เอเอฟพี - สื่อไต้หวันรายงาน (1 ก.พ.) เศรษฐกิจไต้หวันปี 2553 ขยายตัวสูงถึง 10.47 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่ามากที่สุดในรอบ 23 ปี โดยนักวิเคราะห์เชื่อว่าเป็นอานิสงค์จากการกระชับสัมพันธ์กับจีนแผ่นดินใหญ่
การฟื้นฟูสัมพันธ์จีน-ไต้หวัน ช่วยกระตุ้นการส่งออกของไต้หวันอย่างมาก แต่นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า การที่ไต้หวันบรรลุข้อตกลงความร่วมือเศรษฐกิจกับจีน จะทำให้เศรษฐกิจไต้หวันต้องพึ่งพิงจีนมากขึ้น
สำนักงบประมาณและสำนักสถิติการบัญชีของไต้หวัน เผยตัวเลขการขยายตัวฯ ว่าดีที่สุดนับแต่ปี 2530 แต่เตือนว่าตัวเลขในอีก 12 เดือนต่อจากนี้จะสูงเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า
เฉิง เฉิง นักเศรษฐศาสตร์ธนาคารซิตี้แบงก์ของไต้หวันเผยว่า “จีนเป็นปัจจัยหลักที่มีผลทำให้การค้าไต้หวันปีที่แล้วขยายตัวสูงมาก และสานสัมพันธ์เศรษฐกิจสองฝ่ายก็เชื่อมต่อกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น”
กระทรวงการคลังเผยว่า เมื่อปีที่แล้วการส่งออกไต้หวันเพิ่มสูงขึ้น 34.8 เปอร์เซ็นต์ หรือ 274,640 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เศรษฐกิจของพญามังกรที่ขยายตัวถึง 10.3 เปอร์เซ็นต์ส่งผลให้จีนก้าวขึ้นเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจลำดับสองของโลก ได้กระตุ้นให้ตลาดภายในจีนต้องการสินค้าที่ผลิตจากไต้หวันมากขึ้นไปด้วย
ไต้หวันได้ลงนามข้อตกลงทางการค้ากับจีนเมื่อมิ.ย. 2553 ทำให้อนาคตทางเศรษฐกิจไต้หวันผูกติดกับจีนมากขึ้น แม้ว่าไต้หวันต้องการรักษาระยะห่างทางการเมืองกับแผ่นดินใหญ่ก็ตาม
เคนเน็ธ หลิน ศาสตราจารย์เศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวันเผยว่า “การพึ่งพิงจีนจะทำให้ไต้หวันมีอิสรภาพทางเศรษฐกิจน้อยลง และบริษัทไต้หวันก็ต้องเปลี่ยนจุดยืนไปนิยมชมชอบจีนเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจของตน และพวกเขาก็จะมากดดันรัฐบาลไต้หวันให้เอนเอียงไปทางจีนในท้ายที่สุด”
ความกังวลอีกประการคือ การทำธุรกิจกับจีนจะให้ประโยชน์กับนักธุรกิจไต้หวันส่วนน้อยที่ไปลงทุนบนแผ่นดินใหญ่เท่านั้น ส่งผลให้บริษัททั้งหลายแห่กันไปทำธุรกิจที่จีน และจะทิ้งเงินตราส่วนที่เหลือไว้ที่ไต้หวันเพียงน้อยนิดเท่านั้น
อย่างไรก็ตามแม้ว่าเศรษฐกิจไต้หวันจะโตแรง ทว่ารายได้เฉลี่ยประเมินเมื่อเดือน พ.ย. 2553 กลับเพิ่มขึ้นสูงกว่าปีก่อนหน้าเพียง 1.6 เปอร์เซ็นต์
หลินกล่าวต่อว่า “ตัวเลขเศรษฐกิจที่โตแรงนี้เป็นที่ยินดีของนักธุรกิจเท่านั้น แต่ประชาชนทั่วไปไม่ได้รับผลแต่อย่างใด เหมือนกับที่ปีที่แล้วแรงงานไม่ได้รับค่าจ้างเพิ่มขึ้น และรายได้พวกเขาก็ยังคงลุ่มลุ่มดอนดอน”
สำนักงานเศรษฐกิจไต้หวันทำนายว่า สำหรับปี 2554 เศรษฐกิจไต้หวันจะขยายตัวประมาณ 5.03 เปอร์เซ็นต์ ชี้ให้เห็นปัจจัยที่ไม่คงที่ในปีก่อนหน้า
เศรษฐกิจไต้หวันในไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมาขยายตัว6.48 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าไต้หวันจะพึ่งพิงการส่งออกเป็นส่วนมาก แต่ในไตรมาส 4 การบริโภคภายในกลับเข้มแข็งและมีสัดส่วนมากกว่าการส่งออก
ในปี 2552 โลกประสบภาวะวิกฤติการเงิน เศรษฐกิจไต้หวันก็ตกฮวบลงมา 1.93 เปอร์เซ็นต์
ข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยพิจารณาจากกำลังซื้อของไต้หวัน ระบุว่า “ปี 2553 เศรษฐกิจของไต้หวันมีขนาดใหญ่เป็นลำดับ 20 ของโลก”
