เฟอร์นันโด ชุย โดดเด่นบนสื่ออีกครั้ง เมื่อเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าคณะบริหารเขตปกครองพิเศษแห่งมาเก๊าเมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันครบรอบสิบปีแห่งการถ่ายโอนอำนาจปกครองของดินแดนพอดี โดยเจ้าอาณานิคมแห่งโปรตุเกสได้ส่งมอบอำนาจการปกครองมาเก๊าแก่รัฐบาลจีนในวันที่ 20 ธันวาคม 1999
นับจากวันที่มาเก๊าคืนสู่การปกครองจีน นายเอ็ดมันด์ โห ก็นั่งเก้าอี้ผู้นำสูงสุดในตำแหน่งหัวหน้าคณะบริหารเขตปกครองพิเศษแห่งมาเก๊า ซึ่งมีวาระห้าปี 2 สมัย ติดต่อกัน ก็เท่ากับว่า เอ็ดมันด์ โห ได้ดูแลแดนบ่อนคาสิโนมาเก๊ามาตลอด 10 ปี ถึงปีนี้
สำหรับเฟอร์นันโด ชุย ที่เพิ่งสาบานตน นั่งเก้าอี้พ่อเมืองสืบต่อจากโห ได้รับการเลือกตั้งเข้าดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนถึงร้อยละ 94 จากคณะกรรมการจัดการเลือกตั้งแห่งมาเก๊า ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่ของคณะกรรมการฯก็เป็นกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลในกรุงปักกิ่ง
ชุย เข้ารับตำแหน่งพร้อมด้วยภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลกลาง คือ สร้างเสถียรภาพเศรษฐกิจ นอกไปจากนี้ยังมีงานที่ท้าทายพ่อเมืองคนใหม่ ได้แก่ งานกวาดล้างคอรัปชัน บรรเทาปัญหาสังคม และการเปิดกว้างเสรีภาพทางการเมืองแก่ประชาชน
ในวันที่ชุย สาบานตัวเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม โดยมีประมุขใหญ่แดนมังกรประธานาธิบดีหู จิ่นเทา มาเป็นสักขีพยานนั้น ชาวมาเก๊านับพันได้เดินขบวนประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลกวาดล้างคอรัปชัน และเปิดกว้างเสรีภาพทางการเมือง
เศรษฐกิจมาเก๊ายังไร้เสถียรภาพ
กิจการบ่อนคาสิโน กอปรด้วยการผ่อนปรนกฎระเบียบธุรกิจการพนัน และชาวแผ่นดินใหญ่จำนวนมหาศาลที่แห่แหนเข้ามาเที่ยว ส่งให้เศรษฐกิจมาเก๊าเฟื่องฟูเหนือเวทีโลกมาตลอดสิบปี เหล่ายักษ์ใหญ่คาสิโน อย่าง Las Vegas Sands Corp และ Wynn Resorts ต่างมุ่งเข้ามาแข่งขุดทองในมาเก๊า
ธุรกิจคาสิโนสร้างรายได้แก่รัฐบาลมาเก๊า ถึง 3 ใน 4 ของรายได้ทั้งหมด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมารายได้จากศูนย์กลางบ่อนพนันของพญามังกร แซงหน้าลาส เวกัส สทริป แต่ขณะเดียวกัน ผู้นำในปักกิ่งก็วิตกปัญหาเสถียรภาพสังคม และสัญญาณเตือนจากปริมาณเงินจากฝั่งแผ่นดินใหญ่ที่ไหลทะลักเข้ามาท่วมโต๊ะพนัน จึงได้เตือนผู้นำท้องถิ่นให้รักษาอัตราเติบโตที่มั่นคง เพลาความร้อนแรงของกระแสเงินที่ไหลทะลักเข้ามา
เศรษฐกิจมาเก๊าซบเซาในช่วงเศรษฐกิจโลกถดถอย กอปรด้วยความวิตกของผู้นำในปักกิ่งเรื่องชาวจีนแผ่นดินใหญ่จำนวนมากขนเงินเข้ามาเที่ยวบ่อนคาสิโน จึงงัดมาตรการจำกัดการเข้ามายังเก๊าของชาวแผ่นดินใหญ่ ในต้นปีรายได้จากภาคการพนันมาเก๊าลดลงร้อยละ 30 อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ เศรษฐกิจมาเก๊าก็สดใสขึ้น ช่วงสิบเดือนแรกของปีนี้ มาเก๊ามีรายได้จากกิจการบ่อนพนัน คิดเป็นอัตราเพิ่มร้อยละ 2.3 เท่ากับ 12,090 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับปีก่อนหน้า และผู้นำในปักกิ่งก็แสดงท่าทีผ่อนปรนข้อจำกัดสกัดชาวแผ่นดินใหญ่ข้ามฝั่งมายังมาเก๊า
Larry So (ซู เหวินซิน) ผู้เชี่ยวชาญด้านสวัสดิการสังคมแห่งสถาบัน มาเก๊า โพลิเทคนิก และนักแสดงความเห็นด้านการมือง ก็ชี้ว่าสิ่งที่ผู้นำจีนกลัวมากสุดในตอนนี้คือ ความไร้เสถียรภาพ และขณะนี้ รัฐบาลดูจะเตรียมมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นไว้แล้ว หากชุยล้มเหลว
Francis Tam (ถัน ป๋อเหยียน) เจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ดูแลภาคการพนันในดินแดน เผยในเดือนตุลาคมว่าตอนนี้รัฐบาลเล็งลดจำนวนโต๊ะพนัน ขยายเพดานอายุของผู้สามารถเข้าบ่อนจากเดิม 18 ปี เป็น 21 ปี พร้อมทั้งมองหาช่องทางอื่นๆมาช่วยกระตุ้นอัตราเติบโต นอกเหนือไปจากคาสิโน
ขณะที่มาเก๊ากำลังถอยจากธุรกิจพนันนี้ คู่แข่งชาติเอเชียอื่นๆก็พยายามที่จะเจริญรอยตามความสำเร็จของมาเก๊า อาทิ สิงคโปร์มีแผนเปิดรีสอร์ทคาสิโนใหญ่สองแห่ง ในปีหน้า 2553 ไต้หวันก็กำลังมงหาช่องทางเปิดคาสิโนของตัวเองเช่นกัน
สำหรับประเด็นด้านสังคมที่พ่อเมืองชุยต้องสะสาง คือการขาดแคลนบ้านที่อยู่อาศัยขนาดระดับราคาที่ประชาชนส่วนใหญ่จะซื้อได้ นอกจากนี้ ยังมีปัญหาคนต่างถิ่นเข้ามาแย่งงานในท้องถิ่น โดยบรรดาบริษัทหลายแห่งมักจ้างแรงงานก่อสร้าง และผู้จัดการจากฮ่องกงและแผ่นดินใหญ่ ปัญหาเหล่านี้หมักหมมมากระทั่งในปี 2550 คนงานท้องถิ่นปะทะกับตำรวจระหว่างการประท้วงเรื่องการทะลักไหลเข้ามาของแรงงานต่างแดน ปัญหาดูแย่ลงโดยในปีนี้ อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.8 เทียบกับร้อยละ 2.9 เมื่อสองปีที่แล้ว
ในวันสาบานตัวเข้ารับตำแหน่ง เฟอร์นันโด ชุย ก็ได้ลั่นสัญญารับประกันว่าชาวมาเก๊าจะต้องมีงานทำ พร้อมเดินหน้ายกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน
นอกจากนี้ คอรัปชั่นก็ยังเกาะกินมาเก๊าต่อไป แม้จีนพยายามกวาดล้าง อาทิ ในต้นปี 2551 ผู้พิพากษาได้ตัดสินโทษจำคุก 27 ปี แก่ นาย โอว เหวินหลง อดีตนายใหญ่หน่วยงานรับผิดชอบโครงการสาธารณูปโภคและคมนาคม (Secretary for Transport and Public Works) ในความผิดรับสินบน ระหว่างการดำเนินคดีโอว ศาลได้มุ่งคำถามไปที่โครงการก่อสร้างสนามกีฬาสำหรับอีสต์ เอเชียน เกมส์ปี 2548 ซึ่งชุยเป็นผู้ดูแลโครงการก่อสร้างสนามกีฬาฯนี้ด้วย แต่ชุยก็ไม่ได้ถูกกล่าวหากระทำความผิดใดๆ และเขาก็ได้ยืนยันว่าไม่รู้เห็นการกระทำของโอว
เส้นทางชีวิตเฟอร์นันโด ชุย
เฟอร์นันโด ชุย หรือในชื่อภาษาจีนกลาง ชุย ซื่ออัน วัย 52 ปี ทายาทครอบครัวนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการท่องเที่ยว จบการศึกษาจากสหรัฐอเมริกา ได้แก่ ปริญญาตรีจากแคลิฟอร์เนียสเตท ยูนิเวอร์ซิตี้ ในซาคราเมนโต ปริญญาโท และปริญญาเอกสาขาสาธารณสุขจากยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ โอกลาโฮมา เขาได้รับเลือกสู่สภานิติบัญญัติครั้งแรกในปี 1992 และเป็นเลขาธิการดูแลด้านวัฒนธรรมและสังคมคนแรกของมาเก๊าในปี 1999
ระหว่างเข้าร่วมคณะรัฐบาลมาเก๊า ชุยได้ดูแลงานที่ทรงความสำคัญอันดับต้นๆของดินแดน ได้แก่ สุขภาพ การศึกษา บริการสังคม การท่องเที่ยว กระทั่งเขาได้รับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าคณะบริหารดินแดนเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
สำหรับสิ่งที่กลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เป็นห่วงเกี่ยวกับชุย คือ การตัดสินใจของเขา โดยรวมถึงกรณีที่ชุยไม่แต่งตั้ง นาง Fatima Choi (ไช่ เหม่ยลี่) แห่งคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินของมาเก๊า อยู่ในตำแหน่งต่อไป ไช่เป็นผู้แฉการใช้จ่ายในอีสต์ เอเชียน เกมส์ หลังจากข่าวที่ไช่ไม่ได้รับแต่งตั้งอยู่ในตำแหน่งต่อไป รายการโฟนอินทางวิทยุ และบทบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ ต่างประสานเสียงเชียร์หญิงเหล็กไช่ ซึ่งเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการปรับปรุงระบบตรวจสอบเงินแผ่นดิน.