ไชน่า เดลี, เอเอฟพี - จีนประกาศเพิ่มเงินดาวน์บ้านขั้นต่ำสำหรับผู้ซื้อบ้านหลังที่ 2 เป็นร้อยละ 60 ของมูลค่าบ้านจากร้อยละ 50 ในปัจจุบัน พร้อมกับสั่งการให้คณะผู้บริหารท้องถิ่นทั่วประเทศควบคุมราคาอสังหาริมทรัพย์ ที่พุ่งกระฉูด เพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชน ที่กำลังหาที่อยู่อาศัย
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี เวิน จยาเป่าเข้าร่วม ประกาศคำสั่งดังกล่าวเมื่อวันพุธ (26 ม.ค.) อันเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุด เพื่อสกัดการเก็งกำไรและราคา ที่พุ่งสูงอย่างไม่หยุดยั้งของตลาดบ้านที่อยู่อาศัยในประเทศ
นักวิเคราะห์คาดว่า การเพิ่มเงินดาวน์บ้านอีกร้อยละ 10 นี้จะส่งผลกระทบอย่างมาก โดยสามารถลดการเก็งกำไรลงได้ ในตลาดบ้านสำหรับลูกค้าระดับบน และระดับกลาง และส่งผลกระทบต่อตลาดบ้านในเมืองชั้นรองอันดับ 2 และอันดับ 3 หลังจากราคาบ้านในเมืองใหญ่ 70 เมืองปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ในเดือนธ.ค. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ อพาร์ตเมนต์แบบ 2 ห้องนอนบนถนนโฟ้ท ริง ( Fourth Ring Road) ในกรุงปักกิ่ง ปัจจุบันมีราคาประมาณ3 ล้านหยวน (450,000 ดอลลาร์) ตามมาตรการใหม่นี้ผู้ซื้อจะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 300,000 หยวน
ขณะที่ข้าราชการจีนมีรายได้เฉลี่ยต่อปี 100,000 หยวน
นอกจากนั้น ที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังสั่งการให้คณะผู้บริหารท้องถิ่นตั้งเป้าราคาบ้านสำหรับปี 2554 ให้สอดคล้องกับระดับรายได้ของประชาชนในท้องถิ่น โดยประกาศให้สาธารณชนรับทราบตั้งแต่ไตรมาสแรก และเร่งดำเนินการ เพื่อเพิ่มปริมาณบ้านในตลาดในราคา ที่ประชาชนหาซื้อได้ รวมทั้งการจัดหาที่อยู่อาศัยของรัฐให้แก่ประชาชน นอกจากนั้น คณะผู้บริหารท้องถิ่นต้องกำหนดเพดานจำนวนอพาร์ตเมนต์ ที่ประชาชนสามารถหาซื้อได้ โดยผู้มีอพาร์ตเมนต์หลังแรก ได้รับอนุญาตให้ซื้อหลังที่ 2 ได้ ส่วนผู้มีแล้ว 2 หลัง ไม่อนุญาตให้หาซื้อได้อีก
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังได้เน้นย้ำถึงประกาศคำสั่ง ที่ออกเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งกำหนดให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับการซื้อบ้านหลังที่ 2 ต้องสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้มาตรฐานของธนาคารกลางอย่างน้อยร้อยละ 10
หากพบว่าคณะผู้บริหารท้องถิ่นฝ่าฝืนมาตรการในการสกัดการพุ่งขึ้นของราคาที่อยู่อาศัยแล้ว จะถูกลงโทษอย่างหนัก
ทั้งนี้ จากผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนพบว่า ความยากลำบากในการซื้อบ้านในราคา ที่พอหาซื้อได้ กำลังเป็นสิ่งที่ผู้บริโภควิตกมากที่สุด โดยปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้ข้าวของราคาแพงขึ้น และปัญหาความขัดแย้งเรื่องที่ดิน เคยเป็นชนวนให้เกิดการเดินขบวนประท้วง และการจลาจลในจีนมาแล้ว
ขณะที่นายจัสติน อี้ฝู หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ และรองประธานอาวุโสของธนาคารโลกระบุเมื่อวันอังคาร (25 ม.ค.) ว่า จีนควรระมัดระวังความเสี่ยงของภาวะฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยต้องศึกษากรณีที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นและไอร์แลนด์อย่างรอบคอบ ซึ่งการแตกของฟองสบู่ส่งผลให้เกิดวิกฤตการเงิน และภาวะเศรษฐกิจชะงักงัน