เอเยนซี - ในหลายปีที่ผ่านมา จีนกลายเป็นตลาดสำคัญ สำหรับอุตสาหกรรมบันเทิงของสหรัฐฯ จนทำให้ฮอลลีวูดและค่ายหนังต้องคิดหน้าคิดหลัง ในการจะใช้สื่ออันทรงพลังของตนสร้างภาพผู้ร้ายกับชาติอื่นๆ โดยเฉพาะที่จะกระทบกระเทือนต่อจีน
สื่อต่างประเทศรายงานวันที่ 15 มี.ค. ว่า ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง "Red Dawn" ของค่าย MGM ที่นำภาพยนตร์ดังในอดีตชื่อเดียวกัน กลับมาสร้างใหม่และวางบทให้จีนเป็นผู้ร้ายบุกรุกเข้ามาในสหรัฐฯ สร้างจินตนาการไปในทางที่เสื่อมเสียต่อจีน จนถูกต่อต้านจากประชาชนและสื่อมวลชนจีน กลายเป็นข่าวคึกโครมเมื่อกลางปีที่แล้ว The Global Times สื่อใหญ่ของทางการจีน ถึงกับเขียนบทความต่อต้านว่า อเมริกากลับมาใช้วิธียัดเยียดภาพอันชั่วร้ายให้กับจีนผ่านหนังสงคราม แบบที่เคยทำกับรัสเซียในยุคสงครามเย็น และย้ำว่าหนังอเมริกันกำลังเสี้ยมให้คนเกลียดกลัวจีน
แม้ว่าจะไม่มีการประท้วงอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลจีน แต่ล่าสุด หลังจากได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ค่ายผู้สร้างหนังเรื่องนี้ ยอมรับว่าการดึงดันให้เนื้อหาในภาพยนตร์เป็นเช่นเดิม รังแต่จะมีผลได้ไม่คุ้มเสีย และอาจสะเทือนถึงอุตสาหกรรมภาพยนตร์สหรัฐฯ โดยรวมได้ และเพื่อแก้ปัญหาที่อาจบานปลาย ผู้สร้างฯ จึงยอมกลับไปแก้ไข และปรับเปลี่ยนผู้ร้ายในหนังจากจีน เป็นเกาหลีเหนือแทน โดยการใช้เทคนิคดิจิตอล ลบภาพและสัญลักษณ์ต่างๆ ที่แสดงความเป็นจีนออกในทุกฉาก รวมทั้งเปลี่ยนบทตัวละคร และคำพูดต่างๆ
สื่อต่างประเทศรายงานว่า การเปลี่ยนแปลงนี้ เกิดจากความสมัครใจของผู้ผลิตเอง โดยนักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า ในทางธุรกิจนั้น สหรัฐฯ ย่อมต้องให้ความสนใจต่อตลาดจีน ซึ่งกำลังเติบโตและแนวโน้มที่ฮอลลีวูดจะขยายตลาดเข้ามาถึงคอหนังชาวจีนก็ยังมีอีกมหาศาล เพราะแม้ว่าจีนจะยังกำหนดโควต้าให้ภาพยนตร์ต่างชาติเข้ามาฉายในโรงภาพยนตร์ในประเทศได้เพียงปีละ 20 เรื่อง แต่รายได้ที่สหรัฐฯ ได้รับจากตลาดหนังในประเทศจีนนั้น ถือว่าสูงยิ่ง โดยปี 2553 ฮอลลีวูดมีรายได้จากจีนสูงถึง 1,500 ล้านดอลลาร์ สูงเป็นอันดับ 5 ของตลาดหนังนอกประเทศ
นอกจากนี้ แนวโน้มที่ค่ายยักษ์ของฮอลลีวูด จะเข้ามาร่วมทุนอุตสาหกรรมบันเทิงในจีนก็มีหลากหลาย อาทิ วอลต์ ดีสนีย์ ที่ไปได้สวยกับโครงการสวนสนุกดิสนีย์ฯ หรือค่ายโซนี่ กับการร่วมทุนกับจีน ผู้สร้างภาพยนตร์เรื่อง คาราเต้คิด และฟ๊อกซ์ กับภาพยนตร์ภาษาจีนเรื่อง "Hot Summer Days" ไปจนถึงสตูดิโอหนังอิสระ อย่าง Lionsgate และ Summit Entertainment ที่ ภาพยนตร์เรื่อง "Killers" และ "Red" กำลังทยอยเข้าโรงฉายในจีน
"Red Dawn" ฉบับสร้างใหม่ เป็นภาพยนตร์ทุนสร้าง 42 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เล่าเรื่องในโลกอนาคตอันใกล้ เมื่อสหรัฐฯ ต้องพบกับหายนะทางเศรษฐกิจ และประเทศจีน อาสาเข้าช่วยฟื้นฟูกอบกู้ แต่กลับกลายเป็นปฏิบัติการทางทหารเข้ามารุกราน โดยในฉากมีทหารชาวจีน บุกเข้าไปในเมืองของสหรัฐฯ ขณะที่บทพูดในภาพยนตร์ก็เต็มไปด้วยการปลุกเร้าชาตินิยมของชาวอเมริกัน
รายงานข่าวกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ในยุคหนังฮีโร่คาวบอย อินเดียนแดงมักถูกกำหนดให้เป็นคนเถื่อน พอมาในยุคสงครามเย็น สหรัฐฯ ได้สร้างภาพยนตร์แนวต่อสู้จารกรรมหลายเรื่อง ที่มีผู้ร้ายเป็นสหภาพโซเวียต เช่นเดียวกับภาพยนตร์เรื่อง Red Dawn ซึ่งออกฉายในปี พ.ศ. 2527 (1984) โดยบทหนัง Red Dawn ที่เขียนโดย คาร์ล เอลล์สเวิร์ธ และเจเรมี่ พาสส์มอร์ เป็นเรื่องราวของกลุ่มเด็กวัยรุ่นสหรัฐฯ ในเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่ง ที่รวมตัวกันเป็นหน่วยรบฯ ต่อต้านการรุกรานจากประเทศคอมมิวนิสต์ ซึ่งสมมุติให้เป็นโซเวียตร่วมมือกับคิวบา แต่เมื่อนำกลับมาสร้างใหม่ ฉบับปี 2554 ก็เปลี่ยนโซเวียต มาเป็นจีนแทนจนกลายเป็นข้อพิพาทใหญ่ตามข่าว ก่อนจะคลี่คลายล่าสุดโดยผู้สร้างยินยอมควักเงิน รื้อภาพจีนออกหมด
ทั้งนี้ ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ฮอลลีวูดก็เคยมีประสบการณ์กับการโดนต่อต้านจากจีนมาบ้างแล้ว จากภาพยนตร์หลายเรื่อง อาทิ "Kundun," "Seven Years in Tibet" and "Red Corner," ซึ่งวิพากษ์รัฐบาลคอมมิวนิสต์โดยตรง
ภาพยนตร์เรื่อง Red Dawn ซึ่งออกฉายในปี พ.ศ. 2527 (1984)