เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ - จีนเริ่มการจัดเก็บภาษีอสังหาริมทรัพย์เป็นครั้งแรกในสองเมืองใหญ่ เพื่อสกัดการเก็งกำไรและราคาที่พุ่งสูงในตลาดบ้านที่อยู่อาศัย โดยเตรียมขยายการจัดเก็บภาษีไปยังเมืองอื่น ๆ ต่อไปด้วย
นครเซี่ยงไฮ้ และนครฉงชิ่ง ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกของจีนประกาศเริ่มการจัดเก็บภาษีอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค.เป็นต้นไป โดยสำหรับนครเซี่ยงไฮ้นั้น ผู้ซื้อบ้านหลังที่ 2 ต้องจ่ายภาษีร้อยละ 0.6 แต่ในกรณีที่บ้านมีราคาสูงกว่าราคาเฉลี่ยในตลาดไม่ถึง 2 เท่า ผู้ซื้อจ่ายภาษีเพียงร้อยละ 0.4 เท่านั้น ขณะที่นครฉงชิ่ง จัดเก็บภาษีสูงกว่า โดยผู้ซื้อบ้านหลังที่ 2 ต้องจ่ายภาษีร้อยละ 0.5 ในกรณีบ้านมีมูลค่าสูงกว่าราคาเฉลี่ยในตลาด 2-3 เท่า และจ่ายภาษีร้อยละ 1 สำหรับบ้าน ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่าราคาเฉลี่ยในตลาด 3-4 เท่า โดยการจัดเก็บภาษีในอัตราสูงสุดนั้นไม่เกิดร้อยละ 1.2
มาตรการเริ่มการจัดเก็บภาษีนี้ออกตามมา ภายหลังจากเมื่อต้นสัปดาห์ รัฐบาลจีนเพิ่งประกาศมาตรการหลายประการในสกัดความร้อนแรงของตลาดอสังหาริทรัพย์ในเมืองต่าง ๆ เช่นการเพิ่มการวางเงินดาวน์สำหรับการซื้อบ้านหลังที่ 2 จากร้อยละ 50 เป็นร้อยละ 60
อย่างไรก็ตาม มาตรการจัดเก็บภาษีมีความเข้มงวดน้อยกว่าที่นักลงทุนวิตกกัน จึงส่งผลให้ดัชนีหุ้นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้กระเตื้องขึ้น หลังจากปรับลงเล็กน้อยในการค้าช่วงเช้าเมื่อวันศุกร์ (28 ม.ค.)และดัชนีหุ้นถูกฉุดลงถึงร้อยละ 15 ในช่วง 10 สัปดาห์ที่ผ่านมา
แต่นักวิเคราะห์ชี้ว่า ดัชนีหุ้นบริษัทอสังหาริมทรัพย์มีโอกาสปรับขึ้นจำกัด เนื่องจากมาตรการของรัฐบาลจะส่งผลกระทบต่อยอดขายและผลกำไรของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้อย่างแน่นอน
ด้านนาย เก๋อ ไห่เฝิง หัวหน้านักวิจัยของบริษัทไชน่า เรียล เอสเทต อินเด็กซ์ ซิสเตม (China Real Estate Index System ) ในกรุงปักกิ่งระบุว่า การจัดเก็บภาษีอสังหาริมทรัพย์ตจะส่งผลกระทบด้านจิตวิทยาอย่างมากต่อผู้มีแนวโน้มจะซื้อบ้าน
“ตลาดบ้านของจีนอาจเงียบซบเซาอย่างแท้จริงในอีกไม่กี่เดือนนี้” เขาระบุ
ขณะที่ มาร์ก วิลเลียมส์ นักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทแคปปิตอล อีโคโนมิกส์ (Capital Economics) ในกรุงลอนดอนมองว่า มาตรการจัดเก็บภาษีมีอัตราจัดเก็บไม่มากพอ ที่จะช่วยสกัดนักเก็งกำไร หรือก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับพื้นฐานได้ เพราะถึงอย่างไร เหตุผลพื้นฐานที่คนส่วนใหญ่นำเงินไปลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็เพราะมีทางเลือกในการลงทุนอื่นน้อยมาก โดยการนำเงินไปฝากในธนาคารได้ผลตอบแทนไม่มากนัก ขณะที่ไม่มีความไว้วางใจการลงทุนในตลาดหุ้น
อย่างไรก็ตาม เหอ อี้เฝิง นักวิเคราะห์ของบริษัทหงหยวน ซีเคียวริตี้ส์ ในกรุงปักกิ่งกล่าวว่า การตัดสินว่ามาตรการจัดเก็บภาษีประสบความสำเร็จหรือไม่ เป็นสิ่งที่เร็วเกินไป และหลังจากประกาศใช้มาตรการแล้ว รัฐบาลก็อาจพิจารณาปรับอัตราการจัดเก็บให้สูงขึ้นตามความเหมาะสมอีกก็เป็นได้
ในแถลงการณ์ร่วมระหว่างกระทรวงการคลัง สำนักสรรพากร และกระทรวงการเคหะของจีนเมื่อวันพฤหัสฯ (27 ม.ค.) ระบุว่า จีนจะขยายการจัดเก็บภาษีอสังหาริมทรัพย์ไปทั่วประเทศ เมื่อเงื่อนไขต่าง ๆ มีความพร้อม โดยภาษีดังกล่าวจะช่วยลดช่องว่างรายได้ของประชากร และเงินภาษีที่ได้นี้จะช่วยเพิ่มงบประมาณให้แก่รัฐบาลท้องถิ่น
ทั้งนี้ ราคาอสังหาริมทรัพย์ในจีนพุ่งสูงอย่างต่อเนื่องเมื่อปีที่แล้ว แม้รัฐบาลจีนได้ออกมาตรการสกัดมาโดยลำดับตั้งแต่ปี 2552 อย่างไรก็ตาม เงินเฟ้อในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนอยู่ที่ร้อยละ 6.4 เมื่อเดือนธ.ค. โดยลดลงจากร้อยละ 7.7 ในเดือนพ.ย