เอเจนซี-ในที่สุด การผลิตรถแท็กซี่ดำทรงคลาสสิกที่ให้บริการลูกค้าในแดนผู้ดี ที่สู้อุตส่าห์กุมไว้ในมือ ก็ตกไปอยู่ในมือเจ้าพ่อโรงงานโลกแห่งแดนมังกร
John Russell กรรมการผู้จัดการใหญ่แห่งManganese Bronze ผู้ผลิตรถแท็กซี่รายใหญ่แห่งอังกฤษ แถลงเมื่อวันอังคาร(16 มี.ค.) บริษัทได้ตกลงให้โรงงานในเซี่ยงไฮ้ เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนรถแท็กซี่ รุ่น TX4 อาทิ ช่วงล่าง บอดี้ พานัล (body panels) ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าว ทำให้คนงานใน Coventry ต้องสูญเสียงานไป 60 ตำแหน่ง
ก่อนหน้า (2551) Manganese Bronze ได้จับมือกับจี๋ลี่ โฮดดิ้ง กรุ๊ป (Geely Holdings Group) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีน จัดตั้งบริษัทร่วมทุนผลิตรถแท็กซี่สำหรับป้อนตลาดจีน และตลาดต่างแดนอื่นๆ สำหรับความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดนี้ Manganese Bronze ให้โรงงานในเซี่ยงไฮ้ เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนรถแท็กซี่ ที่ให้บริการผู้โดยสารในแดนผู้ดี
สำหรับ Manganese Bronze ซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติการแขนขาของ London Taxis International มีฐานอยู่ใน Coventry ประเทศอังกฤษ ผลิตรถมาตั้งแต่ปี 2491นั้น ก็จะลดบทบาทเป็นเพียงศูนย์ประกอบชิ้นส่วนรถยนต์
“การปรับเปลี่ยนนี้ จะทำให้หน่วยปฏิบัติการในอังกฤษเล็กลง และประหยัดต้นทุน ขณะที่จีนเป็นซับพลายใหญ่ส่งชิ้นส่วนมาให้” John Russell กล่าว พร้อมชี้ว่าการที่ยังต้องรักษาฐานการผลิตในประเทศไว้ เพราะแบรนด์แท็กซี่ระดับตำนานของอังกฤษนี้ มีคุณค่ากับลูกค้ามาก ดังนั้น การรักษาหน่วยผลิตเล็กๆใน Coventry จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
การผลิตแท็กซี่ชั้นนำรุ่น TX4s มีต้นทุนร่วม 37,000 ปอนด์ (56,800 ดอลลาร์) ปัจจุบัน ผู้ผลิตจีนเป็นผู้จ่ายต้นทุน ราว 5,000 ปอนด์ ของต้นทุนการผลิตชิ้นส่วนรถทั้งหมด 23,000 ปอนด์
ทั้งนี้ในปีที่แล้ว (2552) Manganese ประสบภาวะขาดทุนอย่างเลวร้ายที่สุด โดยตัวเลขก่อนหักภาษี เท่ากับ 8.1 ล้านปอนด์ จากยอดขาดทุน 6.2 ล้านปอนด์ในปี 2551.
