เพื่อไทย หน้าสลอนสุมหัวข่าวป่วนส่งท้ายปี พาลหาเรื่องศก.ล่มเพราะรบ.จี้ยกเครื่องทีมเศรษฐกิจ ตีหน้ามึนขู่สอบเข้ม ครม.มาร์ค ปีหน้า สันดานดิบปัดสวะไม่เกี่ยวสัมพันธ์ไทย-เขมร ร้าวฉาน โบ้ยความขัดแย้งเรื่องส่วนตัวผู้นำ แถมโอบอุ้มเด็กเลี้ยงแกะถูกฟ้อง สมจิตนาการสมานฉันท์ไม่เกิดแน่
วันนี้ (25 ธ.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายปลอดประสพ สุรัสวดี นายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรค น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. ในฐานะประธานคณะกรรมการปราบโกงพรรคเพื่อไทย นายชวลิต ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายปลอดประสพ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้หารือกันและตกลงกันเป็นการภายในว่าในช่วง 5 วันเทศกาลปีใหม่ ต้องการให้มีข่าวทางบวก พูดในสิ่งที่เป็นบวก ไม่ให้ใครเป็นทุกข์ แต่อาจสะเทือนใจใครบางคนบ้าง ส่วนการทำหน้าที่ของพรรคเพื่อไทยในปี 2553นั้น ขอเรียนว่าจะตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้น รุนแรง และต่อเนื่อง เพื่อให้ประเทศไทย สังคมไทย มีความยุติธรรม มีความเสมอภาค มีรัฐบาลที่ชอบธรรมและมีความสามารถ เมื่อถามว่าตรวจสอบรุนแรง หมายถึงเสื้อแดงเคลื่อนไหวด้วยหรือไม่ นายปลอดประสพตอบว่า อะไรที่คิดว่ารุนแรงใช้หมดแหละเที่ยวนี้
นายปลอดประสพกล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีแถลงผลงานครบรอบ 1 ปีนั้น เป็นไปตามคาดที่ปาฐกถาเก่งอย่างเดียว หลายเรื่องไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยเฉพาะตัวเลขทางเศรษฐกิจ ที่สำคัญท่านปาฐกถามแล้วไม่เปิดโอกาสให้ซักถาม ฝ่ายค้านจึงขอตั้งคำถามแทนในเรื่องที่ข้องใจ ขอย้ำว่าจากที่เราวิเคราะห์การบริหารงานในรอบ 1 ปีรัฐบาลสอบตก ประชาชนมีทุกข์และยากจน สังคมไม่ปลอดภัย ไม่สงบสุข บ้านเมืองขาดความยุติธรรม ไม่มีความเสมอภาค พอกันทีสำหรับ 1ปีของการสร้างภาพ โดยขอแนะนำรัฐบาล 3 ด้าน คือ 1. ด้านเศรษฐกิจ หากรัฐาลมีความตั้งใจ จริงใจ จะฟื้นฟูเศรษกิจให้ได้ นายกฯต้องยกเครื่องทีมเศรษฐกิจ รวมถึงการดำเนินการทางด้านเศรษฐกิจใหม่หมด หากปล่อยไว้เช่นนี้ประเทศเจ๊ง และท่านต้องทราบปัญหาจากประชาชนโดยตรง ไม่ใช่ฟังรายงานจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยหรือการหอค้าไทย อีกทั้งต้องแก้ไขปัญหามาบตาพุด
นายปลอดประสพกล่าวว่า 2.ด้านสังคมและการเมือง นายกฯต้องหยุดคอรัปชันให้ได้ เอาคนผิดมาลงโทษให้ได้ และเอากฎเหล็ก 9 ข้อเป็นตัวชี้วัดความโปร่งใสของรัฐ แม้นายกฯต้องปลดครม.ยกชุดก็ต้องทำ นายกฯต้องสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด ก่อนที่มันจะสายเกินไป ขอย้ำนะว่าก่อนที่มันจะสายเกินไป นายกฯจะต้องนำพาหยุด 2 มาตรฐานในสังคมไทยให้ได้ และนายกฯต้องไม่ผลักดันคนเสื้อแดงที่มีอยู่ 20 ล้านคน ให้ไปเป็นศัตรูกับท่านอย่างถาวร คนเหล่านี้ถูกกดดันตลอดเวลา ถูกข่มเหง รังแก่ เป็นคนชั้นสอง ไม่ได้รับความยุติธรรม ไม่มีโอกาสเงยหน้าขึ้นมารับความเจริญ รัฐบาลแทนที่จะเห็นและเข้าใจ กลับไปบอกว่าพวกนี้เป็นศัตรู ถ้าทำอะไรรุนแรนแทนที่จะเห็นใจก็ปราบลูกเดียว ท่านปราบคน 20 ล้านคนไม่ได้หรอก เพราะเป็นเจ้าของประเทศ ตัวเลข 20 ล้านคนไม่ใช่ตัวเลขที่พูดส่งเดช 3.ด้านความมั่นและกิจการต่างประเทศ อยากขอร้องให้นากยฯแก้ปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้โดยเร็ว อย่าเอาแต่พูด นายกฯจำเป็นต้องปรับวิธีคิดและการทำงานของกระทรวงการต่างประเทศเสียใหม่ ที่กระทรวงนี้มีหน้าที่เสริมสร้างสัมพันธไมตรีอันดีกับประเทศพื่อนบ้าน นอกจากนี้กองทัพต้องอยู่และทำงานเพื่อประชาชน ไม่ใช่ค้ำจุนรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวถามว่า สมเด็จฯ ฮุนเซน ตอบโต้รัฐบาลไทย เนื่องจากเอกสารลับที่พรรคเพื่อไทยนำมาเปิดเผย นายกฯบอกว่าเรื่องทั้งหมดเกิดจากพรรคเพื่อไทย พรรคนี้จะรับผิดชอบอย่างไร นายปลอดประสพตอบว่า ลองไปคิดดูกรณีวิศวกรไทยที่ถูกจับข้อหาจากรรมข้อมูลที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของกัมพูชา กัมพูชาระบุว่าเป็นข้อมูลลับ ทางการไทยระบุว่าไม่ใช่ข้อมูลลับ มาลงโทษได้อย่างไร แต่กรณีหนังสือลับกระทรวงการต่างประเทศของไทย กัมพูชาบอกว่าไม่ใช่ข้อมูลลับ ทางการไทย โดยกระทรวงการต่างประเทศบอกว่าเป็นข้อมูลลับ นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ที่นำมาเปิดเผยก็บอกว่าไม่ใช่ข้อมูลลับ และส.ส.ในพรรคเพื่อไทยก็เห็นว่าไม่ใช่ข้อมูลลับ พร้อมเห็นว่ารัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศเดินทางผิดที่ใช้มาตรการตอบโต้แบบตาต่อตา ฟันตาฟัน ตอบโต้แบบปะฉะดะ เมื่อผิดก็ต้องเอาข้อมูลมาเปิดเผยว่ามันผิดอย่างไร ไทยเสียอะไร เพื่อระงับการตอบโต้ ให้กระทรวงการต่างประเทศเอาน้ำเย็นเข้าลูบ จะทำให้เกิดความสงบสุข เป็นการเตือนไม่ให้รัฐบาลทำผิด จะไปลงโทษถือโกรธจะถูกหรือไม่ แต่ก็ต้องตกใจที่กระทรวงการต่างประเทศไปฟ้องหมิ่นประมาทนายจตุพร เป็นการหาเรื่องที่ฟ้องกันไปฟ้องกันมา คดีหมิ่นประมาทไม่มีใครกลัวใคร นายจตุพรก็จะฟ้องกลับ แล้วได้อะไร แบบนี้เรียกว่าสมานฉันท์หรือไม่ ขอให้ทำอย่างนี้กันเลย มันไม่สนุก
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยจะรับผิดชอบต่อการเปิดเผยข้อมูลลับของกระทรวงการต่างประเทศ และไปถึงมือสมเด็จฯ ฮุนเซน นายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตอบว่า เรื่องนี้สมเด็จฯ ฮุนเซน พูดชัดเจนว่า เป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างท่านกับนายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ นายกฯ พรรคเพื่อไทยไม่มีส่วนตรงนั้นเลย เรามีหน้าที่สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้าน เราก็ทำมาตลอด ปัญหาคือตัว นายอภิสิทธิ์ ที่ผู้นำประเทศเพื่อนบ้านไม่ชอบ
นายคณวัฒน์ วศินสังวร กล่าวว่า รัฐาลอภิสิทธิ์อยู่นานยิ่งทำให้สังคมแตกแยก การฟื้นฟูเศรษฐกิจก็ไม่เป็นไปตามที่นายอภิสิทธิ์ คุยโม้โอ้อวดไว้ที่บอกว่ากำลังฟื้น ที่ที่เศรษฐกิจอยู่ในช่วงเปาะบาง เป็นรัฐบาลถังแตกกู้เงินมาโปะคงคลัง อัตราการว่างงานที่ลดลงก็กำลังตรวจสอบอยู่ว่าลดจริงตามที่รัฐบาลระบุหรือไม่ โครงการต้นกล้าอาชีพที่มีการทุจริต และตอนนี้ยกเลิกโครงการไปแล้วเราก็ต้องจับตาดูต่อไป นายอภิสิทธิ์ เป็นผู้นำที่หนี้ปัญหา ซื้อเวลา ทั้งการแก้รัฐธรรมนูญ โครงการมาบตาพุด การแก้ไขปัญหาการทุจริต
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลนี้ทำให้ระบบการบริหารราชการล่มสลาย ไร้การบริหารแบบคุณธรรม โดยเฉพาะในกระทรวงมหาดไทย ทั้งการแต่งตั้งผวจ. รอง ผวจ.ที่มีการวิ่งเต้น มีการเรียกรับเงิน อย่ามาถามหาหลักฐานตอนนี้ เอาไว้พบกันในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนกรณีการเลือกตั้งซ่อมในจ.มหาสารคามนั้น ขอให้กกต.จังหวัดลงพื้นที่ตรวจสอบการเลือกตั้งซ่อมที่จ.หาสารคาม ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 มกราคมนี้ให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม เนื่องจากเกรงจะมีปัญหาดังเช่นการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดสกลนคร เนื่องจากขณะนี้พรรคได้รับรายงานว่า ในช่วงการเลือกตั้งซ่อมล่วงหน้า ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 26และ 27 ธ.ค.นี้ อาจมีการขนคนมาเลือกตั้งล่วงหน้ามากผิดปกติและเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้สอบถามสาเหตุจากประชาชนที่ไม่สามารถมาใช้สิทธิเลือกตั้งวันจริงได้