เอเอฟพี-ธนาคารแห่งประเทศจีน ประกาศเมื่อวันอังคาร(20 ต.ค.) ว่ารองประธานธนาคารแห่งประเทศจีน นายจู หมิน ได้ลาออกจากตำแหน่ง ท่ามกลางกระแสเก็งว่า การลาออกของจู เป็นการเตรียมการเข้ารับตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF
ผู้นำจีนแถลงถึงการลาออกของจูในรายงานที่ยื่นแก่ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ โดยระบุสั้นๆเพียงว่า จูลาออกเพื่อเตรียมไปเข้าร่วมกับองค์กรอื่น
“ธนาคารแห่งประเทศจีน ได้รับใบลาออกจากรองประธานฯจู หมิน เมื่อวันที่ 16 ต.ค. เนื่องจากเขาจะต้องไปรับตำแหน่งในองค์กรอีกแห่ง” แถลงการณ์การลาออกของจู หมิน ระบุ
ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศจีน (Bank of China-BOC) จัดเป็น 1 ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ 4 รายของจีน เข้าจดทะเบียนในตลาดฮ่องกง และตลาดเซี่ยงในปี 2549
ดาวโจนส์ นิวส์ไวร์ส ได้อ้างอิงแหล่งข่าวไม่ระบุชื่อของพรรคคอมมิวนิสต์ ว่าคณะมุขมนตรี หรือคณะรัฐบาลได้อนุมัติการแต่งตั้ง นายจู หมิน ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าการธนาคารประชาชนจีน หรือธนาคารกลางจีนแล้วเมื่อสุดสัปดาห์ และจะประกาศการแต่งตั้งฯเร็วๆ นี้ ก็เพื่อปูทางเขาไปสู่ตำแหน่งรองผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟนั่นเอง
นอกจากนี้ สื่อของรัฐรายงานเช่นกันว่า จูจะเข้าดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าธนาคารกลางก่อน และจะเป็นชาวจีนคนแรกที่ดำรงตำแหน่งใหญ่ในกองทุนที่มีฐานอยู่ในวอชิงตัน
นายจู วัย 56 ปี เป็นนักการธนาคารอาวุโสผู้มีประสบการณ์สูงในระดับนานาชาติ เป็นชาวจีนคนแรกที่ก้าวสู่ตำแหน่งระดับสูงของกองทุนนี้ฯ และเป็นชาวจีนคนที่ 2 ที่มีบทบาทสำคัญในสถาบันการเงินระดับโลก คนแรกคือนายจัสติน หลิน ซึ่งทำหน้าที่หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลก (World Bank)
ทั้งนี้ จีนได้เรียกร้องให้มีการปฏิรูปการบริหารที่ไอเอ็มเอฟและธนาคารโลก ด้วยการจัดสรรสัดส่วนของสิทธิในการออกเสียงของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนาอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงที่ว่าจีน รวมถึงประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เริ่มมีอิทธิพลเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆในระดับสากล
โดยเฉพาะจีน ซึ่งมีการคาดหมายกันว่า จะก้าวขึ้นมาแทนที่ญี่ปุ่นในฐานะประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลกภายในสองปีข้างหน้า