เอเอฟพี – โครงการศึกษาทบทวนประวัติศาสตร์ระหว่างนักวิชาการแดนซามูไรกับแดนมังกร ล้มเหลวไม่เป็นท่า เมื่อทั้งสองฝ่ายไม่อาจลดความเห็นที่แตกต่างกันได้ในหลายประเด็น โดยเฉพาะประเด็นเหตุการณ์ฆ่าล้างผลาญในเมืองนานกิง
โครงการศึกษาทบทวนประวัติศาสตร์ตั้งแต่ช่วงยุคกลางจนถึงยุคสมัยใหม่ ซึ่งมีนักวิชาการฝ่ายละ 10 คนเข้าร่วม เป็นโครงการระยะเวลา 3 ปี มีจุดประสงค์เพื่อให้ชาติทั้งสองได้ร่วมกันศึกษา ซึ่งจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด อันเนื่องมาจากความขัดแย้งด้านประวัติศาสตร์ระหว่างกันได้
ทว่าในการแถลงข่าว ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมครั้งที่ 4 ซึ่งนับเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อวันพฤหัสฯ (24 ธ.ค.) นักประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นและจีนกลับปะทะทางความคิดกันอย่างรุนแรงในกรณีกองทัพญี่ปุ่นฆ่าล้างผลาญประชาชนในเมืองนานกิงเมื่อปีพ.ศ.2480
พญามังกรระบุว่า พลเรือนจีนล้มตายถึงราว 3 แสนคน เมื่อกองทัพลูกพระอาทิตย์เข้ายึดนานกิง ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจีนในสมัยนั้น โดยได้ฆ่าฟัน ข่มขืนชาวเมือง และปล้นทำลายทรัพย์สินอย่างบ้าระห่ำ
“องค์ประกอบสำคัญอย่างมากสำหรับเหตุการณ์ฆ่าล้างผลาญที่นานกิงก็คือจำนวนตัวเลข ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ” ศาสตราจารย์ปู้ ผิง หัวหน้านักประวัติศาสตร์ฝ่ายจีน และผู้อำนวยการสถาบันประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของสถาบันรัฐศาสตร์แห่งจีนระบุ
เขากล่าวว่า มีการบันทึกจำนวนผู้เสียชีวิตไว้ชัดเจนกว่า 3 แสนคนที่ศาลทหารในนานกิง และมีการบันทึกว่ามีกว่า 2 แสนคนในศาลพิจารณาคดีของฝ่ายสัมพันธมิตร ซึ่งตั้งขึ้นในทันที หลังจากญี่ปุ่นยอมแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปีพ.ศ.2488
“ผมเห็นว่าเป็นทัศนคติที่ถูกต้องสำหรับนักประวัติศาสตร์ ที่จะอ้างแหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์เหล่านี้” ศาสตราจารย์ปู้อธิบาย
แต่ก็ถูกสวนกลับด้วยข้อโต้แย้ง ที่น่าคิดของฝ่ายซามูไร
“เราเชื่อว่า ควรมีการตั้งคำถามเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูลเหล่านั้น นับตั้งแต่ศาลพิจารณาที่นานกิงและที่กรุงโตเกียว” ศาสตราจารย์ชินิจิ คิตาโอกะ แห่งมหาวิทยาลัยโตเกียว หัวหน้าฝ่ายญี่ปุ่นแย้ง
“เราได้มีความเข้าใจเกี่ยวกับประเด็นฆ่าล้างผลาญที่เมืองนานกิงร่วมกันหรือยัง? คำตอบก็คือเปล่าเลย ซึ่งก็เป็นอย่างที่พวกคุณอาจคาดไว้ก่อนแล้ว” คิตาโอกะบอกกับนักข่าว
“ชาวญี่ปุ่นยอมรับความจริงที่ว่า มีการฆ่าล้างผลาญเกิดขึ้นจริง และยอมรับว่าความรับผิดชอบในขั้นพื้นฐานตกเป็นของญี่ปุ่น” เขากล่าว
โครงการนี้เริ่มขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2549 โดยนายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในขณะนั้นและประธานาธิบดี หู จิ่นเทาของจีนกำลังพยายามปรับปรุงความสัมพันธ์ ที่เสื่อมทรามลง หลังจากผู้นำญี่ปุ่นก่อนหน้านายอาเบะ คือนายจูนิชิโร่ โคอิซูมิ ไปคารวะศาลเจ้า ที่สร้างขึ้นสำหรับบูชาดวงวิญญาณทหารญี่ปุ่น ซึ่งจีนถือว่าเป็นอาชญากรสงคราม
ที่ผ่านมา รัฐบาลแดนซามูไรยังได้กล่าวขอโทษต่อการกระทำอันเหี้ยมโหดระหว่างที่ญี่ปุ่นยึดครองจีน โดยมิได้มีการประเมินจำนวนเหยื่อผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นานกิงเลย