เอเอฟพี-เอเอฟพีรายงานว่าเมื่อ 11 ม.ค. ว่า ในปี 2563 หรือ ค.ศ.2020 ชายชาวจีนกว่า 24 ล้านคน จะต้องอยู่โสดเพราะไร้คู่ครองเพราะอัตราการเกิดของทารกเพศหญิงกับเพศชายไม่สมดุลกัน
รายงานอ้างการศึกษาของสถาบันการศึกษาสังคมศาสตร์ของรัฐบาล ที่พบว่าจีน กำลังมีปัญหาสัดส่วนประชากรในกลุ่มเด็กเกิดใหม่ไม่สมดุลกันทางเพศ ซึ่งเกิดจากเหตุผลที่ซับซ้อน โดยเฉพาะทัศนคติเก่าแก่ที่สืบทอดกันมา ซึ่งยกย่องเพศชายเหนือเพศหญิง และนโยบายลูกคนเดียวตั้งแต่ปี 2522 ทำให้คนจีนนิยมมีลูกชาย และทำแท้งทารกเพศหญิงอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในชนบท ส่งผลให้ทารกเพศหญิงถูกรีดออกไปแล้วเลือกไว้แต่เพศชาย
นายหวัง กว่างโจว นักวิจัยของสถาบันฯ กล่าวว่า ผู้ชายที่มีรายได้ต่ำจะหาคู่ครองยาก และจะเกิดปัญหาช่องว่างระหว่างคู่ครองตามมาด้วย ในเขตชนบทที่ยากจน โอกาสจะได้แต่งงานของผู้ชายที่อายุมากกว่า 40 ปี จะยากขึ้น อาจต้องอยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิตโดยไม่มีทายาทสืบสกุลและผู้ดูแลยามแก่เฒ่า
รายงานฯ ยังระบุถึงปัญหาความโสดดังกล่าวอาจทำให้พวกเขาจะต้องพึ่งพาสวัสดิการสังคมเมื่อแก่และไม่มีปัจจัยคอยอำนวยความสะดวกให้มากนัก รวมทั้งส่งผลให้การค้าประเวณีและการค้ามนุษย์มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นในพื้นที่บางส่วนของประเทศจีน
อนึ่ง ค่าเฉลี่ยของทารกเพศชายระดับปกติ คือเพศชาย 103-107 คน ต่อเพศหญิง 100 คน แต่จากการเก็บข้อมูลครั้งล่าสุด เมื่อปี 2548 จีนมีอัตราส่วนทารกชายเพิ่มเป็น 119 คนต่อทารกหญิง 100 คนแล้ว