พูดคำว่า “หนังฮ่องกง” ขึ้นมาหลาย ๆ คนอาจจะนึกไปถึงความดุดเดือดเลือดพล่านของหนัง กำลังภายใน หรือ แอ็กชั่นยิงปืนกันหูดับตับไหม้ ขึ้นมาเป็นอันดับแรก แต่จริง ๆ แล้ว วงการหนังจากเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้ก็สร้างหนังรักประทับใจขึ้นมามากมายเหมือนกัน
เมื่อพูดถึงหนังรักจากฮ่องกง ชื่อที่คนวัย 30 ปี ขึ้นหลาย ๆ คน นึกถึงเป็นอันดับแรกน่าจะเป็นงานที่มีชื่อไทยสุดคลาสสิคว่า “ดอกไม้กับนายกระจอก” นะครับ หนังรักที่ว่าด้วยเรื่องราวของ หญิงสาวผู้เดินทางด้วยความหวัง สู่กรุงนิวยอร์ก กลับต้องพบชีวิตซึ่งไม่ได้เป็นอย่างที่เธอได้คาดหวังเอาไว้ ทั้งความผิดหวัง และความอบอุ่นจากหนุ่มจีนผู้ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและไร้ความทะเยอทะยาน …
ดอกไม้กับนายกระจอก หรือ An Autumn's Tale เป็นผลงานของผู้กำกับหญิง มาเบล จาง เมื่อปี 1987 ที่ถนัดเหลือกันกับงานแนว “ชีวิตในต่างแดน” ที่ฮิตกันอยู่ช่วงใหญ่ ๆ สำหรับวงการหนังฮ่องกงเมื่อกว่า 20 ปีก่อน
เพียงแต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ได้ใช้ฉากหลังต่างแดนเพื่อความสวยงาม, แปลกตา, สร้างความหวือหวา แบบหนังประเภทเดียวกันอีกหลาย ๆ เรื่อง แต่ต้องการสะท้อนภาพชีวิตของคนฮ่องกง ที่กลายเป็นคนไร้บ้าน ภายหลังคนจำนวนมากเลือกที่จะอพยพย้ายถิ่นฐาน เพื่อหนีวันที่ฮ่องกงจะถูกส่งคืนสู่การปกครองของจีนในปี 1997
จงฉู่หง และโจวเหวินฟะ มีเคมีที่เข้ากันอย่างเหลือเชื่อ และนักแสดงทั้งสองก็จะเป็นคู่รักในหนังฮ่องกง ที่ทุกคนจะจดจำได้ไปอีกนาน
“ปู้เหลียวฉิง … รักเธอคนเดียวตลอดกาล” เป็นเรื่องราวความรัก ของคนชั้นเดินถนนในฮ่องกง ที่มีตัวละครเอกเป็นนักดนตรีหนุ่มตกอับ ซึ่งอยู่อย่างไร้หวัง กับสาวน้อยสดใสมองโลกในแง่ดี ที่ใช้ชีวิตกับคณะนักดนตรีแร่ ที่ออกแสดงตามตลาด กับเนื้อหาในแนว “ชายหนุ่ม, หญิงสาว และโรคร้าย” ที่เรียกว่าสร้างกันออกมานับร้อยนับพันเรื่องแล้ว
แม้เมื่อเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้ จะเดินทางไปได้ซักครึ่งหนึ่ง ผู้ชมก็พอจะทราบถึงบทสรุปของเรื่องกันแล้ว แต่หนังก็ประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม ในการหนีพ้นจากความซ้ำซากจำเจ ทั้งจากการแสดงที่ดี และการสร้างฉากหลังสุดโรแมนติก ที่ไม่ได้พึ่งพิงความหรูหรา แต่วาดภาพตลาดสดรกรุงรัง , ร้านอาหารข้างทาง, ห้องแถวซอมซ่อ ให้ดูพาฝันสวยงามขึ้นมา และ “โรแมนติก” ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
ปู้เหลียวฉิง ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้วหลายครั้งครับ นับแต่ฉบับขาวดำที่มี หลินไต้ รับบทนำเมื่อประมาณ 50 ปี ก่อน ขณะที่ฉบับปี 1993 ซึ่งผมพูดถึงอยู่นี้ อาจจะเรียกได้ว่าโด่งดังที่สุดฉบับหนึ่งเหมือนกัน
หนังเป็นผลงานของ เอ๋อตงเซิน ที่ตอนนั้นสถานการณ์ในอาชีพผู้กำกับของเขา ค่อนข้างจะสุ่มเสี่ยงต่อความหายนะเป็นอย่างยิ่ง ภายหลังทำหนังล้มเหลวติดต่อกันหลายเรื่อง ปู้เหลียวฉิง เป็นลูกฮึดลูกสุดท้ายของผู้กำกับรายนี้ ที่ถึงขั้นจำนองบ้านของตัวเอง เพื่อมาสร้างภาพยนตร์กันเลยทีเดียว
สุดท้าย ปู้เหลียวฉิง กวาดเงินไป 31 ล้านเหรียญฮ่องกง, คว้ารางวัลตุ๊กตาทอง 7 ตัว, นักแสดงนำอย่าง หลิวชิงหวิน กับ หยวนหย่งอี๋ ก็โด่งดังติดลมบนอยู่หลายปี และอาชีพผู้กำกับของ เอ๋อตงเซิน ก็ยังรุ่งเรืองมาถึง ณ บัดนี้เลย
หันมาดูหนังรักย้อนยุคกันบ้าง “ม่านประเพณี รักเรานี้ชั่วนิรันดร์” ผลงานของผู้กำกับดัง ฉีเคอะ ที่พิสูจน์ว่านอกจากหนังกำลังภายในแฟนตาซีแล้ว เขาก็ทำหนังหวาน ๆ ออกมาได้เหมือนกัน เรื่องราวความรักที่ไม่สมหวังของหญิงสาวผู้ปลอมตัวเป็นชาย กับชายหนุ่มต่างชนชั้น
ม่านประเพณี หรือเรื่องราวของ เหลียงซานป๋อ และจู้อิงไถ เป็นเรื่องราวที่สร้างกันมานับครั้งไม่ถ้วน ทั้งในฉบับภาพยนตร์ และสำหรับฉายทางโทรทัศน์ แต่ ฉีเคอะ สามารถสร้างความแตกต่างในหนังฉบับของเขา ด้วยงานสร้างทั้งการออกแบบฉาก, ถ่ายภาพ, และการออกแบบเสื้อผ้า ที่ทำให้หนังออกมาดูสวยงามพาฝันเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์
และที่ไม่สามารถลืมเลือนได้เลยก็คือ เสน่ห์ของนักแสดงนำทั้งสอง อย่าง หยางไช่หนี และ อู๋ฉีหลง ที่ตอนนั้น “ใสกิ๊ก” น่ามองด้วยกันทั้งคู่
ฉีเคอะ ที่เป็นผู้กำกับที่มีวิสัยทัศน์ประหลาดที่สุดคนหนึ่ง ในแวดวงหนังกระแสหลัก ยังไม่ลืมที่จะใส่ประเด็นรักร่วมเพศลงไปใน “ม่านประเพณี” ฉบับนี้ ทั้งตัวละครสมทบตัวหนึ่งในเรื่องที่เป็นเกย์กันออกหน้าออกตากันเลย นอกจากนั้นความสัมพันธ์ของคู่พระนาง (ที่ฝ่ายหญิงแต่งกายเป็นชาย) ก็สร้างความสงสัยให้กับผู้ชม ว่ารสนิยมทางเพศ ตัวเอกฝ่ายชายนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ (มีคนตั้งข้อสังเกตว่า ตัวละครของ อู๋ฉีหลง แสดงความผิดหวังออกมานิดหน่อย เมื่อค้นพบว่าคู่รักของเขานั้น แท้จริงแล้วเป็นหญิง)
มาลองพูดถึงหนังรักสุดฟูมฟายก็ดูบ้างนะครับ “ขอเพียง 5 วัน ให้ฉันรู้หัวใจเธอ” ที่เข้าฉายไปเมื่อ 12 ปีที่แล้ว แทบจะเป็นหนังในแนวทางนี้ที่โด่งดังที่สุด กับเรื่องราวของชายหนุ่มผู้กลับมาจากโลกหลังความตาย เพื่อโอกาสสารภาพความในใจกับสาวที่หมายปอง
ผลงานเรื่องนี้อาจไม่ได้เป็นที่สบอารมณ์ของนักวิจารณ์มากนัก เพราะความตั้งใจเร้าอารมณ์คนดูกันแบบไม่บันยะบันยัง นอกจากนั้นหนังรักที่ว่าด้วยเรื่องราวเหนือธรรมชาติก็อาจจะไม่ได้ของโปรดของทุกคน
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ขอเพียง 5 วัน ให้ฉันรู้หัวใจเธอ หรือ Fly Me to Polaris คือหนังซึ่งเป็นที่รักของคนดูมากมายเหลือเกิน ความน่ารักของ จางป๋อจือ ในเวลานั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีใครปฏิเสธเลย ขณะที่ เยิ่นเสียนฉี ไม่ใช่พระเอกรูปงามอะไรนัก แต่ก็มีเสน่ห์และเล่นบทประเภทนี้ได้น่าเห็นอกเห็นใจดีเหลือเกิน ไม่น่าแปลกใจที่มีแฟนคลับเป็นสาว ๆ ติดตามผลงานอยู่มากมาย
จะเรียกว่า Fly Me to Polaris เป็นหนังสูตรก็ได้ หนังมีเนื้อเรื่องบีบน้ำตา, มีดาราหน้าใส, พระเอกขวัญใจสาว ๆ, ถ่ายทำออกมาได้หมดจดงดงาม เรียกว่าเป็นหนังสูตรที่กดสูตรติดอะไรทำนองนั้นก็คงจะได้
อยากจะเพิ่มเติมความทรงจำส่วนตัวของผมเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ลงไปหน่อยครับ กับฉากชุดว่ายน้ำของนางเอกหน้าสวยวัยใส จางป๋อจือ ที่มีให้เห็นกันไม่กี่วินาที แต่ก็ฮือฮาอยู่พอสมควร ซึ่งก็ต้องบอกกันก่อนว่าในยุคที่อินเตอร์เน็ต ความเร็วสูงยังเป็นเรื่องของโลกอนาคต ของแบบนี้ก็ถือว่าเป็น “ของแถม” ที่ไม่ได้มีให้ชมกันง่าย ๆ …. แม้ที่อีกหลายปีต่อมา ความเซ็กซี่เล็ก ๆ ในหนังเรื่องนี้ของ จางป๋อจือ แทบจะกลายเป็นเรื่องจืดชืดไปเลย เมื่อเทียบกับ … นั่นแหละครับ
สุดท้ายขอปิดท้ายด้วยหนังรักรสชาติที่แตกต่างออกไปซักหน่อยครับ “หัวใจเต้นเป็นเสียงเธอ” ผลงานของผู้กำกับหญิงคนเก่ง จางอ้ายเจีย เป็นงานที่ห่างไกลกับการเป็นหนังรักเพ้อฝันไปมากเหลือเกิน หนังเล่าเรื่องรักสามเส้า ผ่านเวลาหลายปีของตัวละครสองสาวกับหนึ่งหนุ่ม กับเรื่องรักแรก, การเติบโต และความผิดหวัง
ทาเคชิ คาเนชิโร่ (ที่ตอนนั้นส่วนใหญ่จะเรียกชื่อจีนของเขาว่า “จินเฉินอู่” กันมากว่า), เหลียงหย่งฉี และ ม่อเหวินเหว่ย รับบทเป็นนักเรียนมัธยม 3 คน ที่ได้เจอกับรักแรกอันหวานชื่น ก่อนจะพบว่าแท้จริงแล้วความรักอาจจะไม่ได้หอมหวานเหมือนกับความฝัน ขณะเดียวความผิดหวัง ก็ไม่ได้เป็นจุดจบของชีวิต
จางอ้ายเจีย นำเสนอหนังที่สร้างจากประสบการณ์จริงของตัวเอง เป็นการทบทวนชีวิตส่วนตัวของทั้งคนทำหนังและคนดู หัวใจเต้นเป็นเสียงเธอ หรือ Tempting Heart ได้เข้ามาฉายในประเทศไทยด้วย ซึ่งด้วยตัวอย่างที่หวาน ๆ กับนักแสดงหนุ่มหล่อสาวสวย คงไม่ใช่เร่องแปลก ที่หนังดึงดูให้คู่รัก และคนที่ต้องการความหวานเลี่ยนหลาย ๆ คน ตีตั๋วไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้กัน ก่อนจะต้องพบกับความผิดหวังกันไปเป็นแถบ ๆ เมื่อพบว่าหนังมีเนื้อหาที่ค่อนข้างหนัก และจริงจังกับชีวิต จะเรียกว่าหวานก็เป็นหวานอมขมเสียมากกว่า
ขอทิ้งท้ายไว้ซักหน่อยนะครับว่า Tempting Heart เป็นผลงานการสร้างของเฉินหลง พระเอกนักบู๊ ที่เรา ๆ ท่าน ๆ รู้จักกันดีนั่นเอง
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |