เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์--ปฏิบัติการกวาดล้างคอรัปชั่น ที่จีนบุกบั่นมานาน กำลังถึงจุดเดือด ครานี้ ถึงคิวล้างบางโลกมืดแห่งมหานครฉงชิ่ง ที่คนไทย มักเรียกกันว่า จุงกิง
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลในฉงชิ่งได้ตัดสินคดีอาชญากรรมแก๊งมาเฟีย 2 กลุ่ม ซึ่งประกอบด้วยจำเลย 31 คน ศาลได้พิพากษาโทษประหารชีวิตแก่จำเลย 6 คน โดยจำเลย 3 คน ต้องโทษประหารทันที ได้แก่ หัวหน้าแก๊งทั้งสอง คือ นาย หยางเทียนชิ่ง และนาย หลิว จงหย่ง กับสมุนอีกคน สำหรับจำเลยอีก 3 คน ได้รับการลดโทษรอลงอาญา ส่วนสมุนคนอื่นๆ ต้องโทษจำคุก ตั้งแต่ 1 ปี ไปถึง 18 ปี
แก๊งมาเฟียสองกลุ่มที่ถูกสำเร็จโทษไปนี้คุมพื้นที่ต่างๆในนครฉงชิ่ง อาทิ อี๋ว์เป่ย, เป่ยเป้ย, จิ่วหลงปอ ก่ออาชญากรรมสารพัด ทั้งขู่กรรโชก ขูดรีดไถค่าคุ้มครอง ก่อเหตุรุนแรงทำร้ายร่างกาย ไปถึงฆาตกรรม
เรื่องราวของแก๊งมาเฟียทั้งสองที่ถูกเด็ดปีกไปนี้ เป็นเพียงยอดน้ำแข็งของวิกฤตปัญหาโลกมืดแก๊งมาเฟียในประเทศจีน ที่ไม่ผิดอะไรกับปลวกมหาศาลที่อาจกัดแทะบัลลังก์อำนาจของผู้นำคอมมิวนิสต์ล้มครืนลงได้
*****
ความฝันสีชมพูสร้างมหานครฉงชิ่ง และโลกจริงที่ดำมืด
ภาพยนตร์ฮ่องกงหลายๆเรื่องสะท้อนเรื่องราวของมาเฟีย ที่เต็มไปด้วยความรุนแรง อาชญากรรมขู่กรรโชก ถล่มคู่อริ และลูกหนี้เลือดสาดท่วมจอ นรกซ่องโสเภณี ข่มขืน บ่อนพนัน ยาเสพติด สีสันของนรกอันร้อนฉ่าของโลกมืดแก๊งมาเฟียในโลกจริง ก็ไม่ผิดไปจากกันเลย ดั่งโลกมืดแห่งนครฉงชิ่งที่กลุ่มสื่อจีนเองได้เปิดเผยอย่างครึกโครมในช่วงเดือนสองเดือนที่ผ่านมา
หลังยุคปฏิวัติวัฒนธรรม ที่ปิดฉากไปเมื่อปีพ.ศ. 2519 ฉงชิ่งยังคงเป็นเมืองหลังเขาของมณฑลซื่อชวน (เสฉวน) ที่ผู้คนพอจะรู้จักว่ามีอาหารรสเผ็ด และชาวนาแขวนสินค้าบนลำไม้ไผ่เร่ขายไปตามถนนที่เต็มไปด้วยฝุ่นดูสกปรก กระทั่งในปี 2540 ผู้นำจีนได้จัดตั้งฉงชิ่งเป็นเทศบาลนครที่ขึ้นตรงต่อรัฐบาลกลาง จากนั้น ฉงชิ่งก็กลายเป็นมหานครใหญ่ที่สุดในโลก พญามังกรยังวางแผนพลิกโฉมฉงชิ่งเป็นอภิมหานครที่ทันสมัย และเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจตัวใหม่บริเวณตอนกลางของประเทศ หลายปีที่ผ่านมากระแสการลงทุนได้หลั่งไหลเข้าสู่ฉงชิ่ง กอปรด้วยการอัดฉีดงบประมาณสร้างโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ กระทั่งนครฉงชิ่งผงาดขึ้นเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่เฟื่องฟูแห่งหนึ่งของประเทศ
ทว่า ความเจริญแห่งโลกวัตถุในนครฉงชิ่ง ก็ได้ปลุกบรรดาแก๊งมาเฟียท้องถิ่นที่พัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติดและการค้ามนุษย์ การพนันผิดกฎหมาย การขู่กรรโชก รีดไถค่าคุ้มครอง สื่อจีนชี้ว่าแก๊งเหล่านี้อยู่เบื้องหลังอาชญากรรมลึกลับหลายคดีทั้งการฆาตกรรมและการลักพาตัว นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นก็ถูกกล่าวหาก่ออาชญากรรมเศรษฐกิจ รับสินบน เป็นพ่อค้าหน้าเลือดขูดรีดประชาชน ตลอดจนมีเอี่ยวในพฤติกรรมฟอนแฟะทุจริตฉ้อโกงเงินหลวง และยักยอกเงินทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ การละเมิดเหล่านี้ได้กลายเป็นเชื้อไฟโหมกระแสความโกรธแค้นในกลุ่มประชาชน จนระเบิดเป็นความวุ่นวายในสังคม ที่ปรากฏขึ้นบ่อยๆทั่วประเทศ
ความฟอนแฟะในโลกมืดกดดันกลุ่มผู้นำสูงสุดพรรคอมมิวนิสต์อย่างหนักหน่วง ถึงกับประธานาธิบดี หู จิ่นเทา กล่าวในที่ประชุมกลุ่มการนำของพรรคฯเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่า “ความเป็นความตายของพรรคฯขึ้นอยู่กับงานปราบปราม และลงโทษคอรัปชั่น"
แฉโลกฟุ้งเฟ้อฟอนแฟะของเจ้าพ่อมาเฟีย-มาม่าซัง
สำหรับในนครฉงชิ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เริ่มลุยปฏิบัติการปราบปรามแก๊งมาเฟียในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จับกุมแก๊งมาเฟียได้ 19 กลุ่ม และผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับแก๊งอาชญากรรมเหล่านี้ กว่า 4,800 คน พร้อมกับยึดของกลางได้แก่อาวุธปืน 1,700 ชุด
สำหรับ “ปลาใหญ่” ที่เจ้าหน้าที่จับได้ในครั้งนี้ คือ นาย เหวิน เฉียง อดีตรองผู้บัญชาการหน่วยตำรวจ 16 ปี และยังเป็นหัวหน้าสำนักงานประสานแผนกระบวนการยุติธรรม เหวินถูกปลดออกจากตำแหน่งฯเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากที่ถูกจับกุมตัว พร้อมตั้งข้อหาแรก รับสินบนกว่า 100 ล้านหยวน สำหรับเป็นค่า “ร่มคุ้มครอง”ธุรกิจต่างๆ ทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โครงการคมนาคม รวมทั้งธุรกิจผิดกฎหมายอย่างบ่อนพนัน และซ่องโสเภณี
สื่อจีนแฉชีวิตเจ้าพ่อมาเฟียในเครื่องแบบผู้พิทักษ์สันติราษฎร์และความยุติธรรม เมื่อตำรวจได้เบาะแสมาว่าเหวิน เฉียงได้โยกย้ายเงินออกนอกประเทศถึง 30 ล้านเหรียญสหรัฐ จากนั้น จึงติดตามแกะรอยกรณีอื้อฉาวต่างๆของเขา
“ตอนแรก เหวิน และภรรยาของเขา ไม่ยอมเปิดปาก วันๆเหวินเอาแต่กินและนอน ส่งเสียงเอะอะเอ็ดตะโรเรียกเจ้าหน้าที่ ที่มาไต่สวนเขา” เจ้าหน้าที่ตำรวจเผย
แต่แล้วตำรวจก็พบช่องทางในการสืบสาวหลักฐาน “เหวิน เฉียง มีชู้รักคู่นอนจำนวนมาก ทั้งยังกระชำเราข่มขืนเด็ก เหวินไม่ได้หว่านเงินซื้อล่อผู้หญิงเหล่านี้มา แต่มาจากบรรดาหัวโจกแก๊งมาเฟียที่ประจบสอพลอ หามาให้ พวกมาเฟียโลกมืดด้วยกันรู้สันดานกันดี จึงกลัวว่าเหวิน เฉียงอาจชักดาบค่าตัวผู้หญิง จึงถ่ายภาพเหวิน เฉียงนอนกับผู้หญิงเหล่านั้นไว้”
ทีมไต่สวนได้เทปคลิกฉาวของเหวินมาจากการปราบปรามแก๊งมาเฟีย และได้นำคลิปดังกล่าวไปให้ภรรยาหลวงของเหวินคือ โจว เสี่ยวย่า ชม “ผู้หญิงมักทนไม่ได้ที่เห็นสามีไปมีสัมพันธ์มั่วสั่วกับหญิงอื่น โจวร้องไห้โฮไม่หยุด ด่าทอสามีหยาบคาย จากนั้น ก็เริ่มคายปัญหาต่างๆของสามีออกมา ทั้งยังพาเจ้าหน้าที่ไปยังบ่อเลี้ยงปลาที่ดาดฟ้าวิลล่าแห่งหนึ่ง ขุดห่อกระดาษกันน้ำอย่างดีขึ้นมา ในนั้นมีเงินถึง 20 ล้านหยวน “
จากนั้น ทีมไต่สวนก็สืบสาวพฤติกรรมฟอนแฟะต่างๆของเหวิน เฉียง จนสามารถจับกุม และตั้งข้อหาเขา
“ปลาใหญ่” อีกตัวในโลกมืด ที่เจ้าหน้าที่ได้จับกุม คือ นาง เซี่ย ไฉผิง วัย 46 ปี ฉายา “มาม่าซัง” ผู้น้องสะใภ้ของเหวินนั่นเอง นางเซี่ยเปิดบ่อนการพนัน ร่วม 30 แห่ง ตามโรงแรมต่างๆในนครฉงชิ่ง จ่ายเงินใต้โต๊ะแก่ตำรวจ ให้ปิดตาไม่เห็นอาชญากรรมต่างๆของเธอ ซึ่งรวมทั้งการค้ายาเสพติด เซี่ยใช้สัมพันธ์ฉันท์เครือญาติกับเหวิน ดำเนินอาชญากรรมเหล่านี้ มานับ 10 ปี
สื่อจีนยังได้แฉข่าวฉาวเกี่ยวกับนางเซี่ย สำเริงสำราญกับชีวิตอันฟุ้งเฟ้อ ขับเบนซ์ ผัดเวียนเสพสุขตามวิลล่าหรูหลายแห่งของเธอ นอกจากนี้ ยังเลี้ยงต้อยเด็กหนุ่ม ถึง 16 คน คอยเปรอปรนทางเพศให้แก่เธอเป็นประจำ
ป๋อ ซีไหล จอมยุทธมือปราบแห่งจุงกิง
จีนได้คัดสรรผู้นำจอมยุทธมือปราบแห่งฉงชิ่ง คือ นาย ป๋อ ซีไหล เป็นผู้นำใหญ่ลุยปฏิบัติการกวาดล้างโลกมืดในนครใหญ่ระดับโลกแห่งนี้ นายป๋อ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดในตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์สาขานครฉงชิ่งเมื่อปี 2550
ป๋อผู้นำมือปราบแห่งฉงชิ่ง วัย 60 ปี เป็นสมาชิกในกลุ่มลูกท่านหลานเธอ บุตรชายของ ป๋อ อีปอ
“เรามิใช่ผู้ริเริ่มกวาดล้างโลกดำมืดเหล่านี้ แต่เป็นแก๊งมาเฟียต่างหากที่บีบคั้นพวกเราจนไม่มีทางเลือก ประชาชนต่างมายืนออกันที่ประตูที่ทำการรัฐบาล ชูภาพที่เต็มไปด้วยเลือดสาดน่าขนลุก พวกมาเฟียถือมีดขวานฟันคน มิผิดอะไรกับคนแล่เนื้อเชือดสัตว์ เหี้ยมเกรียมมาก ปีที่แล้ว เรากวาดล้างอาวุธมีด มีดเล่มโตๆกองเป็นภูเขา นั่นมันไม่ใช่มีดเล่มเล็กๆทั่วไป แต่เป็นขวานเชียวนะ” ป๋อ ซีไหล พูดกับสื่อฉงชิ่ง
ผลงานการกวาดล้างทำความสะอาดโลกมืดมหานครฉงชิ่ง ของป๋อ ชนะใจกลุ่มชาวเน็ต “ ป๋อ คือผู้นำจีนยุคใหม่” ชาวเน็ตในมณฑลเจ้อเจียงยกย่อง
นอกจากนี้ กลุ่มสังเกตการณ์บนเวทีการเมือง ต่างกล่าวขวัญว่า ผลงานชิ้นโบว์แดงในนครฉงชิ่งภายใต้การนำของป๋อ จะส่งให้เขา เป็น”ม้ามืด” ในการผลัดเปลี่ยนกลุ่มการนำรุ่นต่อไปของพรรคคอมมิวนิสต์ในปี 2555
“ผลกระทบจากการทำงานของเขา มิใช่แค่ระดับท้องถิ่น แต่เป็นระดับชาติทีเดียว” เจียง เหวินหรัน นักวิเคราะห์การเมืองผู้เคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกับป๋อ ที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งในปลายทศวรรษที่ 1970 กล่าว เจียงหวนนึกถึงป๋อในอดีต ว่า “ป๋อเป็นนักศึกษาที่ฉลาดมีความสามารถ มีปณิธานสร้างความถูกต้องยุติธรรม”
คลิกอ่าน: ฉงชิ่งหวังเฉิดฉายภายใต้”ป๋อซีไหล”ผู้นำคนใหม่