวิญญาณของตนเอง และไม่มีคำว่า สายเกินไป สำหรับการจะรักใครสักคน
เพื่อให้เข้าบรรยากาศสัปดาห์แห่งรัก ซึ่งยังคงอบอวลต่อแม้จะผ่านวาเลนไทน์ และเทศกาลโคมไฟ ในเดือนนี้ไปแล้ว "มุมจีน" จึงถือโอกาสย้อนไปหยิบหนังรักโรแมนติกจีน 7 เรื่อง มาจัดโปรแกรมให้รักหมุนชีวิตชีวาต่อไปครบทั้ง 7 วัน
1. Autumn's Tale (ดอกไม้กับนายกระจอก ; มาเบล จาง กำกับฯ - 1987)
ภาพยนตร์รักโรแมนติกอันโด่งดัง ที่ยังคงเป็นความประทับใจของแฟนหนังชาวไทยมาจนถึงวันนี้ โดยเฉพาะแฟนหนังที่ชื่นชอบผลงานของ โจวเหวินฟะ และ ดาราสาวยอดนิยม จงฉู่หง "ดอกไม้กับนายกระจอก"งานของผู้กำกับหญิงชื่อ มาเบล จาง เล่าเรื่องของ เจนนิเฟอร์ (จงฉู่หง) สาวทันสมัยแต่ขี้อายที่เดินทางจากฮ่องกงมายังนิวยอร์กเพื่อศึกษาต่อด้านการแสดง เธอมาพักอาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนต์เดียวกับ แซมมวล (โจวเหวินฟะ) ลูกพี่ลูกน้องซึ่งเป็นบ๋อยในร้านอาหาร และใช้ชีวิตอย่างไม่เห็นอนาคตเป็นชิ้นเป็นอันอะไร จากนั้นเรื่องราวความรักยามฤดูใบไม้ร่วงก็เริ่มขึ้นอย่างเงียบๆ และเปลี่ยนแปลงเขา
ฉากที่แซมมวล วิ่งไล่ตามรถเจนนิเฟอร์ ซึ่งแล่นจากไป เหมือนคนที่พยายามไล่ไขว่คว้ารักที่หลุดลอยนั้น หลายคนยอมรับว่า ให้ความรู้สึกแรงเหลือจะประมาณ...
Autumn's Tale (ดอกไม้กับนายกระจอก ; มาเบล จาง กำกับฯ - 1987)
2. A Moment Of Romance (ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ; เบนนี่ ชาน กำกับฯ - 1990)
อาหัว (หลิวเต๋อหัว) เป็นเด็กเสเพลที่เติบโตมาจากข้างถนน เลี้ยงชีวิตด้วยการแข่งรถ และพัวพันในโลกอาชญากรรม ซึ่งนำพาเขาได้พบกับหญิงสาวชื่อ โจโจ้ (อู่เชี่ยนเหลียน) ซึ่งถูกเขาจับเป็นตัวประกันหลังหลบหนีการไล่ล่าของตำรวจ โจโจ้ อายุ 18 ปี เป็นลูกสาวคนเดียวของคนมีฐานะ ต่างกับอาหัวราวฟ้ากับดิน ความผูกพันของทั้งคู่ จึงเริ่มขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่เลวร้ายและนำไปสู่ความรักประทับใจ
A Moment Of Romance (ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ; เบนนี่ ชาน กำกับฯ - 1990)
3. Days of Being Wild (วันที่หัวใจรักกล้าตัดขอบฟ้า - หว่อง กาไว กำกับฯ, 1990)
หนังเรื่องที่สองของหว่องกาไว เป็นเรื่องราวของหนุ่มสาวฮ่องกงในปี 1960 ศูนย์กลางหนังเรื่องนี้คือ ยกไจ๋ ตัวละครเพลย์บอยที่แสดงโดย เลสลี่ จาง นับเป็นตัวละครแบบที่ชวนหลงใหล เป็นคนมีเสน่ห์แต่ก็มีความโหดร้ายกับคนอื่น ซึ่งสืบค้นไปลึกๆ แล้วก็จะพบว่า เพราะเขาเคยถูกความรักทำร้ายสาหัสมา จนถึงกับเปรียบตัวเองเป็นนกไร้ขา ที่หัวใจเรียกร้องให้ “บิน” ไปตลอดชีวิต หรือบางทีอาจจะตายไปแล้ว โดยไม่เคยบินไปไหน
Days of Being Wild (วันที่หัวใจรักกล้าตัดขอบฟ้า - หว่อง กาไว กำกับฯ, 1990)
4. Farewell, My Concubine (หลายแผ่นดิน แม้สิ้นใจ ก็ไม่ลืม ; เฉิน ข่ายเก๋อ กำกับฯ- 1993)
ภาพยนตร์เรื่อง ‘Farewell my concubine’ (หลายแผ่นดินแม้สิ้นใจก็ไม่ลืม) ของเฉินข่ายเกอ ผู้กำกับหนังจีนรุ่น 5 สร้างจากนวนิยายในชื่อเดียวกันของลิเลียน ลี นักเขียนชาวฮ่องกง เคยได้รับการโหวตจากนักวิจารณ์ภาพยนตร์ประจำนิตยสารไทม์ ยกให้เป็น หนึ่งใน "ภาพยนตร์ดีเด่น 100 เรื่องแห่งประวัติศาสตร์วงการบันเทิงโลก"
"Farewell To My Concubine" ยิ่งใหญ่ จากโครงเรื่องง่ายๆ และบทบาทการแสดงของเลสลีจาง ซึ่งคงยากที่จะหาใครเล่นเสมอเหมือนได้อีก เฉิงเตี้ยอี้(เลสลีจาง) นักแสดงอุปรากรจีนชาย ที่ได้รับการฝึกฝนให้รับบทเป็นตัวนาง กับต้วนเสี่ยวโหลว (จาง เฟิงอี้) เพื่อนรุ่นพี่ที่คอยปกป้องเขามาตั้งแต่เด็ก และปมความสัมพันธ์แบบสามเส้าระหว่าง เฉิงเตี้ยอี้ กับ ต้วนเสี่ยวโหลว และนางโลมชื่อ จูเสียน (กง ลี่) โดยภาพยนตร์จบลงที่ความตายของเฉิงเตี้ยอี้ ที่ใช้ดาบเชือดคอตัวเอง เช่นเดียวกับในบทอวี้จี่อัน ซึ่งตัวเองเป็นผู้เล่น
Farewell, My Concubine (หลายแผ่นดิน แม้สิ้นใจ ก็ไม่ลืม ; เฉิน ข่ายเก๋อ กำกับฯ- 1993)
5. Comrades: Almost a Love Story (เถียน มี มี่ 3,650 วันรักเธอคนเดียว ; ปีเตอร์ ชาน กำกับฯ - 1996)
การพบและพลัดพรากก่อนจะกลับมาสมหวัง กับเพลงประกอบที่ไพเราะเหมาะเจาะจากเติ้ง ลี่จวิน ทำให้หนังเรื่องนี้ยังคงอยู่ในความจดจำของคนเสมอ "เถียน มี มี่" ดำเนินเรื่องในปี 1986 ช่วงที่คนจีนนิยมไปทำมาหากินในฮ่องกง หลี่เสี่ยวจิน (หลี่หมิง) และ หลี่เฉียว (จางมั่นอวี้) ก็เช่นกัน หลี่เสี่ยวจิน มาฮ่องกงเพื่อเก็บเงินไปขอแฟนที่อยู่เมืองจีนมาแต่งงานกันที่ฮ่องกง แต่โชคชะตาลิขิตให้เขาได้พบกับหลี่เฉียว ความเหงาในส่วนลึกของทั้งคู่ก่อเกิดเป็นความรัก และการต้องหักห้ามตัดใจ หลี่เสี่ยวจินเมื่อตั้งตัวได้ ก็พาแฟนมาแต่งงานกันอยู่ที่ฮ่องกง ส่วนหลี่เฉียว เริ่มต้นอีกครั้งกับคนรักใหม่ซึ่งเป็นมาเฟียมาอยู่อเมริกา จนกระทั่ง 10 ปีผ่านไป โชคชะตาก็ขีดพาทั้งคู่มาพบกันอีกครั้ง
Comrades: Almost a Love Story (เถียน มี มี่ 3,650 วันรักเธอคนเดียว ; ปีเตอร์ ชาน กำกับฯ - 1996)
6. The Lovers (ม่านประเพณี รักเรานี้ชั่วนิรันดร์ ; ฉีเคอะ กำกับ - 1994)
ภาพยนตร์ที่สร้างจากวรรณกรรม เล่าโศกนาฏกรรมแห่งความรักในปลายสมัยตงจิ้น อันเป็นยุคสมัยการต่อสู้แห่งชนชั้น เต็มไปด้วยความเข้มงวดและข้อจำกัดมากมาย ที่มีผลกระทบต่อผู้คน รวมถึง จู้อิงไถ หญิงสาวซึ่งปลอมตัวเป็นชาย เพื่อให้ได้เข้าเรียน เธอพบกับเหลียงซันปั๋ว ทั้งคู่ถูกชะตาและสาบานเป็นพี่น้องกัน โดยไม่รู้ว่าอิงไถเป็นหญิง อันเป็นจุดเริ่มแห่งเรื่องราวยอกย้อนสับสนของคนสองคน ที่ชำแหละวิพากษ์วิจารณ์สังคมจีน ผ่านม่านบางๆ ซึ่งครอบคลุมผู้คนส่วนใหญ่ไว้
The Lovers (ม่านประเพณี รักเรานี้ชั่วนิรันดร์ ; ฉีเคอะ กำกับ - 1994 )
"ม่านประเพณี" ฉบับปี 1962 ผลงานการกำกับของหลี่ฮั่นเสียง นำแสดงโดยสองดาราสาวสวยแห่งยุค หลินปอ และ เล่อตี้ ทำลายสถิติรายได้ของหนังชอว์บราเดอร์สทุกเรื่องที่ออกฉายก่อนหน้านั้น
7. In the Mood for Love (ห้วงรักอารมณ์เสน่หา ; หว่อง กาไว กำกับฯ, 2000)
งานชิ้นเอกของผู้กำกับ หว่อง กา ไว ซึ่งถ่ายทอดความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงคู่หนึ่ง สู่ไหล่เจิน หรือ คุณนายเฉิน(จางมั่นอวี้) และเจ้า(เหลียงเฉาเหว่ย) เพื่อนบ้านใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ตึกเดียวกันกับภรรยา ทั้งคู่เป็นเพื่อนบ้านที่อยู่กันอย่างแออัดในอพาร์ทเมนท์ ที่ฮ่องกง ในปี 1962 และต่างเดินสวนเฉียดไปมากับอารมณ์ถวิลหากันและกัน แต่ต้องเก็บกดไว้ มิอาจกระทำเรื่องนอกลู่นอกทาง โดยเลือกที่จะเว้นระยะห่างและเก็บงำความรู้สึกไว้ให้เป็นความลับในหัวใจของตนเอง
In the Mood for Love (ห้วงรักอารมณ์เสน่หา ; หว่อง กาไว กำกับฯ, 2000)