เซวินจี๊ - “มุลซานน์” รถยนต์รุ่นล่าสุดในสายการผลิตของเบนทลีย์ ยี่ห้อรถยนต์สุดหรู ถูกนำเข้ามาจำหน่ายในกรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนามแล้ว ด้วยราคาที่สูงถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังเปิดตัวจำหน่ายแล้วทั้งในตลาดยุโรปและตลาดต่างประเทศอื่นๆ ในราคาคันละ 300,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่เนื่องจากอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์ที่สูงมากในเวียดนาม ทำให้ชาวเวียดนามที่ต้องการเป็นเจ้าของรถหรูรุ่นนี้จะต้องมีเงินมากระดับอภิมหาเศรษฐี
บริษัทผู้ผลิตระบุว่า เบนทลีย์ มุลซานน์ มีเครื่องยนต์ขนาด 6 เศษ 3 ส่วน 4 ลิตร วี8 ทำมุม 90 องศา มีพละกำลังถึง 505 แรงม้า ด้วยแรงบิดสูงสุดมากถึง 1,020 นิวตันเมตร และสามารถเร่งความเร็วได้ถึง 60 ไมล์ต่อชั่วโมงจากจุดหยุดนิ่ง ได้ภายในเวลาเพียงแค่ 5.1 วินาที หรือแค่เหยียบคันเร่งค้างไว้เพียง 11.6 วินาที รถยนต์ 4 ประตู น้ำหนักประมาณ 2,585 กิโลกรัมคันนี้จะเร่งความเร็วได้ 100 ไมล์ต่อชั่วโมงซึ่งหากเทียบกับน้ำหนักรถแล้ว รถยนต์รุ่นนี้ถือว่าทำความเร็วได้ดีกว่าปอร์เช่ เคย์แมน เอส
เพียงแค่วางมือรอบที่จับประตูจากสเตนเลสสตีลอย่างดี ที่ภายในบรรจุระบบสัมผัสตรวจจับรอยนิ้วมือที่บันทึกไว้ เพียงแค่ดึงเบาๆ ประตูก็จะเปิดออกอย่างนิ่มนวล และกลิ่นหอมอ่อนๆภายในรถราวกับกลิ่นสัมผัสจากไวน์ชั้นดีก็จะลอยฟุ้งออกมา
ภายในห้องโดยสารถูกตกแต่งไว้อย่างหรูหรา ทั้งในส่วนที่นั่งคนขับและผู้โดยสาร โดยในส่วนของที่นั่งด้านหน้ามาพร้อมกับระบบปรับอากาศ 12 ทิศทาง และเบาะนั่งแบบนวดไฟฟ้า และแม้ว่า เบนทลีย์จะออกแบบส่วนควบคุมต่างๆ ให้อยู่รอบคนขับ แต่ในส่วนของผู้โดยสารก็ไม่ได้ถูกลดความสำคัญลงแต่อย่างใด เพราะยังคงได้รับความสบายในระดับเฟิร์สคลาสเช่นเดียวกับที่นั่งส่วนคนขับ ในขณะที่ผู้โดยสารด้านหน้าจะเพลิดเพลินไปกับความสะดวกสบายเฉกเช่นเดียวกับคนขับ ส่วนที่นั่งด้านหลังสามารถผ่อนคลายไปกับระบบปรับอากาศ 8 ทิศทาง และที่นั่งระบบนวดไฟฟ้า ระบบควบคุมอุณหภูมิในรถแบบแยกส่วน 4 ที่นั่ง รวมทั้งระบบควบคุมต่างๆ ถูกจัดวางอยู่ภายในที่วางแขนของเบาะหลัง เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถปรับได้อย่างอิสระเพื่อความสบายสูงสุด
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่การปรากฏตัวครั้งแรกของเบนทลีย์ มุลซานน์ ในเวียดนาม เนื่องจากก่อนหน้านี้ รถยนต์หรูรุ่นดังกล่าวอีกคันหนึ่งแต่เป็นสีเงินถูกนำเข้ามาจำหน่ายแล้วในนครโฮจิมินห์