เอเอฟพี - ค่ายรถยนต์ชั้นนำของโลกเปลี่ยนกลุ่มตลาดเป้าหมาย เล็งเจาะตลาดตอนในของจีน ซึ่งมีศักยภาพสูง เพื่อสร้างยอดขาย หลังจากยอดขายในเมืองใหญ่แถบชายฝั่งทะเลคาดว่าจะตกฮวบ
ยอดขายรถยนต์ในจีน ซึ่งเป็นตลาดซื้อรถยนต์รายใหญ่สุดของโลก คาดว่าจะตกลงถึงครึ่งหนึ่ง หรือน้อยกว่าในปีนี้ จากยอดขายเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งขายได้ถึง 18 ล้าน 6 หมื่นคันหรือพุ่งสูงกว่าร้อยละ 32 จากเมื่อปี 2552 ซึ่งจีนก้าวขึ้นครองตำแหน่งตลาดรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลกแทนสหรัฐฯ เนื่องจากเมืองใหญ่ ๆ แถบชายฝั่งทะเลมีการซื้อรถจนอิ่มตัวแล้ว หลังจากยอดซื้อรถยนต์ส่วนบุคคลในแต่ละปีโตเกือบร้อยละ 30 ติดต่อกันมาถึงหนึ่งทศวรรษ อันเป็นผลจากเศรษฐกิจจีน ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วทำให้ระดับรายได้ของประชาชนขยับขึ้น
ประกอบกับมีมาตรการใหม่ในการจำกัดปริมาณรถ ที่ทางการปักกิ่งประกาศใช้ เพื่อแก้ไขปัญหารถติด และมลพิษในเมืองหลวงออกมา ซึ่งจะทำให้การจดทะเบียนรถใหม่ลดลงอย่างมากทีเดียว
ดังนั้น เพื่อรักษายอดขาย บรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จึงเปลี่ยนกลยุทธ์ โดยเตรียมส่งรถรุ่นใหม่ บุกตลาดเมืองชั้นรองโดย นายเคลาส์ พอร์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยด้านยานยนต์ของบริษัทซีโนเวต มอโตรีเสิร์ช (Synovate Motoresearch) ระบุว่า ยอดขายทั่วแดนมังกรอาจชะลอลงราวร้อยละ15 ในปีนี้ แต่เมืองชั้นรอง ซึ่งตั้งอยู่ลึกเข้าไปตอนใน อาจเป็นช่องทางใหม่สำหรับการขยายยอดขาย
เขาชี้ว่า เมืองชั้นรองเหล่านี้ แม้เป็นรู้จักในต่างประเทศน้อยกว่าเมืองใหญ่แถบชายฝั่งทะเล แต่ก็มีประชากรอาศัยหลายสิบล้านคน และครอบครัวจำนวนมากมีกำลังซื้อสูงถึงขั้นมีเงินซื้อรถมาใช้เป็นครั้งแรกได้ โดยขณะนี้ ค่ายรถ เช่นนิสสัน และเจเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ซึ่งทำสถิติจำหน่ายรถยนต์ในจีนได้สูงสุดถึง 2 ล้าน 3 แสน 5 หมื่นคันเมื่อปีที่แล้ว เตรียมนำรถแบรนด์ราคาถูกลุยตลาดผู้บริโภคในเมืองระดับรองแล้ว
รถเป่าจวินของจีเอ็ม ซึ่งเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลจากการผลิตร่วมกับหุ้นส่วนคือเซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ อินดัสทรี คอร์เปอเรชั่น กรุ๊ป กับอู่หลิง มอเตอร์ส เตรียมออกจำหน่ายในต้นปีนี้ผ่านเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายใหม่ ซึ่งทำงานอย่างทุ่มเท ขณะที่นิสสัน มาร์ช รถยนต์ขนาดกะทัดรัด ซึ่งมุ่งเจาะตลาดคนชั้นกลางรุ่นใหม่ในเมืองชั้นรอง ก็มียอดขายแข็งแกร่ง นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว
นักวิเคราะห์ยังคาดว่า ความต้องการซื้อรถในเมืองชั้นรองถึงร้อยละ 90 มาจากผู้ต้องการซื้อรถเป็นครั้งแรก ซึ่งมองหารถสำหรับครอบครัว และราคาประหยัด ขณะที่มาตรการจำกัดรถยนต์ในกรุงปักกิ่งไม่ส่งผลกระทบต่อยอดขายมากนัก โดยมีส่วนทำให้ยอดขายทั่วประเทศลดลงเพียงร้อยละ 3 หรือร้อยละ 4 เท่านั้น เว้นเสียแต่เมืองใหญ่อื่น ๆเกิดประกาศใช้มาตรการคล้ายกับของกรุงปักกิ่ง เพื่อจำกัดปริมาณรถ และถูกกดดันจากรัฐบาลกลางให้ลดมลพิษในอากาศ
ด้านโฟล์กสวาเก้น กรุ๊ป ไชน่า ประกาศจะเริ่มการลงทุนครั้งใหญ่สุดเท่าที่เคยมีมาในจีนปีนี้ โดยทุ่มเงิน 10,600 ล้านยูโร (13,700 ล้านดอลลาร์) ในช่วง 4 ปี เพื่อขยายโรงงานและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ
แม้ยอดขายอาจเติบโตชะลอลง แต่ยอดขายรถยนต์รุ่นใหม่จะยังคงมหึมา นักวิเคราะห์ฟันธง