เฟิ่งหวงเน็ต-หลังจากที่จีนใหญ่เพิ่งโชว์พาเหรดกองกำลังครั้งใหญ่ในพิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี วันสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ไต้หวันก็ซุ่มทดลองขีปนาวุธวิถีโค้งพิสัยกลางที่สามารถยิงไกลถึงหัวเมืองใหญ่หลายแห่งในแผ่นดินใหญ่
สื่อท้องถิ่นในไต้หวันเผย ประธานาธิบดีหม่า อิ่งจิ่วได้เดินทางไปยังฐานทัพจิ่วเผิงในปิ่งตงซึ่งอยู่ทางใต้ของเกาะไต้หวัน เพื่อตรวจการการทดลองยิงขีปนาวุธวิถีโค้งพิสัยกลาง (Intermediate-range ballistic missiles*(IRBM) ซึ่งเป็นอาวุธประเภทจู่โจม ที่ผลิตโดยสถาบันการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์จงซัน ในปิ่งตง
จากการจัดแบ่งประเภทขีปนาวุธของสากล ขีปนาวุธวิถีโค้ง หรือขีปนาวุธแบบซัดขว้างพิสัยระหว่างกลาง มีระยะยิงไกลระหว่าง 3,000-5,000 กม. ซึ่งในระยะ 3,000 กม. นี้ หมายถึงว่า ขีปนาวุธ IRBM ที่ไต้หวันผลิตขึ้นนี้ สามารถยิงไกลถึงมณฑลกันซู่ รวมถึงบรรดาหัวเมืองใหญ่ในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ของประเทศจีน และหากประชันกับพลังเขี้ยวเล็บของกองทัพปลดแอกประชาชนจีนของพญามังกรแล้ว ขีปนาวุธวิถีโค้งพิสัยกลางที่ไต้หวันผลิตนี้ เทียบชั้นได้กับ ตงเฟิง 31
สื่อไต้หวันระบุว่าหม่า อิงจิ่วได้นั่งเครื่องบินประจำตำแหน่งจากไทเปในตอนบ่ายวันอังคาร(13 ต.ค.) ไปที่ฐานทัพอากาศจื้อหางอย่างเงียบๆ รับประทานอาหารและเยี่ยมเจ้าหน้าที่ที่ลุยกู้ภัยระหว่างไต้ฝุ่นมรกต จากนั้น หม่า และคณะ ซึ่งมีรัฐมนตรีกลาโหม กาว หัวจู้ รวมอยู่ด้วย ก็โดดขึ้นเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ ไปยังฐานทัพจิ่วเผิง เมื่อเสร็จจากตรวจการทดลองขีปนาวุธฯแล้ว ก็รีบปึ่งเฮลิคอปเตอร์ มาต่อเครื่องบินประจำตำแหน่งที่จอดไว้ที่ฐานทัพจื่อหาง กลับมายังไทเป เพื่อพบปะกับคณะผู้แทนจาก เฮอริเทจ ฟาวน์เดชั่น (Heritage Foundation) ที่มาเยี่ยมเยือนเวลา 17.00 น. เมื่อไปถึง หม่า อิงจิ่ว ก็ขอโทษขอโพยอาคันตุกะเรื่องมาพบช้ากว่าเวลาที่นัดหมายไว้ ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้การตรวจการทดลองขีปนาวุธที่ฐานทัพจิ่วเผิงในบ่ายวันนั้น แดงออกมา
ระหว่างยุคที่ เจี่ยง จิงกั๋ว ครองอำนาจปกครองไต้หวัน ได้ใช้ รหัส “เทียนหม่า” ในการพัฒนาขีปนาวุธวิถีโค้ง ด้วยแรงกดดันจากสหรัฐอเมริกา จึงยุติการพัฒนาฯ ไต้หวันเพิ่งปัดฝุ่นโครงการขีปนาวุธวิถีโค้ง และซุ่มพัฒนาต่อเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ในสมัยประธานาธิบดีเฉิน สุ่ยเปี่ยนปี 2550 รัฐบาลก็จัดแสดงพาเหรดกองกำลังป้องกันดินแดน ในวันชาติไต้หวัน (10 ต.ค.) โดยโชว์อาวุธจรวดต่อต้านอากาศยาน รุ่น “เทียนกง” (ธนูสวรรค์)
ทั้งนี้ สัมพันธ์จีน-ไต้หวันชื่นมื่นถึงขีดสุดนับจากวันที่หม่า อิงจิ่วแห่งพรรคก๊กมินตั๋ง กลับมากุมอำนาจรัฐบาล เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ทั้งสองให้คำมั่นส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีหม่าแถลงในวันชาติไต้หวัน (10 ต.ค.) ที่ผ่านมาว่า ไต้หวันจะไม่อยู่เฉยต่อภัยคุกคามทางทหารของอีกฝ่าย แม้สัมพันธ์ระหว่างช่องแคบดีขึ้นมากแล้วก็ตาม
“ยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศของเราคือ “การป้องกันตัวที่แข็งแกร่ง และการป้องปรามที่มีประสทธิภาพ” เราจะพัฒนาการทหารมืออาชีพเพื่อปกป้องไต้หวัน” ประธานาธิบดีหม่า กล่าวในวันชาติ
กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า จีนใหญ่ได้ติดตั้งขีปนาวุธวิถีโค้งมากกว่า 1,000 ชุด ที่เล็งเป้าหมายมายังไต้หวัน
*ballistic missile เรียกอีกอย่างคือ ขีปนาวุธแบบซัดขว้าง ต่างจากจรวดธรรมดาหรือแบบนำวิถี ที่ยิงเป็นวิธีตรง โดยอาศัยแรงขับจากสันดาปท้ายเป็นหลัก มาเป็นการอาศัยหลักการยิงวิถีโค้ง แบบลูกกระสุนปืนใหญ่ด้วย ทำให้มีพิสัยทำการไกลกว่าแบบแรก