“จัง ชุนเสียน” นักการเมืองพันธุ์ใหม่แห่งซินเจียง

เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ - จับตานักการเมืองดาวรุ่งแดนมังกร “จัง ชุนเสียน” เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์สาขาซินเจียง ผู้กล้าพูดความจริงต่อสาธารณชนอย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมา ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ระดับมณฑลแทบไม่ทำกัน

ในการอภิปรายแบบกลุ่มย่อย ซึ่งจัดขึ้นระหว่างการประชุมสภาผู้แทนประชาชนจีนประจำปีที่กรุงปักกิ่งนั้น นักข่าวกว่า 100 คน พากันฟังนายจัง วัย 58 ปีพูดอย่างสนใจ และเห็นได้ว่า นายจังได้เตรียมตัวตอบคำถาม ที่ยากบางเรื่องไว้แล้ว แตกต่างจากเพื่อนร่วมอาชีพอีกหลายคน ซึ่งล้วนแต่ระมัดระวังตัว และหลบเลี่ยงตอบคำถามนักข่าว

ประเด็นสำคัญอันหนึ่ง ที่นายจังพูดอย่างตรงไปตรงมาก็คือสถานการณ์ในเขตปกครองตนเองอุยกูร์ซินเจียง (ซินเกียง) ซึ่งเขาเป็นผู้ดูแล

ดินแดนทางภาคตะวันตกไกลแห่งนี้นับเป็นภูมิภาคสำคัญทางยุทธศาสตร์ เนื่องจากมีพรมแดนติดกับ 8 ชาติ และประชากรส่วนใหญ่เป็นชนเชื้อสายอุยกูร์ ซึ่งเป็นชาวมุสลิม

นายจังเสนอว่าจีนต้องนำบทเรียนของ “การปฏิวัติดอกมะลิ” ซึ่งเป็นการลุกฮือของประชาชนในการโค่นล้มผู้นำตูนิเซีย และอียิปต์จนสำเร็จ มาปรับใช้กับภูมิภาคซินเจียง

“ ขณะนี้ผมมั่นใจเต็มร้อยว่าซินเจียงมีเสถียรภาพ ผมไม่กังวลเลย แต่ผมก็ต้องศึกษาบทเรียนจากตะวันออกกลางในแง่ทฤษฎี” นายจังกล่าว

“ บทเรียนเหล่านี้มีอยู่ในประเทศ … ผมไม่บอกละว่าประเทศไหน ประเทศ ซึ่งไม่ได้ให้ความสนใจเลยกับสวัสดิการของประชาชน มีอัตราการว่างงานสูงถึงร้อยละ 50 แล้วประชาชนจะทำยังไงล่ะ ในเมื่อไม่มีงานทำ เมื่อราคาข้าวของก็แพง แล้วรัฐบาลก็คอร์รัปชั่น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณเตือนแก่เรา” เขาระบุ

เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์สาขาซินเจียงผู้นี้มองว่า เครื่องป้องกันการล้มล้างการปกครองที่ดีที่สุดก็คือการที่ประชาชนรู้สึกไว้เนื้อเชื่อใจและสนับสนุนระบอบการปกครอง

นอกจากนั้นในการรักษาความความมั่นคง จำเป็นต้องแก้ไขปัญหาระดับพื้นฐานให้มากขึ้น พร้อมกับติงว่ามาตรการปิดอินเทอร์เน็ตอย่างที่รัฐบาลจีนนำมาใช้ หลังจากเกิดการจลาจลระหว่างเชื้อชาติในเมืองอู๋หลู่มู่ฉี ซึ่งเป็นเมืองเอกของซินเจียงเมื่อปี 2552 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 197 คนนั้น ไม่สามารถแก้ไขปัญหาความมั่นคงในระยะยาวได้

นายจังมองว่า ถ้าต้องการให้เกิดความมั่นคงในระยะยาว ก็ต้องรับประกันได้ว่าประชาชนได้รับผลประยชน์อย่างแท้จริงจากการปฏิรูป และการเปิดประเทศจีน ซึ่งเริ่มเมื่อ 3 ทศวรรษก่อน เขายอมรับด้วยว่ายังมีความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจระหว่างพื้นที่ตอนใต้และตอนเหนือของภูมิภาคซินเจียง

ทั้งนี้ นายจังได้รับแต่งตั้งเมื่อเดือนเม.ย.ปีที่แล้วให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์สาขาซินเจียงแทนนายหวัง เล่อฉวน ซึ่งผูกขาดตำแหน่งนี้มานานเกือบ 15 ปี และสั่งปราบปรามการจลาจลอย่างเด็ดขาด ขณะที่นายจังสั่งให้เชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตในซินเจียงอีกครั้งภายในเวลา 1 เดือน ที่เข้ารับตำแหน่ง

ก่อนหน้านี้ นายจังดำรงตำแหน่งระดับรัฐมนตรีในกระทรวงการขนส่ง จากนั้นได้เลื่อนตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์สาขามณฑลหูหนานในปี 2548

นายจังยังได้ชื่อว่าเป็นผู้มีมนุษย์สัมพันธ์ดีเยี่ยม รวมทั้งกับสื่อมวลชน และเป็น “หัวหน้าพรรคอินเทอร์เน็ต” เพราะเขาตอบคำถามของประชาชนด้วยตนเองทางออนไลน์

นอกจากนั้น ก่อนหน้าการเปิดการประชุมสภาผู้แทนประชาชนจีนประจำปีได้ไม่นาน เขายังเปิดไมโครบล็อกส่วนตัว เพื่อรับฟังความเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการปรับปรุงสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในซินเจียง

เขายังบอกด้วยว่า เมื่อคืนวันจันทร์ (7 มี.ค.) เขาทำงานจนดึก เพราะอ่านความเห็นของผู้เข้ามาในบล็อกครบทั้ง 5,300 ราย

สำหรับชีวิตส่วนตัวนั้น นายจังสมรสกับผู้ประกาศข่าวของสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CCTV) และมีบุตรหญิงเพียงคนเดียว ซึ่งนายจังเล่าอย่างเป็นกันเองกับนักข่าวว่า เธอกำลังทำปริญญาเอกอยู่ในตอนนี้