ข่าวจากกว่างโจว หลังประกาศนโยบายเจ้าตูบตัวเดียว

รอยเตอร์ - นับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา กว่างโจว … เมืองเอก อันมั่งคั่งของมณฑลกว่างตงทางภาคใต้ของจีน ได้เริ่มบังคับใช้นโยบาย “เจ้าตูบตัวเดียว” ซึ่งเป็นกฎหมาย ที่อนุญาตให้แต่ละครอบครัวสามารถเลี้ยงสุนัขได้เพียงหนึ่งตัวเท่านั้น

เวลาผ่านมากว่าหนึ่งเดือนแล้ว หลายคนคงอยากทราบว่านโยบาย ซึ่งแสนจะบีบคั้นจิตใจของคนรักเจ้าตูบนี้ ได้รับความร่วมมือจากชาวเมืองมากน้อยแค่ไหน?

ถ้าจะว่าไปแล้ว สุนัขเป็นสัตว์อีกประเภทหนึ่งในเมืองจีน ที่มักถูกกระทำอย่างป่าเถื่อนทารุณ เหมือนสัตว์อีกหลายประเภท เช่น แมว หรือหมี เพราะเนื้อของพวกมันเผอิญเป็นอาหารที่ถูกปากสำหรับพวกเปิบพิสดารบนแดนมังกร ส่วนเจ้าหมีดำ ซึ่งวาสนาต่างจากหมีแพนด้า ก็ถูกมนุษย์ตัดอุ้งตีน เอามากินเป็นอาหาร หรือเจาะน้ำดีมารับประทาน ด้วยว่ามีสรรพคุณทางยา



ในสมัยการปกครองของท่านผู้นำเหมา เจ๋อตง รัฐบาลจีนมีประกาศิตห้ามประชาชนเลี้ยงสุนัขอย่างเด็ดขาด เนื่องจากเห็นว่าการเลี้ยงสุนัขคืองานอดิเรก ฆ่าเวลาของพวกชนชั้นกลาง

ทว่าเมื่อเวลาล่วงเลยมาถึงยุคสมัยปัจจุบัน เมื่อจีนเฟื่องฟูมั่งคั่งขึ้นทุกที และกำลังวิ่งตามกระแสความนิยมใหม่ ๆ ของชาติตะวันตก อะไรก็มาฉุดรั้ง ครอบครัวชนชั้นกลางไม่อยู่ ครอบครัวชนชั้นกลางในจีนเพิ่มจำนวนมากขึ้น และคนกลุ่มนี้กระหายใคร่มีสัตว์เลี้ยงไว้ดูเล่นอย่างเหลือเกิน

ภาพน้องหมา ซึ่งเป็นสุนัขมีสายพันธุ์ ได้รับการพะเน้าพะนอจากเจ้าของ พบเห็นได้ทั่วไปบนถนนสายต่าง ๆ ในนครใหญ่ เช่น กว่างโจว และกรุงปักกิ่ง ทว่าความเห่อเลี้ยงสุนัขกลับกลายเป็นตัวการ ที่ทำให้สุนัขจรจัดในเมืองเพิ่มจำนวน เพราะเจ้าของ ซึ่งเคยอุ้มโอ๋น้องหมา จู่ ๆ วันหนึ่ง เกิดนึกเบื่อ ก็เลยนำมาปล่อย หรือไม่มีการคุมกำเนิด เมื่อมันตกลูกเป็นครอก เจ้าของจึงจัดการโละทิ้ง เป็นวิธีการง่ายที่สุด

พวกไอ้ตูบจรจัดเที่ยวถ่ายมูลตามพื้นที่สาธารณะในเมืองให้เห็นมากขึ้นทุกที ขณะเดียวกันก็มีเสียงร้องเรียนจากชาวบ้าน ที่ไม่ใช่พวกโอ๋เจ้าตูบในเขตอำเภอ ที่มีผู้คนอาศัยแออัด และตามละแวกอาคารที่พักอาศัย

ผู้คนจึงมองกันว่า ทางการเมืองกว่างโจวประกาศนโยบายดังกล่าวออกมา เพื่อหวังกวาดล้างสุนัขจรจัดในเมือง ซึ่งคะเนว่า มีราวหนึ่งแสนตัวให้สิ้นซาก ก่อนหน้าที่เมืองกว่างโจวจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ในปีหน้า

ชาวเมืองกว่างโจวส่วนใหญ่นั้น พวกเขายอมก้มหน้าก้มตาปฏิบัติตามนโยบายลูกคนเดียวของรัฐบาลจีนมาเป็นเวลานานหลายสิบปีมาแล้ว พอมาถึงวันนี้ ทางการยังมาบังคับให้เลี้ยงสุนัขได้เพียงตัวเดียวอีก ใครบ้างจะไม่ยั้วะ!

นับตั้งแต่มีการบังคับใช้กฎหมายฉบับใหม่มาจนถึงวันนี้ เจ้าของมะหมามากมายต่างหงุดหงิด โมโห และพากันต่อต้านด้วยวิธีการเพิกเฉย หรือใช้วิธีหลบเลี่ยงกฎหมาย

“ฉันจะไม่มีวันทิ้งหมาอย่างเด็ดขาด เพราะพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตฉัน” พนักงานบริษัทรายหนึ่ง ซึ่งมีแซ่เฉิน ประกาศ

คุณเฉินเลี้ยงคุณตูบตั้ง 6 ตัว คนและสุนัขอาศัยอยู่ด้วยกันในย่านธุรกิจของเมือง อันชอุ่มด้วยต้นไม้เขียวขจี

ส่วนหญิงเจ้าของสุนัขอีกราย ซึ่งเลี้ยงหมาน้อยขนาดกะจ้อยร่อย ไว้เป็นเพื่อน 2 ตัว สับแหลกนโยบายเจ้าตูบตัวเดียว อันแสนจะน่าทึ่งนี้ว่า เป็นนโยบายที่เลือกปฏิบัติ และไม่คิดให้รอบคอบ

“ฉันเนี่ยโกร๊ธ โกรธ มีหมาตัวหนึ่งกับสองตัว มันต่างกันยังไงเหรอคะ มันไปรบกวนความสงบของชาวบ้านมากขึ้นงั้นรึ?” เธอกล่าวอย่างมีอารมณ์ และปฏิเสธแจ้งชื่อเสียงเรียงนาม

ด้านไอรีน ฝง ผู้จัดการของกลุ่มพิทักษ์สิทธิสัตว์ “แอนนิมอลส์ เอเชีย” (Animals Asia) ซึ่งมีที่ทำการอยู่ในเมืองกว่างโจวระบุว่า ทางกลุ่มไม่สนับสนุนนโยบายนี้ อย่างไรก็ตาม เธอก็เตือนว่า ผู้ที่เลี้ยงสุนัขหลายตัวควรหาทางประนีประนอมกับเรื่องดังกล่าว มิเช่นนั้น ก็จะต้องเสี่ยงถูกตำรวจปราบปรามอย่างไม่ปรานีปราศรัยในวันข้างหน้า ซึ่งรวมถึงการบุกเข้าตรวจค้นภายในบ้านด้วย

“หลายคนบอกว่า รอดูไปก่อนเถอะ … แต่ทางเราขอเรียกร้องให้เจ้าของสุนัขทุกคนปฏิบัติตามนโยบายใหม่อย่างผ่อนสั้นผ่อนยาว ถ้าคุณเลี้ยงสุนัข 2 หรือ 3 ตัว คุณก็อาจขอให้ญาติพี่น้อง หรือเพื่อนฝูงช่วยเป็นคนจดทะเบียนให้สุนัข ที่มีจำนวนเกินมาแทน” เธอเสนอทางออก

ในกรณีที่ถูกจับได้ว่าเลี้ยงเจ้าตูบเกินกว่า 1 ตัวนั้น ทางการระบุว่า คุณโปลิสอาจยึดสุนัข ที่แอบเลี้ยง เป็นของกลาง และสั่งปรับเป็นเงินจำนวน 2,000 หยวน (293 ดอลลาร์)

เมื่อเข้าไปดูใน www.goumin.com เว็บไซต์คนรักหมาของชาวจีนจะเห็นว่า บรรดาเจ้าของสุนัขกำลังดิ้นรนขนขวาย หาบ้านใหม่ให้เจ้าหมาสุดที่รักของตนกันจ้าละหวั่น ตลอดจนสอบถามไปยังสถานเลี้ยงสุนัข ซึ่งรัฐเป็นผู้ดำเนินการ และน่าไว้วางใจได้ แต่ก็มีอยู่ไม่กี่แห่ง โดยสถานที่เหล่านี้เสนอรับเลี้ยงพวกเจ้าตูบนอกกฎหมาย

ภายหลังการบังคับใช้นโยบายเจ้าตูบตัวเดียวผ่านไปได้ไม่กี่สัปดาห์ มีเจ้าของพาสุนัขไปจดทะเบียนเป็นจำนวนไม่เท่าไร ทว่าขณะนี้ตำรวจเมืองกว่างโจวจดทะเบียนสุนัขได้ถึงราว 20,000 ตัวแล้ว จากการเปิดเผยของฝง แห่ง “แอนนิมอลส์ เอเชีย”

เหตุใดยอดเจ้าตูบ ที่ถูกลงทะเบียน จึงเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วขนาดนั้น?

เหตุผลประการสำคัญก็คือเนื่องจากทางการใจป้ำ ยอมลดกระหน่ำค่าธรรมเนียมในการขอจดทะเบียนจากตัวละประมาณ 10,000 หยวน (1,464 ดอลลาร์) เหลือเพียง 500 หยวน เรียกได้ว่า ทางการกว่างโจวเรียนรู้ได้เร็ว หลังจากช่วงที่ผ่านมา มีเสียงตำหนิดังระงมว่า ไอ้ค่าธรรมเนียมนี่แหละ ที่ทำให้เกิดสุนัขจรจัดเกลื่อนกลาดในเมือง

ทางการจีนกล่าวหาว่า การแอบเลี้ยงสุนัข ซึ่งเป็นพฤติกรรมผิดกฎหมาย คือสาเหตุ ที่ทำให้เกิดโรคสุนัขบ้าไปทั่วประเทศ แต่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยโต้แย้งว่า ทางการอยากฆ่าสุนัขเถื่อนแบบยกโขยงต่างหาก ก็เลยอ้างโน่นอ้างนี่

ในปีนี้ มีสุนัขจรจัดและสุนัขมีปลอกคอกว่า 30,000 ตัวถูกฆ่าตายในเมืองแห่งหนึ่งของมณฑลส่านซี ทางภาคเหนือของจีน กลุ่มพิทักษ์สิทธิสัตว์ระหว่างประเทศพากันรุมสวดการกระทำอันป่าเถื่อน

นอกจากเมืองกว่างโจวแล้ว ทางการจีนยังประกาศใช้นโยบายเจ้าตูบตัวเดียว และการขึ้นทะเบียนเป็นเจ้าของสุนัขในอีกหลายเมือง เช่น นานจิง และกรุงปักกิ่ง ซึ่งยังห้ามการเลี้ยงสุนัขขนาดใหญ่อีกด้วย

ฟังแล้วก็กลุ้ม ! อย่างไรก็ตาม หากมีข่าวคืบหน้าเกี่ยวกับนโยบายเจ้าตูบตัวเดียวในเมืองกว่างโจว และที่อื่น ๆ บนแดนมังกรอีก จะได้นำมารายงานให้ทราบกันต่อไป