รวบ ”จ่าหงอก” เมืองนนท์ ตำรวจตลิ่งชันตามควบคุมตัวได้ขณะนอนนวดแผนโบราณร้านประจำย่านถนนกาญจนาภิเษก รับตระเวนลักรถบ่อยครั้ง โดยมี “แร้ง พัศสารัมย์” เป็นหัวหน้าแก๊ง ขับเบนซ์จอดประกบรถเป้าหมาย เน้นกระบะรุ่นเก่าไม่มีสัญญากันขโมย ทำทีขึ้นป้ายรถเสีย แล้วโทรเรียกรถยกมาลากออกจากพื้นที่ นำไปชำแหละชิ้นส่วนขาย พบตั้งแต่ปี 51 ทำมาแล้ว 15 ครั้ง
วันนี้ (22 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น.ที่ สน.ตลิ่งชัน พ.ต.ท.ภิญโญ ใหญ่ไล้บาง รอง ผกก.จร.รรท.ผกก.สน.ตลิ่งชัน พ.ต.ท.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล รองผกก.สส.สน.ตลิ่งชัน พ.ต.ท.นิกร ด้วงฉุน สว.สส.สน.ตลิ่งชัน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายธวัชชัย ประทุมชาติ หรือ “จ่าหงอก” อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/16 หมู่ที่ 6 ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน เลขที่ 1777/2551 ลงวันที่ 6 ต.ค.51 ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ (รถยนต์) ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร
โดยจับกุมได้ที่บริเวณริมถนนกาญจนาภิเษก ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี พร้อมของกลางรถเบนซ์ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน จค-6865 กทม.แผ่นป้ายทะเบียนรถ หมายเลข กบ-8743 นนทบุรี จำนวน 2 แผ่น หมายเลข 8 ค-9819 กทม.จำนวน 2 แผ่น ป้ายสัญญาณ 1 แผ่น ไฟไซเรนฉุกเฉิน 1 ตัว เครื่องเสียงติดรถยนต์ และอุปกรณ์งัดแงะชำแหละรถยนต์ประเภท ไขควง คีมล็อก ฯลฯ จำนวนมาก
พ.ต.ท.ภิญโญ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากในพื้นที่รับผิดชอบของ สน.ตลิ่งชัน และโรงพักอื่นๆที่อยู่ในพื้นที่ บก.น.7 เกิดเหตุโจรกรรมรถขึ้นหลายครั้ง ทางฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน จึงทำการสืบสวนจนทราบว่า นายธวัชชัย หรือ จ่าหงอก ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับในคดีลักรถยนต์ของศาลจังหวัดตลิ่งชัน ซึ่งได้หลบหนีในชั้นประกันของศาลไป มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจรกรรมรถในพื้นที่ จึงสืบสวนติดตามจับกุมมาโดยตลอด จนทราบนายธวัชชัยมักจะมานวดที่ร้านนวดแผนโบราณแห่งหนึ่งบนถนนกาญจนาภิเษกอยู่เป็นประจำ
พ.ต.ท.ภิญโญ กล่าวต่อว่า จนกระทั่งวานนี้ (21 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสืบทราบว่า นายธวัชชัย ได้เข้ามานวดที่ร้านเดิมอีก จึงนำกำลังเข้าจับกุมจตัวเอาไว้ได้ ก่อนควบคุมตัวไปตรวจค้นที่บ้านพักของผู้ต้องหาเลขที่ 37 หมู่ 7 ต.คลองพระอุดม อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ก็พบของกลางจำพวกอุปกรณ์งัดแงะ และใช้ชำแหละรถยนต์อีกจำนวนมากจึงยึดไว้เป็นของกลาง ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สน.ตลิ่งชัน
จากการสอบสวน นายธวัชชัย ให้การว่า ตนออกตระเวนลักรถมาแล้วหลายครั้ง โดยแต่ละครั้งตนกับนายคำมี หรือ แร้ง พัศสารัมย์ หัวหน้าแก๊ง จะขับรถเบนซ์คันดังกล่าวไปตระเวนหารถกระบะรุ่นเก่า ที่ไม่มีระบบสัญญาณกันขโมย เมื่อได้รถเป้าหมายแล้ว ก็จะขับรถเบนซ์เข้าไปจอดประกบ ก่อนทำทีเอาป้ายสัญญาณรถเสียกับไฟสัญญาณฉุกเฉินวางไว้ ก่อนจะโทร.เรียกรถยกเอกชนมายกออกไปจากพื้นที่ทันที
นายธวัชชัย กล่าวต่อว่า หากรถที่ขโมยมาเป็นรถที่ยังขับได้ ก็จะบอกให้รถยกจอดข้างทาง ก่อนจะขับต่อไปยังอู่ที่ จ.ปทุมธานี ก่อนจะมีทีมชำแหละรถอีกทีมทำการชำแหละแยกชิ้นส่วนแล้วส่งไปขายต่อ แต่หากรถคันที่ขโมยมาเสียวิ่งต่อไม่ได้ ก็จะให้รถยกเอาไปจอดไว้จุดเปลี่ยวข้างทาง ก่อนจะเรียกทีมชำแหละมาแยกชิ้นส่วนรถส่งขายอีกทีหนึ่ง ซึ่งแต่ละครั้งก็จะได้เงินมา 12,000-20,000 บาท จากนั้นนายคำมีก็จะแบ่งเงินมาให้ตนอีกที แต่จำนวนจะได้ไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับราคาชิ้นส่วนรถที่ขายได้
พ.ต.ท.ภิญโญ กล่าวด้วยว่า จากการสอบสวนขยายผล นายธวัชชัย ยอมรับว่า ตั้งแต่ต้นปี 51 ถึง เดือน มิ.ย.ปีนี้ ได้ก่อเหตุลักรถกระบะมาแล้วทั้งสิ้น 15 ครั้ง ประกอบด้วยในพื้นที่บก.น.7 จำนวน 8 คดี พื้นที่ สภ.อ.บางกรวย จ.นนทบุรี จำนวน 3 คดี สภ.ปลายบาง 2 คดี สภ.บางใหญ่ 1 คดี และสภ.บางศรีเมืองอีก 1 คดี ซึ่งทุกครั้ง จะมี นายคำมี ร่วมก่อเหตุด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะขยายผลติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (22 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น.ที่ สน.ตลิ่งชัน พ.ต.ท.ภิญโญ ใหญ่ไล้บาง รอง ผกก.จร.รรท.ผกก.สน.ตลิ่งชัน พ.ต.ท.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล รองผกก.สส.สน.ตลิ่งชัน พ.ต.ท.นิกร ด้วงฉุน สว.สส.สน.ตลิ่งชัน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายธวัชชัย ประทุมชาติ หรือ “จ่าหงอก” อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/16 หมู่ที่ 6 ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน เลขที่ 1777/2551 ลงวันที่ 6 ต.ค.51 ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ (รถยนต์) ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร
โดยจับกุมได้ที่บริเวณริมถนนกาญจนาภิเษก ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี พร้อมของกลางรถเบนซ์ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน จค-6865 กทม.แผ่นป้ายทะเบียนรถ หมายเลข กบ-8743 นนทบุรี จำนวน 2 แผ่น หมายเลข 8 ค-9819 กทม.จำนวน 2 แผ่น ป้ายสัญญาณ 1 แผ่น ไฟไซเรนฉุกเฉิน 1 ตัว เครื่องเสียงติดรถยนต์ และอุปกรณ์งัดแงะชำแหละรถยนต์ประเภท ไขควง คีมล็อก ฯลฯ จำนวนมาก
พ.ต.ท.ภิญโญ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากในพื้นที่รับผิดชอบของ สน.ตลิ่งชัน และโรงพักอื่นๆที่อยู่ในพื้นที่ บก.น.7 เกิดเหตุโจรกรรมรถขึ้นหลายครั้ง ทางฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน จึงทำการสืบสวนจนทราบว่า นายธวัชชัย หรือ จ่าหงอก ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับในคดีลักรถยนต์ของศาลจังหวัดตลิ่งชัน ซึ่งได้หลบหนีในชั้นประกันของศาลไป มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจรกรรมรถในพื้นที่ จึงสืบสวนติดตามจับกุมมาโดยตลอด จนทราบนายธวัชชัยมักจะมานวดที่ร้านนวดแผนโบราณแห่งหนึ่งบนถนนกาญจนาภิเษกอยู่เป็นประจำ
พ.ต.ท.ภิญโญ กล่าวต่อว่า จนกระทั่งวานนี้ (21 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสืบทราบว่า นายธวัชชัย ได้เข้ามานวดที่ร้านเดิมอีก จึงนำกำลังเข้าจับกุมจตัวเอาไว้ได้ ก่อนควบคุมตัวไปตรวจค้นที่บ้านพักของผู้ต้องหาเลขที่ 37 หมู่ 7 ต.คลองพระอุดม อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ก็พบของกลางจำพวกอุปกรณ์งัดแงะ และใช้ชำแหละรถยนต์อีกจำนวนมากจึงยึดไว้เป็นของกลาง ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สน.ตลิ่งชัน
จากการสอบสวน นายธวัชชัย ให้การว่า ตนออกตระเวนลักรถมาแล้วหลายครั้ง โดยแต่ละครั้งตนกับนายคำมี หรือ แร้ง พัศสารัมย์ หัวหน้าแก๊ง จะขับรถเบนซ์คันดังกล่าวไปตระเวนหารถกระบะรุ่นเก่า ที่ไม่มีระบบสัญญาณกันขโมย เมื่อได้รถเป้าหมายแล้ว ก็จะขับรถเบนซ์เข้าไปจอดประกบ ก่อนทำทีเอาป้ายสัญญาณรถเสียกับไฟสัญญาณฉุกเฉินวางไว้ ก่อนจะโทร.เรียกรถยกเอกชนมายกออกไปจากพื้นที่ทันที
นายธวัชชัย กล่าวต่อว่า หากรถที่ขโมยมาเป็นรถที่ยังขับได้ ก็จะบอกให้รถยกจอดข้างทาง ก่อนจะขับต่อไปยังอู่ที่ จ.ปทุมธานี ก่อนจะมีทีมชำแหละรถอีกทีมทำการชำแหละแยกชิ้นส่วนแล้วส่งไปขายต่อ แต่หากรถคันที่ขโมยมาเสียวิ่งต่อไม่ได้ ก็จะให้รถยกเอาไปจอดไว้จุดเปลี่ยวข้างทาง ก่อนจะเรียกทีมชำแหละมาแยกชิ้นส่วนรถส่งขายอีกทีหนึ่ง ซึ่งแต่ละครั้งก็จะได้เงินมา 12,000-20,000 บาท จากนั้นนายคำมีก็จะแบ่งเงินมาให้ตนอีกที แต่จำนวนจะได้ไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับราคาชิ้นส่วนรถที่ขายได้
พ.ต.ท.ภิญโญ กล่าวด้วยว่า จากการสอบสวนขยายผล นายธวัชชัย ยอมรับว่า ตั้งแต่ต้นปี 51 ถึง เดือน มิ.ย.ปีนี้ ได้ก่อเหตุลักรถกระบะมาแล้วทั้งสิ้น 15 ครั้ง ประกอบด้วยในพื้นที่บก.น.7 จำนวน 8 คดี พื้นที่ สภ.อ.บางกรวย จ.นนทบุรี จำนวน 3 คดี สภ.ปลายบาง 2 คดี สภ.บางใหญ่ 1 คดี และสภ.บางศรีเมืองอีก 1 คดี ซึ่งทุกครั้ง จะมี นายคำมี ร่วมก่อเหตุด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะขยายผลติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป