xs
xsm
sm
md
lg

หนัง“หลั่งเลือดนานกิง”โกยเงินสมใจ แต่กลุ่มเลือดรักชาติไม่ปลื้ม-ขู่ฆ่าผกก.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเจนซี – “นานกิง! นานกิง!” หนังอื้อฉาวว่าด้วยเหตุการณ์สังหารหมู่ชาวเมืองนานกิง คว้ารายได้จากการฉายหนังในแผ่นดินใหญ่ถล่มทลาย แต่ด้วยเนื้อหาที่ปูให้ทหารญี่ปุ่นเป็นคนดีเกินไป จึงปลุกกระแสกลุ่มคนรักชาติวิพากษ์วิจารณ์และต่อต้านอย่างหนัก จนถึงขั้นขู่ฆ่าผู้กำกับเลยทีเดียว

“นานกิง! นานกิง!” (City of Life and Death) ภาพยนตร์กระตุ้นเลือดรักชาติ ที่ใช้เค้าเรื่องจากเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวจีนอันโหดเหี้ยมของทหารญี่ปุ่น หลังจากเข้าฉายในประเทศจีนได้เพียง 10 วันเท่านั้น ก็กวาดรายได้ถล่มทลายไปแล้วทั้งสิ้น 120 ล้านหยวน (17.5 ล้านเหรียญสหรัฐ)
โปสเตอร์หนัง นานกิง! นานกิง!
เนื้อหาของหนังมีการกล่าวถึงพฤติกรรมรุนแรงของทหารญี่ปุ่นที่สังหารโหดชาวจีน และข่มขืนหญิงชาวบ้าน โดยผู้กำกับ ลู่ ชวน ถ่ายทอดหนังเรื่องนี้ด้วยภาพขาวดำตลอดทั้งเรื่อง ลู่ให้สัมภาษณ์ว่า เขาหวังให้หนังเรื่องนี้จะสามารถสะท้อนสภาพความเป็นจริงของนานกิงในยุคสมัยนั้นว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีนและญี่ปุ่นลุ่มๆ ดอนๆ และมีความเข้าใจผิดระหว่างกัน

ลู่วัย 38 ปีกล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่เคยออกมาขอโทษอย่างเป็นทางการที่รุกรานจีน และขอโทษในเหตุการณ์สังหารหมู่ที่นานกิง ดังนั้นลู่ชวนจึงอยากให้ชาวญี่ปุ่นได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งจะทำให้พวกเขาเข้าใจว่า ทำไมชาวจีนจำนวนมากจึงยังโกรธแค้นพวกเขาอยู่

ทั้งนี้ เหตุการณ์สังหารหมู่ที่เมืองนานกิง หรือ หนันจิง นั้น เกิดขึ้นในปี ค.ศ.1937 เมื่อกองทัพญี่ปุ่นยกทัพบุกนานกิง ทรมาน เข่นฆ่า และข่มขืนชาวบ้าน โศกนาฏกรรมครั้งนั้นมีชาวจีนสังเวยชีวิตไปทั้งสิ้นกว่า 300,000 คน

นอกจากนี้ ลู่ยังกล่าวว่า เขาอยากส่งสานส์ให้แก่ชาวจีนผ่านหนังเรื่องนี้ด้วยว่า ทหารญี่ปุ่นก็เป็นคนธรรมดาเท่านั้น ไม่ใช่สัตว์ร้ายกระหายเลือดอย่างที่พวกเขามักถูกชาวจีนมองมาตลอด

แต่การนำเสนอเรื่องราวในแง่มุมนี้กลับกลายเป็นเรื่องไม่น่าอภัยสำหรับกลุ่มคนเลือดรักชาติ จนทำให้ผู้กำกับลู่เคยถูกขู่ฆ่ามาแล้ว
ผู้กำกับ ลู่ ชวน
ในเว็บกระทู้ต่างๆ ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างเผ็ดร้อน ผู้ชมส่วนหนึ่งมองว่า ลู่ ชวน กำลังให้ร้ายประเทศจีน และถึงขั้นมีคนโพสต์ว่า หนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังปลุกกระแสรักชาติ แต่เป็นหนังญี่ปุ่นที่มีผู้กำกับเป็นคนจีนมากกว่า

ลู่เปิดใจว่า “ผมรู้สึกกดดันมาก ที่ทั้งสื่อแล้วก็ผู้ชมถามว่า ทำไมผมถึงตัดสินใจปรับมุมมองของหนังที่มีต่อทหารญี่ปุ่น ผมแค่ต้องการสะท้อนภาพความเป็นจริง และสร้างสมดุลของเนื้อหามากกว่าการเอนเอียงนำเสนอในมุมมองของจีนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น"

“ก่อนที่หนังจะฉายรอบปฐมทัศน์ ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ากลุ่มคนชาตินิยมจะมีมากขนาดนี้ ผมเพียงต้องการสื่อถึงสันติภาพและความรัก และผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่สามารถรับรู้ได้ จะมีเพียงส่วนน้อยที่เป็นพวกหัวรุนแรง”

ลู่ยังเล่าว่า ช่วงที่ไปเดินสายโปรโมทหนังตามเมืองต่างๆ ของจีน มันเป็นช่วงเวลาที่ย่ำแย่สำหรับนักแสดงญี่ปุ่นมาก แล้วเขารู้สึกเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของนักแสดง เมื่อเห็นปฏิกิริยาตอบโต้ที่รุนแรงในประเทศจีน นักแสดงญี่ปุ่นรายหนึ่งทำงานภายใต้ความกดดัน และขออนุญาตลดการเดินสายทัวร์ด้วย

อย่างไรก็ตาม ทั้งที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แต่หนังเรื่องนี้ก็ยังประสบความสำเร็จอย่างมากด้วยยอดจำหน่ายตั๋วเกิน 120 ล้านหยวน

ลู่ ซึ่งเคยเข้าเรียนในวิทยาลัยทหารของเมืองนานกิงก่อนที่จะมาทำงานหนัง กล่าวว่า ความจริงเขาได้รับอนุญาตให้ทำหนังการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่นานกิงโดยถ่ายทอดเรื่องราวในมุมมองที่แตกต่างออกไปจากอดีต เพื่อสะท้อนว่าประเทศจีนกำลังพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง

แต่เหตุการณ์อ่อนไหวอื่นๆ ในประวัติศาสตร์ อาทิ การปฏิวัติวัฒนธรรม และเหตุการณ์นองเลือดที่จัตุรัสเทียนอันเหมินเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 1989 เป็นประเด็นที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้จับต้อง ซึ่งเขามองว่า “ตัวผมเองผมอยากทำหนังเกี่ยวกับเหตุนองเลือดที่จัตุรัสเทียนอันเหมินนะ และเป็นไปได้ว่าผมจะสร้างหนังเทียนอันเหมินภายใน 5 ปีข้างหน้า” ลู่กล่าวทิ้งท้ายว่า “เราต้องเดินหน้าต่อไป เพื่อแสดงให้เห็นว่าประเทศเราเปิดเสรีมากขึ้น”
กำลังโหลดความคิดเห็น