เศรษฐกิจฮ่องกงสดใส ตลาดหุ้นไม่ต้องตามกระแสควบรวมกิจการ

เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ - เศรษฐกิจฮ่องกงฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในปีที่แล้ว และรัฐเกินดุลงบประมาณจำนวนมหาศาล ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญไม่เห็นด้วยเรื่องการควบรวมตลาดหุ้นฮ่องกง

เศรษฐกิจของฮ่องกงฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในปีที่แล้ว ซึ่งช่วยหนุนตลาดหุ้นและตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้คักคัก ขณะที่จนถึงไตรมาส 3 ของปีการเงิน รายได้เข้ารัฐจากการจัดเก็บภาษีอากรแสตมป์และการขายที่ดินสูงเกินคาดการณ์ ส่งผลให้ฮ่องกงเกินดุลงบประมาณถึง 59,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง และคาดว่าการเกินดุลงบประมาณตลอดทั้งปีจะสูงถึง 70,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง ซึ่งจะส่งผลให้การเกินดุลงบประมาณสะสมของฮ่องกงเพิ่มมากถึง 600,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง

อย่างไรก็ตาม การที่ฮ่องกงมีเงินคงคลังสะสมจำนวนมากดังกล่าวก่อให้เกิดเสียงเรียกร้องมากขึ้นให้รัฐดำเนินการจัดสรรงบประมาณ เพื่อผ่อนคลายแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และแก้ไขช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจน ที่กำลังขยายกว้างขึ้น

ขณะที่นาย อัลเบิร์ต เฉิง คอลัมนิสต์ฮ่องกงให้ความเห็นเกี่ยวกับกระแสการควบรวมกิจการระหว่างตลาดหุ้นต่าง ๆในโลก ที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้ อาทิข่าวการควบรวมกิจการระหว่างลอนดอน สต็อก เอ็กซ์เชนจ์ กรุ๊ป (LSEG) ผู้บริหารตลาดหุ้นลอนดอน กับ ทีเอ็มเอ็กซ์ กรุ๊ป ผู้ดำเนินการตลาดหุ้นโตรอนโตของแคนาดา โดยกำลังมีการเข้าใจกันว่า ตลาดหุ้นฮ่องกงจำเป็นต้องเร่งดำเนินการขยายกิจการด้วยการผนวกรวมกับตลาดหุ้นอื่น เพื่อความแข็งแกร่งและความอยู่รอดนั้น

นายเฉิงเห็นว่า เป็นความเข้าใจ ที่ผิด โดยเขาเห็นว่า ตลาดหุ้นฮ่องกงมีตำแหน่งที่มั่น ซึ่งไม่เหมือนตลาดหุ้นอื่น ๆ เพราะฮ่องกงเป็นฐานการลงทุนและการซื้อขายหุ้น ที่มีประสิทธิภาพสำหรับจีนกับส่วนอื่น ๆของโลก อีกทั้งยังสามารถแข่งขันกับนิวยอร์ก และลอนดอนในฐานะเป็นศูนย์กลางการเงินชั้นนำของโลก นอกจากนั้น ตลาดหุ้นฮ่องกงยังเป็นแหล่งลงทุนที่น่าสนใจมาก เนื่องจากให้ผลตอบแทนสูง เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่น ๆ

นายเฉิงเห็นว่า เมื่อถึงเวลาเหมาะสม ฮ่องกงก็อาจจับมือเป็นพันธมิตรกับตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ และเซินเจิ้น แต่ขณะนี้ฮ่องกงจะยังคงรักษาสถานภาพการเป็นประตูการเงินของแผ่นดินใหญ่ไปสู่โลกภายนอก จนกว่าจีนจะผลักดันให้เงินหยวนกลายเป็นสกุลเงินสากลได้อย่างแท้จริง