เอเยนซี - อินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า (ICBC) แถลงซื้อหุ้น แบงก์ ออฟ อีสต์ เอเชีย ยูเอสเอ 80% เสริมธุรกิจในสหรัฐฯ ด้านผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันวิทยาศาสตร์ของจีน (CAS) คาดการขยายตัวทางเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวได้เร็วขึ้นในปีนี้จากปัจจัยอุปสงค์ในประเทศ และจีนจะสามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อได้
อินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า (ICBC) และแบงก์ ออฟ อีสต์ เอเชีย แถลงที่เมืองชิคาโกเมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ได้ลงนามในข้อตกลงซึ่งระบุว่า ICBC จะเข้าซื้อหุ้นในแบงก์ ออฟ อีสต์ เอเชีย ยูเอสเอจำนวน 80% มูลค่า 140.23 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยแบงก์ ออฟ อีสต์ เอเชีย จะยังคงถือหุ้น 20% ในแบงก์ ออฟ อีสต์ เอเชีย ยูเอสเอ
สำนักข่าวซินหวารายงานว่า ICBC และ แบงก์ ออฟ อีสต์ เอเชีย อยู่ระหว่างดำเนินการตามกฎข้อบังคับ เพื่อให้ผ่านการอนุมัติจากสหรัฐฯ และจีน และสามารถบริหารงานในแบงก์ ออฟ อีสต์ เอเชีย ยูเอสเอ โดย ประธาน ICBC นายเจียง เจียงกิง กล่าวว่า ข้อตกลงนี้ จะช่วยให้ ICBCได้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐฯ สามารถดำเนินธุรกิจซึ่งมีเครือข่ายการดำเนินงานทั่วสหรัฐฯ อาทิ สามารถขยายธุรกิจสินเชื่อรายย่อย
ด้านผู้เชี่ยวชาญจากสถาบัน Chinese Academy of Sciences (CAS) หยัง เสี่ยวกัง เผยคาดการณ์ปีนี้ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจจีนจะยังคงเติบโตต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยอุปสงค์ในประเทศ การลงทุนมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ขณะที่อัตราการขยายตัวด้านการส่งออกและนำเข้าจะชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และจีนจะสามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจจีนในปีนี้ โดยเชื่อว่า จีนจะไม่เผชิญกับภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรงในปีนี้ เพราะผลผลิตสินค้าเกษตรโดยรวมมีเสถียรภาพและอัตราค่าเงินหยวนของจีนปรับตัวแข็งค่า ทำให้ราคานำเข้าสินค้าถูกลง
จากข้อมูลของทางการ ในเดือนธ.ค. ซีพีไอ (CPI)หรือดัชนีราคาผู้บริโภค ของจีน ซึ่งใช้วัดเงินเฟ้อได้ปรับตัวสูงขึ้น 4.6% เมื่อเทียบรายปี และขยายตัวเฉลี่ยตลอดทั้งปี 2553 ที่ 3.3% สูงกว่าที่เพดานเงินเฟ้อที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ 3%
ทั้งนี้ ตัวเลขจีดีพี ของจีนที่เพิ่งจะทะลุสองหลักอีกครั้งในรอบ 3 ปี อยู่ที่ 10.3 เปอร์เซนต์เมื่อปีที่แล้ว (9.2% ปี 2552 และ 9.6% ปี 2551) CAS ก็คาดว่าปีนี้ 2554 จะประคองอยู่ที่ 9.6% ได้ ขณะที่ธนาคารโลก ตั้งตัวเลขเศรษฐกิจจีน ในปีหน้า 2555 ไว้ก่อนที่ 8.4%
