เอเอฟพี - วอลโว่ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติสวีเดน หวังยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์หรูระดับโลก เตรียมทุ่มงบสร้างฐานการผลิตหลักในจีนราว 10,000-11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใน 5 ปีต่อจากนี้
สเตฟาน จาโคบี ประธานบริหารวอลโว่ เผยกับวอลสตรีท เจอร์นัล (25ก.พ.)ว่า บริษัทวอลโว่ เตรียมสร้างโรงงานประกอบรถยนต์แห่งใหม่ในเมืองเฉิงตู มณฑลซื่อชวน(เสฉวน) เพื่อขยายฐานปฏิบัติการในจีน โดยเป็นที่คาดการณ์ว่า โรงงานดังกล่าวจะเริ่มปฏิบัติการได้ก่อนปี 2556 โดยจะมีความสามารถในการผลิตรถยนต์เบื้องต้น 125,000 คันต่อปี นอกจากนี้ ยังเตรียมตั้งสำนักงานใหญ่และศูนย์วิจัยและพัฒนา ในเมืองเซี่ยงไฮ้ รวมทั้ง ขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายของบริษัทวอลโว่ เป็น 220 แห่ง จากที่ปัจจุบันมีเพียง 106 แห่ง
“บริษัทวอลโว่ต้องการผลักดันยอดขายรถยนต์ทั่วโลกให้ได้ถึง 800,000 คันต่อปี ภายในปี 2563 ซึ่งมากกว่ายอดขายรถยนต์ทั่วโลกในปี2553 ที่อยู่ที่ 373,000 คัน ถึง 2 เท่า โดยยอดขายรถยนต์ปีที่ผ่านมา กว่าครึ่งหนึ่งมาจากจีน” จาโคบี ให้สัมภาษณ์
จี๋ลี่ ผู้ผลิตรถยนต์เอกชนรายใหญ่ของจีน ซึ่งเพิ่งซื้อกิจการรถยนต์วอลโว จากฟอร์ด เมื่อเดือนส.ค.ปีที่ผ่านมา ด้วยเงินจำนวน 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ เผยเมื่อเดือนก.ย.2553 ว่า “เราได้วางแผนเพิ่มยอดขายรถยนต์วอลโว่ในตลาดจีนเพียงแห่งเดียว 300,000 คันต่อปี”
นายหลี่ ซู่ฝู ประธานบริษัทจี๋ลี่ ซึ่งเป็นประธานบริษัทวอลโว่เช่นกัน เผยวันนี้(25ก.พ.)ว่า “บริษัทวอลโว่กำลังพิจารณาที่จะสร้างโรงงานประกอบรถยนต์ 3 แห่ง คาดว่าจะเป็นทางภาคตะวันออกของจีน” และกล่าวว่า “ปี2554 เป็นปีที่สำคัญสำหรับวอลโว่ และเราให้คำมั่นว่าจะผลิตรถยนต์หรูที่มีคุณภาพพร้อมกับบริการระดับเฟิร์สคลาสให้แก่ลูกค้าของเราในจีน”
ขณะที่ สเตฟาน จาโคบี กล่าวว่า "บริษัทวอลโว่กำลังพิจารณาที่จะส่งออกรถยนต์จากจีนไปรุกตลาดรถยนต์อื่นๆในเอเชีย รวมทั้ง บุกตลาดรถยนต์ทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้"
ทั้งนี้ วอลโว่วางแผนเพิ่มยอดจำหน่ายรถยนต์ในทวีปยุโรป ให้ถึง 380,000 คันต่อปี จากยอดขายรถยนต์ปีที่ผ่านมา ที่อยู่ที่ 242,000 คัน และเพิ่มยอดขายรถยนต์ในสหรัฐฯเป็นสองเท่า เท่ากับ 120,000 คันต่อปี