“ฟองสบู่” ในตลาดอสังหาฯ อาจทำเศรษฐกิจจีนลื่นลงเหว?

สถานการณ์เศรษฐกิจจีนเวลานี้ ดูอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อไปสู่เส้นทางการฟื้นตัว หรือไม่ก็ลื่น “ฟองสบู่” ลงเหว ในการประชุมเศรษฐกิจประจำปีสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ตัดสินคงรักษานโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และปล่อยสินเชื่อคล่อง เพื่อประคองโครงการก่อสร้างต่างๆ มิให้หยุดชะงักไปกลางคันเพราะขาดทุนรอน ด้วยความเชื่อมั่นว่าวิธีการนี้จะช่วยรักษาการฟื้นตัวเศรษฐกิจอย่างมั่นคง พร้อมกันนี้ ก็ได้ออกแผนมาตรการสำหรับคลี่คลายภาวะฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่ดูน่ากลัวยิ่ง

ตะลึ่ง! “ฟองสบู่” ลอยฟ่องเหนือถนนคอนดุยท์ ฮ่องกง

ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีรายงานข่าวนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากแผ่นดินใหญ่ซื้อห้องชุดในอพาร์ทเมนต์ขนาด 6,158 ตารางฟุต 5 ห้องนอน บนถนนคอนดุยท์ (Conduit Road) ฮ่องกง ราคาสูงระยับถึง 57 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทยก็ตกประมาณ 1,900 ล้านบาท! หรือเฉลี่ยราคาต่อตารางฟุต เหยียบ 9,200 เหรียญสหรัฐ ทุบสถิติราคาอสังหาริมทรัพย์โลก ทำวงการเฝ้ามองสถานการณ์เศรษฐกิจจากมหานครนิวยอร์กถึงลอนดอนตกตะลึงกับราคาซื้อขายห้องชุดหรูที่สูงขนาดนี้ในยามเศรษฐกิจโลกถดถอย ซึ่งปรากฎการณ์ดังกล่าวก็เป็นผลมาจากตลาดในจีนแผ่นดินใหญ่กำลังบูมและมีเงินจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาในระบบการเงินโลก จนน่าวิตกว่าจะทำให้เกิดภาวะฟองสบู่ได้

และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานสถิติแห่งรัฐจีนเผยตัวเลขราคาอสังหาริมทรัพย์ในเขตเมืองระหว่างเดือนพฤศจิกายน ขยายตัวอย่างรวดเร็วสุดในรอบ 16 เดือน โดยราคาบ้านที่อยู่อาศัยตามเขตเมืองขนาดใหญ่และขนาดกลาง 70 แห่ง ถีบตัวสูงในอัตราร้อยละ 5.7 จากปีก่อนหน้า

หวัง ซื่อ ประธาน China Vanke Co นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่สุดของประเทศด้านมูลค่าตลาด ก็ได้เตือนว่าฟองสบู่ในตลาดอสังหาฯตามกลุ่มเมืองใหญ่ของจีน อาจแผ่ลามไปยังส่วนอื่นๆของประเทศ

ในการประชุมประจำปีเศรษฐกิจประจำปีของผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีผู้นำสูงสุดระดับประธานาธิบดี หู จิ่นเทา และนายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่านั่งเป็นประธาน ก็ดูจะได้ถกมาตรการสกัดฟองสบู่แตกกันเคร่งเครียด โดยในแถลงการณ์หลังการประชุมฯนอกจากได้ระบุการตัดสิตใจคงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและปล่อยกู้ง่ายแล้ว ก็ตามติดด้วยมาตรการภาษีเพื่อควบคุมการซื้อง่ายขายคล่องอันจะนำไปสู่เก็งกำไรอย่างดุเดือดในภาคอสังหาฯ ได้แก่ มาตรการยกเว้นภาษีให้แก่การซื้อขายบ้านมือสองที่ถูกซื้อมานานอย่างต่ำ 5 ปี ทั้งนี้ ในช่วงที่วิกฤตเศรษฐกิจโลกกำลังส่งพ่นพิษ ทำให้ตลาดอสังหาฯในจีนพลอยซบเซา รัฐบาลก็ได้ออกมาตรการช่วยส่งเสริมการซื้อขายในเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยยกเว้นภาษีให้แก่การซื้อขายบ้านมือสองที่ถูกซื้อมาในช่วงเวลาสองปี ซึ่งหมายถึงผู้ซื้อบ้านมานานสองปี ก็สามารถทำสัญญาซื้อขายโดยไม่ต้องเสียภาษี

ในวันจันทร์ที่ผ่านมา ก็มีรายงานมาตรการอีกชุดสำหรับรักษาเสถียรภาพการลงทุนภาคอสังหาฯที่ส่อเค้าร้อนเกิน ได้แก่ แผนการเร่งโครงการก่อสร้างบ้านการเคหะของรัฐราคาถูก ปรับปรุงการกำกับดูแลตลาดอสังหาฯ และการคาดการณ์ราคาอสังหาฯให้เป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ ตลอดจนมีแผนการบูรณะเขตชุมชนแออัด กลุ่มโรงงานเก่า และธุรกิจเหมืองแร่ระหว่างห้าปีข้างหน้านี้

ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็จะส่งเสริมให้บรรดาธนาคารปล่อยสินเชื่อแก่โครงการบูรณะเขตเมือง และงัดมาตรการเรียกเก็บภาษีกับบางโครงการ ควบคุมการลงทุนในภาคอสังหาฯเพื่อการเก็งกำไรอย่างดุเดือด อีกทั้งป้องกันความเสี่ยงด้านสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัย

คำมั่นจากการประชุมเศรษฐกิจฯได้สะท้อนถึงความกังวลต่อแรงกดดันภาวะเงินเฟ้อระยะยาว ที่เป็นผลมาจากการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเม็ดเงินจากสินเชื่อธนาคารที่รัฐบาลเปิดไฟเขียวให้ และการใช้จ่ายภาครัฐอย่างมหาศาล นอกไปจากนี้ ยังสะท้อนถึงความวิตกต่อการเติบโตอย่างร้อนแรงในภาคอสังหาฯ ไปถึงแนวโน้มฟองสบู่ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ ล้วนเป็นภัยคุกคามสังคมที่น่ากลัวมาก

ทั้งนี้ ยุคเครดิตบูมของจีน ทำให้ บริษัทอย่าง Hong Kong Resources Holdings ซึ่งมีร้านค้าขายเครื่องประดับเพชรพลอยในจีน ถึง 219 แห่ง โกยผลประโยชน์พุงกาง โดยราคาหุ้นของบริษัทฯ พุ่งกระฉูดถึงร้อยละ 500 ในปีที่แล้ว! นอกจากนี้ ยอดขายทองคำและเครื่องประดับเพชรพลอย เงิน ก็พลอยในช่วงปี 2552 นี้ ดีดตัวสูงถึงร้อยละ 15.5 โดยคาดการณ์ว่ายอดขายรวมทั้งปี จะมีมูลค่า 45,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

กระแสวิจารณ์นโยบายภาคอสังหาฯ

เฉิน เซิง ผู้อำนวยการ China Index Academy ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยในท้องถิ่น ชี้ว่ารัฐบาลมังกรเชื่อว่าทิศทางของตลาดอสังหาฯกำลังมุ่งไปสู่เป้าหมายการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจในปีหน้า 2553 โดยนโยบายที่ดำเนินอยู่นี้ มุ่งส่งเสริมการก่อสร้างและการขายโครงการบ้านเคหะที่รัฐอุดหนุน มากกว่ากลุ่มที่อยู่อาศัยราคาสูง หรือบ้านทั่วไป

แต่ หลิว คุน นักวิเคราะห์ ประจำ Great Wall Securities ก็เตือนว่า การส่งเสริมการเคหะของรัฐนี้ เป็นเรื่อง “พูดง่ายกว่าทำ” เนื่องจากกลุ่มรัฐบาลท้องถิ่นในเขตตอนในของประเทศจีนนั้น ส่วนใหญ่ยากจน ขาดแคลนเงินทั้งมาตรการส่งเสริม และเงินสนับสนุนที่จะผลักดันโครงการฯ

ดังนั้นแม้รัฐบาลกลางเรียกร้องให้ช่วยผลักดันการเคหะภาครัฐราคาถูกให้ขึ้นมีบทบาทนำในตลาดอสังหาฯของประเทศ แต่กลุ่มรัฐบาลท้องถิ่นก็ยังลังเล และอิดออดที่จะตอบสนองนโยบาย.