ตำรวจแถลงจับอดีตหนุ่มพนักงานเคลมประกัน ขับเบนซ์รับจ้างส่งยาอี อ้างหาเงินรักษาอาการป่วยโรคหัวใจ โรคหอบหืด และน้ำท่วมปอด
วันนี้ (2 ส.ค.) เวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่งานสายตรวจ 1 กก.1 บก.ตปพ.ได้ทำการแถลงข่าวการจับกุม นายปรเมศ จักรวาฬณิชย์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 ซอยราชาวดี 5 ถนนราชาวดี ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ผู้ต้องหาค้ายาเสพติด พร้อมของกลางยาอี และยาไฟต์ไฟต์ รวมทั้งอาวุธปืนกึ่งออโตเมติกขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก
การจับกุม นายปรเมศ สืบเนื่องมาจากวานนี้ (1 ส.ค.) พ.ต.ต.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร สว.งานสายตรวจ 1 กก.1 บก.ตปพ. และเจ้าหน้าที่ ชปส.บช.น.ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการส่งมอบยาเสพติดกันบริเวณซอยอ่อนนุช 70 (หมู่บ้านเสรี) แขวงประเวศ เขตประเวศ กทม.จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่งานสายตรวจ 1 กก.1 บก.ตปพ.และเจ้าหน้าที่ ชปส.บช.น.เฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณใกล้เคียง
จนกระทั่งเวลาประมาณ 17.00 น.ของวันเดียวกัน พบชายต้องสงสัยทราบชื่อต่อมาคือ นายปรเมศ จักรวาฬณิชย์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 ซอยราชาวดี 5 ถนนราชาวดี ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ขับรถเก๋งยี่ห้อเบนซ์ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ภธ-6132 กทม.มาจอดบริเวณกลางซอยอ่อนนุช 70 จากนั้นก็ได้ลงมานั่งรอที่ด้านข้างรถท่าทางมีพิรุธและยังใช้โทรศัพท์มือถือบ่อยครั้ง กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 30 นาที ก็สังเกตเห็นนายปรเมศหยิบถุงกระดาษสีน้ำตาลมาวางไว้ริมทางเดินแล้วถอยออกห่าง ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าน่าจะเป็นบุคคลตามที่สายรายงานจึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้นภายในถุงกระดาษ พบยาอีจำนวน 2,000 เม็ด ยาไฟต์ไฟต์ 100 แฝง มีจำนวน 1,000 เม็ด จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจค้นภายในรถเก๋งคันดังกล่าว ก็พบยาอีกจำนวน 500 เม็ด ยาไฟต์ไฟต์อีก 100 แฝง มีจำนวน 1,000 เม็ด และอาวุธปืนกึ่งออโตเมติกขนาด 9 มม.จำนวน 1 กระบอก จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง
จากการสอบสวน นายปรเมศได้ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนมีอาชีพเป็นพนักงานเคลมประกันอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่ง มาระยะหลังตนเริ่มมีอาการป่วยเป็นโรคหัวใจ โรคหอบหืด และน้ำท่วมปอด ประกอบกับเงินที่ได้จากการทำงานไม่พอค่าใช้จ่ายและค่ารักษาตัว จึงได้หันมารับจ้างส่งยาเสพติด โดยจะมีคนสั่งการอยู่ในเรือนจำ โทรศัพท์มาบอกให้ตนไปรับยาเสพติดตามที่ต่างๆ จากนั้นตนก็จะนำเสพติดใส่ไว้ในกล่องที่ตนทำขึ้นแล้วใช้แม่เหล็กติดด้านใต้ เพื่อใช้ติดในรถอำพรางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากนั้นตนก็จะนำของไปส่งให้ลูกค้าตามที่นัดหมาย โดยจะได้ค่าจ้าง 5,000 บาท ต่อ 1 ซองเอกสาร โดยทำมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งตนก็รู้ว่ามันผิดแต่เพราะต้องการเงินมารักษาตัวเองจึงต้องทำ จนกระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว