รอยเตอร์ – ท่ามกลางมรสุมเศรษฐกิจโลก ที่ยังไม่อ่อนกำลังลง ภายในร้านขายสินค้าหรู ราคาแพงระยับในกรุงปักกิ่ง, ฮ่องกง และตามเมืองใหญ่อื่น ๆ ในจีน กระเป๋าแบรนด์ดังจากต่างประเทศ เครื่องประดับอัญมณี และนาฬิกา อันตรธานหายไปจากหิ้งโชว์ ที่ละชิ้น สองชิ้น อย่างต่อเนื่อง ไม่ขาดสาย
เปล่าเลย การหายวับไปของสินค้าสุดหรูเหล่านี้ หาได้เกิดจากการโจรกรรม หรือลักเล็กขโมยน้อยของพวกสิบแปดมงกุฎ ที่ทำทีท่ามาชมของในร้านไม่ และมันก็ไม่ได้ทำให้เจ้าของร้านต้องวิ่งโร่ไปแจ้งความแต่อย่างใด ตรงกันข้ามพวกเขากลับยิ้มแก้มแทบปริ
เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นนี้ยังผลักดันให้นักธุรกิจค้าปลีกของฟุ่มเฟือยต่างเบนหัวเรือฝ่าระลอกคลื่นยักษ์กลางพายุเศรษฐกิจ มุ่งหน้าสู่เมืองจีนกันเป็นแถว
จากผลสำรวจล่าสุดของเพา พรินซิเพิล (Pao Principle) บริษัทวิจัยด้านการตลาด ซึ่งมีสำนักงานที่นครนิวยอร์ก พบว่า วิกฤตเศรษฐกิจโลกตกต่ำในขณะนี้กลับไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดสินค้าหรูบนแดนมังกรแต่ประการใด โดยเกือบร้อยละ90 ของคนมีกะตังค์ ที่ถูกสำรวจนั้น ล้วนแต่ซื้อกระเป๋า ซึ่งออกแบบโดยดีไซเนอร์เมื่อปีที่แล้ว
ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ เกือบ 2 ใน 3 ของบุรุษ และ 1 ใน 3 ของสตรี ยังซื้อนาฬิการาคาแพงมาประดับข้อมืออีกด้วย ขณะที่ผู้ถูกสำรวจอีกร้อยละ 30 ระบุว่า ตนกลับบ้านพร้อมกับกล่องสีฟ้ากล่องหนึ่ง ที่สลักเครื่องหมายของ“ทิฟฟานี่” บริษัทจิวเวลรี่ชื่อดังอีกด้วย
“นโยบายลูกคนเดียวทำให้เกิดคนรุ่นหนึ่ง ที่หมกมุ่นแต่เรื่องของตัวเอง และมีเป้าหมายแรกก็คือการทำตัวให้แตกต่างจากเพื่อนฝูง” บริษัทผู้วิจัยระบุ
“คนกลุ่มนี้ไม่ต้องการอยู่ร่วม เป็นคนหนึ่งในฝูงชน พวกเขาก็เลยมองหาสินค้าหรูหรา ราคาแพง เพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมายนี้” บริษัทผู้วิจัยพยายามอธิบาย
ขณะเดียวกัน แผนกระตุ้นเศรษฐกิจ มูลค่าเกือบ 600,000 ล้านดอลลาร์ของรัฐบาลจีน และการปล่อยกู้อย่างไม่อั้นของธนาคารวิสาหกิจรัฐแดนมังกร นอกจาก จะมีส่วนช่วยให้จีนกำลังก้าวไปสู่เป้าเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่ร้อยละ 8 ในปีนี้ อันนับเป็นอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดสำหรับชาติเศรษฐกิจใหญ่ชาติใดก็ตามแล้ว มันยังเป็นการชดเชยการตกต่ำของภาคส่งออกของจีน และช่วยพยุงรักษาระดับรายได้ของประชาชนไว้ ดังนั้น จึงเท่ากับเป็นการชะลอ ไม่ให้วิกฤตเศรษฐกิจโลก พุ่งปะทะใส่กลุ่มคนมีเงินส่วนใหญ่ในประเทศอย่างจัง
ในขณะที่เศรษฐกิจของยุโรป และสหรัฐฯกำลังฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ผู้ค้าปลีกสินค้าหรูจึงหันมาขยายธุรกิจในซีกโลกฟากตะวันออก โดยLVMH กลุ่มบริษัทสินค้าหรูยักษ์ใหญ่ที่สุดของโลก และบริษัทริชมอนต์ (Richemont) ได้รวมจีนเข้าเป็นตลาดใหญ่ตลาดหนึ่งของตน
การสำรวจพฤติกรรมการบริโภคครั้งนี้ได้สำรวจคนจีน ซึ่งมีฐานะดีบนแผ่นดินใหญ่จำนวน 448 คน และผู้ถูกสำรวจส่วนใหญ่เป็นสตรี ซึ่งได้รับการศึกษาสูง อายุระหว่าง 20-40 ปี โดยส่วนใหญ่ยังมีบ้านของตัวเองด้วย
ผลสำรวจยังพบว่า ทิฟฟานี่เป็นแบรนด์สินค้าอัญมณีเครื่องประดับ ซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่ชาวจีนส่วนใหญ่ โดยสร้อยคอทำด้วยทองคำ, เงิน หรือทองคำขาว เป็นของที่ชาวจีนเลือกซื้อมาครอบครองมากที่สุด
นอกจากนั้น แม้คนจีนจะชอบซื้อของลดราคา แต่แรงจูงใจในการซื้อยังได้รับอิทธิพลมากพอๆ กันจากการพิจารณาในแง่การพัฒนาคุณภาพ, การได้มีโอกาสเลือกสรรสินค้ามากขึ้น และการศึกษาเกี่ยวกับแบรนด์สินค้าอีกด้วย