เอเยนซี - กระทรวงพาณิชย์จีน เผยวันที่ 18 ม.ค. ว่า ยอดการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ (Outbound direct investment) นอกภาคธุรกิจการเงินของจีนในปี 2553 เพิ่มขึ้น 36.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ที่ 59,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เพิ่มขึ้น 17.4%
เหยา เจี้ยน โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าววันที่ 18 ม.ค. ว่า ในปีที่แล้ว การลงทุนโดยตรงในต่างประเทศของจีนขยายตัวอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนในฮ่องกง รวมทั้งประเทศต่างๆในเอเชียและละตินอเมริกา แต่สัดส่วนยอดการลงทุนในยุโรป สหรัฐฯ และญี่ปุ่นยังน้อยมาก
โฆษกฯ กล่าวว่า ความคุ้นเคยของบริษัทจีนกับตลาดในเอเชีย ละตินอเมริกา และแอฟริกา เป็นปัจจัยสำคัญให้ตัวเลขการลงทุนในภูมิภาคเหล่านี้สูงมากขึ้นๆ ขณะในตลาดประเทศพัฒนาแล้ว ตลาดยังไม่มีความเปิดกว้างทำให้สัดส่วนการลงทุนของจีนต่ำกว่าเดิม เช่นที่ บริษัทผู้ผลิตเหล็กและบริษัทผู้ผลิตด้านโทรคมนาคมของจีน ต้องพบกับอุปสรรคหลายด้านกับการลงทุนในสหรัฐฯ เมื่อไม่นานมานี้
เหยา เจี้ยน กล่าวว่า ยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของจีนในปี 2553 เพิ่มขึ้น 17.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ที่ 1.057 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เฉพาะในเดือนธ.ค. มีตัวเลข FDI อยู่ที่ 14,030 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 15.6% จากปี 2552 ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 17 นับตั้งแต่เดือนส.ค. ปี 2552 โดยอาศัยการฟื้นตัวของ FDI ในภาคบริการ ที่เพิ่มสูงขึ้น 28.6% ในปี 2553 และการเติบโตของการลงทุนในภาคกลางและตะวันตกของประเทศ มากขึ้น 27.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี เป็นแรงหนุนสำคัญ
ทั้งนี้ สำนักข่าวซินหวา ระบุว่า ตัวเลข FDI ของจีนในปี 2552 ลดลง 2.3% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินจนทำให้บริษัทต่างๆ พากันลดการใช้จ่าย ขณะที่ปี 2553 เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้นักลงทุนได้รับผลประโยชน์กันทั่วหน้า