จีนล่ากลุ่มประท้วง ระบุข้อหาบ่อนทำลายความมั่นคงรัฐ

เอเจนซี-จีนระบุข้อหาบ่อนทำลายความมั่นคงของรัฐ เพื่อหยุดชาวเน็ตที่ระดมพลประท้วงรัฐบาลในรูปแบบเดียวกับการเรียกร้องประชาธิปไตยในตะวันออกกลาง

ศูนย์ข้อมูลสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย ที่มีฐานในฮ่องกง เผยว่าเจ้าหน้าที่จีนติดตามกลุ่มรณรงค์การประท้วงรัฐบาลภายใต้ชื่อ “การปฏิวัติดอกมะลิ” เช่นเดียวกับในประเทศตะวันออกกลาง และล่าสุดได้จับกุมประชาชนอีกอย่างน้อย 3 คน ในข้อหายุแหย่ “บ่อนทำลายอำนาจรัฐ” โดยก่อนหน้าจีนได้จับกุมกลุ่มนักเคลื่อนไหวปฏิรูปการเมืองในจีนไปแล้วจำนวนหนึ่งซึ่งอยู่คงถูกคุมตัวอยู่

การจับกุมกลุ่มเคลื่อนไหวการประท้วงฯดังกล่าว บ่งชี้ว่าผู้นำจีนจะไม่ทนต่อกลุ่มที่มีความคิดไม่ลงรอยกับรัฐบาล แม้แต่ผู้ที่แพร่กระจายข่าวสารเกี่ยวกับการประท้วงนี้ อาทิ นาง เหลียง ไห่อี้ หญิงตกงานวัย 35 ปี ผู้อาศัยในเมืองฮาร์บิน มณฑลเฮยหลงเจียง ได้ถูกจับกุมตัวในวันเสาร์(19 ก.พ.) หลังจากที่เธอโพสต์ข้อความเกี่ยวกับการเชิญชวนเข้าร่วมการประท้วงในเว็บไซต์จีน

ทนายของนางเหลียง คือ นาย เหลียง เซี่ยวจวิน บอกว่าเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาสอบถามเธอ และใส่กุญแจมือ นำตัวไป และได้ส่งเอกสารแก่สามีของเธอว่า เธอถูกจับกุมตัวในข้อหาบ่อนทำลายอำนาจรัฐ
สำหรับผู้ที่เผยแพร่ข่าวการประท้วงทางออนไลน์ ที่ถูกจับกุมตัวคนอื่นๆได้แก่ หวา ชุนฮุ่ย ในเมืองฮู่ซี และ เฉิน เหว่ย ในเมืองซูหนิง

ทั้งนี้ กลุ่มสิทธิมนุษยชนประมาณว่า ก่อนการประท้วงในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จีนได้ควบคุมตัวนักเคลื่อนไหวฯ หลายสิบคน หรือ อาจ มากกว่า 100 คน โยพวกเขาถูกกักตัวไว้ในบ้าน หรือไม่ก็หายตัวไป

สืบเนื่องจากกระแสชาวเน็ตจีนเรียกร้องประชาชนตามเมืองต่างๆกว่า 13 เมือง ออกมาประท้วงเรียกร้องการปฏิรูปการเมืองในวันอาทิตย์ (20 ก.พ.) เพื่อคลี่คลายปัญหาสังคม อาทิ รายได้ งาน และบ้าน เป็นต้น และในวันพุธ(23 ก.พ.) กลุ่มประท้วงได้กำหนดการประท้วงกันทุกวันอาทิตย์ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มประท้วงจากเมืองอื่นเข้าร่วมเพิ่มอีก อาทิ ลาซา เขตปกครองตัวเองทิเบต และอูหลู่มู่ฉี เขตปกครองตัวเองชนชาติอุยกูร์แห่งซินเจียง

รองประธานาธิบดี สี จิ้นผิง แถลงในวันพุธ เรียกร้องให้ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ ขยายมาตรการเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพสังคม ได้แก่ มาตรการแก้ไขปัญหาด้านการศึกษา การจ้างงาน การรักษาพยาบาล และบ้านที่อยู่อาศัย

ด้านสื่อของรัฐสำนักซินหวา รายงานโดยอ้างคำกล่าวของที่ปรึกษาระดับสูงสุดของรัฐบาล เจ้า ฉีเจิง ว่ารัฐบาลเชื่อว่าการปฏิวัติแบบในตะวันออกกลางไม่มีวันเกิดขึ้นได้ในประเทศจีน ซึ่งกระแสเรียกร้องการปฏิวัติฯนี้ เป็นเรื่อง “น่าเหลวไหล เพ้อเจ้อ”.