เอเอฟพี - แม้รัฐบาลอียิปต์เพิ่งระดมสารพัดนโยบายออกมาเพื่อเอาใจประชาชนเมื่อต้นสัปดาห์ ทว่าในวันอังคาร (8) กลับมีกลุ่มผู้ประท้วงชาวอียิปต์นับแสนๆ แห่แหนกันมาชุมนุมที่จัตุรัสตอห์รีร์อย่างเนืองแน่นมากกว่าที่เคย หลังได้แรงฮึกเหิมเพิ่มขึ้นจากการที่หนึ่งในแกนนำซึ่งเป็นคนริเริ่มปลุกระดมมวลชนให้ลุกขึ้นขับไล่ประธานาธิบดีคราวนี้เพิ่งถูกทางการปล่อยตัวออกมาหมาดๆ อย่างไรก็ตามรองประธานาธิบดีโอมาร์ สุไลมานยังคงยืนยันท่าทีเดิมของรัฐบาลที่ว่า การเร่งรัดปฏิรูปเร็วเกินไปนั้นจะนำไปสู่สภาพความโกลาหลที่เกินบรรยาย
สถานการณ์การประท้วง ณ กรุงไคโร ซึ่งทำท่าว่าจะสงบลงเป็นลำดับๆ กลับร้อนระอุขึ้นเฉียบพลันในวันอังคาร (8) เมื่อประชาชนจำนวนนับแสนๆ จากทั่วสารทิศหลั่งไหลเข้าสู่เมืองหลวงแห่งนี้อย่างไม่ขาดสายโดยมีจุดหมายเดียวกันนั่นก็คือจัตุรัสตอห์รีร์ซึ่งเป็นฐานที่มั่นและศูนย์กลางแห่งการประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีฮฮสนี มูบารัค ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เพียงหนึ่งวันรัฐบาลของมูบารัคจะพยายามทำให้ประชาชนเห็นว่าพวกเขากำลังปฏิรูประบอบประชาธิปไตยอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรมแล้ว ด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลการแก้ไขรัฐธรรมนูญ, รวมทั้งทำให้ชาวอียิปต์อุ่นใจว่าบัดนี้รัฐบาลมีแผนโรดแม็ปในการถ่ายโอนอำนาจประธานาธิบดีที่มีขั้นตอนและกรอบระยะเวลาชัดเจน ตลอดจนอนุมัติแผนขึ้นค่าจ้างแรงงานภาครัฐเพิ่มขึ้นอีก 15% เป็นต้น
ในการนี้กลุ่มผู้ประท้วงซึ่งยังคงเดือดดาลรัฐบาลไม่จางหายเหล่านี้ยังได้ร้องตะโกนเปล่งคำสรรเสริญแด่ วออิล โกนิม ผู้บริหารของกูเกิลในอียิปต์และนักเคลื่อนไหวในโลกไซเบอร์ หลังจากโกนิมเป็นแม่งานในการปลุมระดมพลังมวลชนผ่านทางเฟสบุ๊กของเขาให้ลุกฮือขึ้นเดินขบวนประท้วงเมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมาจนกระทั่งเขาถูกทางการคุมขังนาน 12 วัน ทางด้านโกนิม ซึ่งเพิ่งถูกปล่อยตัวเป็นอิสระเมื่อคืนวันจันทร์ (7) ก็ได้กล่าวแด่ฝูงชนเบื้องล่างเวทีแกนนำว่า “ชาวอียิปต์ทั้งปวงคู่ควรมีชีวิตที่ดีกว่านี้”
“วันนี้ หนึ่งในความฝันเหล่านั้นได้กลายเป็นจริงแล้ว ความฝันที่ว่านั้นก็คือ การที่ทุกคนมารวมตัวกันอยู่ ณ ที่นี้ด้วยความเชื่อในบางสิ่ง” โกนิม กล่าว “ผมไม่ใช่วีรบุรุษ พวกคุณต่างหากที่เป็น พวกคุณต่างหากที่ปักหลักอยู่ในจัตุรัสแห่งนี้”
นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่ากลุ่มผู้ประท้วงจำนวนหลายร้อยคนยังได้บุกล้อมอาคารรัฐสภาของอียิปต์ด้วยเมื่อวานนี้ (9)
“พวกเรามาที่นี่เพื่อขัดขวางไม่ให้สมาชิกของพรรคเนชั่นแนล เดโมแครติก ปาร์ตี้ของมูบารัค เข้าไปข้างใน เราจะอยู่ที่นี่จนกว่าข้อเรียกร้องของพวกเราจะได้รับการตอบรับหรือไม่ก็ตายที่นี่” โมฮัมเหม็ด อับดุลเลาะห์ วัย 25 ปี กล่าว
“ประชาชนไม่ได้เลือกสมาชิกรัฐสภาชุดนี้” โมฮัมเหม็ด โซบี นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยอัล-อาจอระ ระบุ “พวกเราต้องการให้ระบอบทั้งหมดล่มสลาย ไม่ใช่แค่เพียงตำแหน่งประธานาธิบดีเท่านั้น เพราะทุกสิ่งทุกอย่างภายใต้ระบอบของเขามันเสื่อมทราม”
ด้านทำเนียบขาวแถลงในวันอังคารว่า รองประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ได้ต่อสายตรงถึงรองประธานาธิบดีสุไลมาน เพื่อตอกย้ำข้อเรียกร้องของทางวอชิงตันให้รัฐบาลไคโรเร่งปฏิรูปการเมืองทันทีและถาวร รวมทั้งให้เปิดกว้างเวทีการหารือกับกลุ่มฝ่ายค้านให้มากขึ้นด้วย นอกจากนี้ ไบเดน ยังเรียกร้องให้อียิปต์ยกเลิกประกาศภาวะฉุกเฉินทันที
อย่างไรก็ตาม รองประธานาธิบดีสุไลมาน กล่าวกับบรรดาบรรณาธิการข่าวท้องถิ่นเตือนว่า การรีบเร่งปฏิรูปเกินไปนั้นอาจส่งผลร้ายมากกว่าผลดี พร้อมกับย้ำว่า การพูดคุยและการปล่อยให้กระบวนการปฏิรูปเป็นไปตามขั้นตอนอย่างต่อเนื่องต่างหากจึงจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ราบรื่น
สำนักข่าวเอ็มอีเอ็นเอ รายงานโดยอ้างคำพูดของสุไลมาน ระบุว่า “ประการที่สอง หรืออีกทางเลือกหนึ่งนั้น ก็คือ การปฏิวัติรัฐประหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราต้องการจะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้น”
เอ็มอีเอ็นเอ รายงานต่อไปว่า สุไลมาน บอก รัฐบาลจะเดินหน้าเจรจากับกลุ่มตัวละครทางการเมืองและกลุ่มยุวชนที่เป็นแกนนำการประท้วงต่อไป พร้อมกับย้ำชัดว่า “จะไม่มีการสิ้นสุดของระบอบหรือแม้แต่การทำรัฐประหารใดๆ ทั้งนั้น เพราะนั่นจะนำไปสู่ความโกลาหลทั่วประเทศ”
ก่อนหน้านี้ สุไลมาน แถลงว่า “ประธานาธิบดี (มูบารัค) มีความปิติยินดีกับแผนปรองดองแห่งชาติ พร้อมสำทับว่า รัฐบาลกับประชาชนกำลังอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องในการฟันฝ่าให้พ้นจากวิกฤตการณ์คราวนี้”
สถานการณ์การประท้วง ณ กรุงไคโร ซึ่งทำท่าว่าจะสงบลงเป็นลำดับๆ กลับร้อนระอุขึ้นเฉียบพลันในวันอังคาร (8) เมื่อประชาชนจำนวนนับแสนๆ จากทั่วสารทิศหลั่งไหลเข้าสู่เมืองหลวงแห่งนี้อย่างไม่ขาดสายโดยมีจุดหมายเดียวกันนั่นก็คือจัตุรัสตอห์รีร์ซึ่งเป็นฐานที่มั่นและศูนย์กลางแห่งการประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีฮฮสนี มูบารัค ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เพียงหนึ่งวันรัฐบาลของมูบารัคจะพยายามทำให้ประชาชนเห็นว่าพวกเขากำลังปฏิรูประบอบประชาธิปไตยอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรมแล้ว ด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลการแก้ไขรัฐธรรมนูญ, รวมทั้งทำให้ชาวอียิปต์อุ่นใจว่าบัดนี้รัฐบาลมีแผนโรดแม็ปในการถ่ายโอนอำนาจประธานาธิบดีที่มีขั้นตอนและกรอบระยะเวลาชัดเจน ตลอดจนอนุมัติแผนขึ้นค่าจ้างแรงงานภาครัฐเพิ่มขึ้นอีก 15% เป็นต้น
ในการนี้กลุ่มผู้ประท้วงซึ่งยังคงเดือดดาลรัฐบาลไม่จางหายเหล่านี้ยังได้ร้องตะโกนเปล่งคำสรรเสริญแด่ วออิล โกนิม ผู้บริหารของกูเกิลในอียิปต์และนักเคลื่อนไหวในโลกไซเบอร์ หลังจากโกนิมเป็นแม่งานในการปลุมระดมพลังมวลชนผ่านทางเฟสบุ๊กของเขาให้ลุกฮือขึ้นเดินขบวนประท้วงเมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมาจนกระทั่งเขาถูกทางการคุมขังนาน 12 วัน ทางด้านโกนิม ซึ่งเพิ่งถูกปล่อยตัวเป็นอิสระเมื่อคืนวันจันทร์ (7) ก็ได้กล่าวแด่ฝูงชนเบื้องล่างเวทีแกนนำว่า “ชาวอียิปต์ทั้งปวงคู่ควรมีชีวิตที่ดีกว่านี้”
“วันนี้ หนึ่งในความฝันเหล่านั้นได้กลายเป็นจริงแล้ว ความฝันที่ว่านั้นก็คือ การที่ทุกคนมารวมตัวกันอยู่ ณ ที่นี้ด้วยความเชื่อในบางสิ่ง” โกนิม กล่าว “ผมไม่ใช่วีรบุรุษ พวกคุณต่างหากที่เป็น พวกคุณต่างหากที่ปักหลักอยู่ในจัตุรัสแห่งนี้”
นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่ากลุ่มผู้ประท้วงจำนวนหลายร้อยคนยังได้บุกล้อมอาคารรัฐสภาของอียิปต์ด้วยเมื่อวานนี้ (9)
“พวกเรามาที่นี่เพื่อขัดขวางไม่ให้สมาชิกของพรรคเนชั่นแนล เดโมแครติก ปาร์ตี้ของมูบารัค เข้าไปข้างใน เราจะอยู่ที่นี่จนกว่าข้อเรียกร้องของพวกเราจะได้รับการตอบรับหรือไม่ก็ตายที่นี่” โมฮัมเหม็ด อับดุลเลาะห์ วัย 25 ปี กล่าว
“ประชาชนไม่ได้เลือกสมาชิกรัฐสภาชุดนี้” โมฮัมเหม็ด โซบี นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยอัล-อาจอระ ระบุ “พวกเราต้องการให้ระบอบทั้งหมดล่มสลาย ไม่ใช่แค่เพียงตำแหน่งประธานาธิบดีเท่านั้น เพราะทุกสิ่งทุกอย่างภายใต้ระบอบของเขามันเสื่อมทราม”
ด้านทำเนียบขาวแถลงในวันอังคารว่า รองประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ได้ต่อสายตรงถึงรองประธานาธิบดีสุไลมาน เพื่อตอกย้ำข้อเรียกร้องของทางวอชิงตันให้รัฐบาลไคโรเร่งปฏิรูปการเมืองทันทีและถาวร รวมทั้งให้เปิดกว้างเวทีการหารือกับกลุ่มฝ่ายค้านให้มากขึ้นด้วย นอกจากนี้ ไบเดน ยังเรียกร้องให้อียิปต์ยกเลิกประกาศภาวะฉุกเฉินทันที
อย่างไรก็ตาม รองประธานาธิบดีสุไลมาน กล่าวกับบรรดาบรรณาธิการข่าวท้องถิ่นเตือนว่า การรีบเร่งปฏิรูปเกินไปนั้นอาจส่งผลร้ายมากกว่าผลดี พร้อมกับย้ำว่า การพูดคุยและการปล่อยให้กระบวนการปฏิรูปเป็นไปตามขั้นตอนอย่างต่อเนื่องต่างหากจึงจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ราบรื่น
สำนักข่าวเอ็มอีเอ็นเอ รายงานโดยอ้างคำพูดของสุไลมาน ระบุว่า “ประการที่สอง หรืออีกทางเลือกหนึ่งนั้น ก็คือ การปฏิวัติรัฐประหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราต้องการจะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้น”
เอ็มอีเอ็นเอ รายงานต่อไปว่า สุไลมาน บอก รัฐบาลจะเดินหน้าเจรจากับกลุ่มตัวละครทางการเมืองและกลุ่มยุวชนที่เป็นแกนนำการประท้วงต่อไป พร้อมกับย้ำชัดว่า “จะไม่มีการสิ้นสุดของระบอบหรือแม้แต่การทำรัฐประหารใดๆ ทั้งนั้น เพราะนั่นจะนำไปสู่ความโกลาหลทั่วประเทศ”
ก่อนหน้านี้ สุไลมาน แถลงว่า “ประธานาธิบดี (มูบารัค) มีความปิติยินดีกับแผนปรองดองแห่งชาติ พร้อมสำทับว่า รัฐบาลกับประชาชนกำลังอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องในการฟันฝ่าให้พ้นจากวิกฤตการณ์คราวนี้”
