รอยเตอร์ – ผู้เชี่ยวชาญเตือน จีนต้องเฝ้าระวังเชื้อไวรัสH1N1หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009 กลายพันธุ์ เพราะแดนมังกรเคยเป็นพื้นที่ระบาดของไวรัสไข้หวัดนก H5N1 มาแล้ว ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนล้มตายมามากกว่า
นายแพทย์ จง หนันซาน ผู้อำนวยการสถาบันโรคทางเดินหายใจแห่งกว่างโจวในมณฑลกว่างตง ทางภาคใต้ของจีนให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ประเทศจีนแตกต่างจากชาติอื่นตรงที่มีเชื้อไวรัสทั้งสองชนิดนี้อยู่ จึงอาจเกิดการผสมพันธุ์ กลายเป็นเชื้อผสม ซึ่งก่อภัยพิบัติ เนื่องจากมีฤทธิ์ทำลายชีวิตรุนแรง และสามารถติดต่อสู่คนอย่างง่ายดาย
ดังนั้น จีนจึงจำเป็นต้องคอยติดตามการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสH1N1 และการรายงานยอดผู้เสียชีวิตจำเป็นต้องมีความโปร่งใสจริง ๆ
ด้านองค์การอนามัยโลก หรือ WHO เตือนเมื่อวันอังคาร (24 พ.ย.) ว่า พบการติดเชื้อ H5N1ในสัตว์ปีกในอียิปต์, อินโดนีเชีย,ไทย และเวียดนาม ซึ่งทำให้เกิดภัยคุกคามต่อมนุษย์อีกครั้ง หากมีการสัมผัสโดยตรง ซึ่งมักเป็นกรณีของคนในชนบท หรือคนงานในฟาร์ม
นอกจากนั้น เชื้อไวรัสนี้อาจกลายพันธุ์ โดยผสมกับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดอื่น กลายเป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่อย่างสมบูรณ์ได้
จากการให้สัมภาษณ์ของนายแพทย์จงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จีนอาจมีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009 มากกว่าตัวเลขที่รายงานอย่างเป็นทางการ แต่คณะผู้ปกครองท้องถิ่นมิได้ไม่รายงานกรณีผู้ป่วยต้องสงสัยว่าเป็นโรคใดกันแน่ โดยในบางภูมิภาคอาจขาดแคลนเครื่องไม้เครื่องมือในการตรวจหาเชื้อ แต่อีกหลายภูมิภาคกลับให้การรักษาผู้ป่วยอย่างการรักษาโรคปอดอักเสบธรรมดา โดยมิได้ซักถาม จึงทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต
“ หน่วยงานสาธารณสุขท้องถิ่นบางรายรีรอ ไม่เต็มใจตรวจผู้ป่วย ที่มีอาการปอดอักเสบรุนแรง เพราะมันมีกฎกลาย ๆ ว่า ยิ่งถ้ามีการตายจากH1N1 มากเท่าใด ก็เท่ากับว่าการทำงานควบคุมและป้องกันโรคในพื้นที่ของคุณยิ่งขาดประสิทธิภาพมากเท่านั้น” นายแพทย์จงกล่าว
นายเฉิน จู รัฐมนตรีสาธารณสุขเห็นด้วยกับนายแพทย์จงในเรื่องนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จากนั้น จึงได้มีประกาศลงในเว็บไซต์ของกระทรวง ขู่ลงโทษหนักเจ้าหน้าที่ ที่ปิดบังจำนวนผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่H1N1
ทั้งนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่า นายแพทย์จงเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมา เขาเคยทำงานต่อสู้กับการระบาดของโรคทางเดินหายเฉียบพลันรุนแรง หรือซาร์สเมื่อปี 2546
ตอนนั้น ชาวจีนแตกตื่นกันทั้งประเทศ และนานาชาติพากันตกใจ หลังจากทราบว่าเจ้าหน้าที่ของจีนได้ปิดบังเรื่องโรคซาร์สแพร่ระบาด หรือทำเหมือนเป็นเรื่องปกติ ส่งผลให้มีการสั่งปลดเจ้าหน้าที่หลายคนในเวลาต่อมา โดยมีผู้เสียชีวิตไปกว่า 300 คน
WHO รายงานว่า มีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่H1N1 ที่ได้รับการยืนยัน จำนวนกว่า 526,060 คน และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6,770 คนในทั่วโลกเมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ได้ย้ำว่า ตัวเลขแท้จริงมีสูงกว่านั้น โดยทั้งWHO และสำนักงานควบคุมโรคของสหรัฐฯ กล่าวว่า มีผู้ติดเชื้อแล้วหลายล้านคน
นอกจากนี้ WHO ยังเตือนได้ให้ชาติต่าง ๆ มุ่งทุ่มเทการรับมือกับโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในลักษณะการยับยั้ง บรรเทาการแพร่ระบาด มากกว่าการใช้มาตรการป้องกันราคาแพง หรือตรวจร่างกายทุก ๆ คน
