นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป หรืออัตราเงินเฟ้อเดือนธันวาคม 2553 ว่า อยู่ที่ระดับ 108.92 โดยเพิ่มสูงขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 3 ถือว่าเป็นการขยายตัวในระดับที่เหมาะสมกับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของไทย ที่คาดการณ์ไว้ว่าเศรษฐกิจไทยปี 2553 ทั้งปี จะขยายตัวร้อยละ 7.5 โดยดัชนีเฉลี่ยทั้งปี 2553 เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.3 ซึ่งอยู่ในช่วงที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ไว้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา แม้ในปี 2553 ประเทศไทยประสบทั้งปัญหาภัยแล้ง ในช่วงต้นปี และปัญหาอุทกภัยทั่วประเทศ แต่ช่วงปลายปีจนถึงปัจจุบัน ประเทศไทยเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ทั้งนี้ เดือนธันวาคม ถือเป็นช่วงที่เหมาะสมสำหรับผลผลิตการเกษตรหลายประเภท โดยเฉพาะผักสดและผลไม้บางชนิด ส่งผลให้ราคาสินค้า โดยเฉพาะกลุ่มอาหารสดในเดือนนี้ อยู่ในภาวะที่ค่อนข้างลดลง
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวด้วยว่า กระทรวงพาณิชย์คาดว่า อัตราเงินเฟ้อปี 2554 จะอยู่ที่ร้อยละ 3.2-3.7 ภายใต้สมมุติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบ อยู่ที่ระดับ 78-88 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยน อยู่ที่ระดับ 28-33 ต่อดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงรัฐบาลยังคงมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับประชาชน ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องระวัง คือ ความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาดโลก อัตราแลกเปลี่ยน และราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวด้วยว่า กระทรวงพาณิชย์คาดว่า อัตราเงินเฟ้อปี 2554 จะอยู่ที่ร้อยละ 3.2-3.7 ภายใต้สมมุติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบ อยู่ที่ระดับ 78-88 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยน อยู่ที่ระดับ 28-33 ต่อดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงรัฐบาลยังคงมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับประชาชน ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องระวัง คือ ความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาดโลก อัตราแลกเปลี่ยน และราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น