เอเจนซี—ศาลไทเปพิพากษาอดีตประธานาธิบดีไต้หวัน เฉิน สุยเปี่ยน และภรรยา จำคุกตลอดชีวิต ปรับกว่า 6 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมริบสิทธิสาธารณะชั่วชีวิต โทษฐานยักยอกเงินหลวง, ใช้ตำแหน่งหน้าที่กอบโกยผลประโยชน์, รับสินบน, ปลอมแปลงเอกสาร และฟอกเงิน
จำเลยเฉินยังร้องลั่น การดำเนินดคีเขา เป็นการแก้แค้นทางการเมือง สืบเนื่องจากการที่เขาพยายามผลักดันอิสรภาพแก่ไต้หวันอย่างกัดไม่ปล่อยมาตลอดชีวิต
บ่ายวันนี้(11 ก.ย.) ศาลไทเปประกาศคำพิพากษาคดีคอรัปชั่นอดีตผู้นำสูงสุดแห่งไต้หวัน ได้แก่ นาย เฉิน สุยเปี่ยน มีความผิดจริงตามข้อกล่าวหาของอัยการ ได้แก่ ยักยอกเงินของรัฐ ใช้ตำแหน่งหน้าที่กอบโกยผลประโยชน์ส่วนตัว, ปลอมแปลงเอกสาร, รับสินบน, และฟอกเงิน
ดังนั้น ศาลจึงตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิต ปรับ 200 ล้านเหรียญไต้หวัน (6.1 ล้านเหรียญสหรัฐ) ริบสิทธิสาธารณะตลอดชีวิต
ศาลไทเปยังได้ตัดสินคดีนาง อู๋ ซูเจิน ภรรยาผู้พิการของอดีตประธานาธิบดีเฉิน มีความผิดคล้ายคลึงกันกับสามี ได้แก่ ฟอกเงิน, ยักยอกเงินหลวง, ใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์, ปลอมแปลงเอกสาร, และรับสินบน จึงตัดสินลงโทษจำคุกตลอดชีวิต ปรับ 300 ล้านเหรียญไต้หวัน (9.1 ล้านเหรียญสหรัฐ) และริบสิทธิสาธารณะตลอดชีวิตเช่นกัน
“เหตุผลที่ศาลตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิตแก่นายเฉิน เพราะเขาได้ใช้ภูมิหลัง และตำแหน่งหน้าที่ สร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติ” โฆษกศาลไทเป นาย หวง จวิ่นหมิง กล่าวระหว่างแถลงคำพิพากษาคดี “เฉิน สุยเปี่ยน และครอบครัว” ของศาลไทเปในบ่ายวานนี้
ทั้งนี้ ตามกฎหมายไต้หวัน คำตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิต จะได้รับการอุทธรณ์โดยอัตโนมัติ
ระหว่างที่ศาลอ่านคำพิพากษา กลุ่มผู้สนับสนุนเฉิน สุยเปี่ยน หลายร้อยคนก็ได้แห่มาประท้วงที่นอกศาลไทเป ตระโกน “อา เปี่ยน บริสุทธิ์” “ปล่อยอา เปี่ยน” ทั้งนี้ “อา เปี่ยน” คือ ชื่อเล่นของ เฉิน สุยเปี่ยน
โฆษกของเฉิน นาย เจียง จื้อหมิง โต้คำตัดสินดังกล่าว “เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง” และผิดกฎหมาย”
“อดีตประธานาธิบดีเฉิน ตกเป็นเหยื่อของการข่มเหงรังแกทางการเมือง” เจียงกล่าว
นาย เฉิน วัย 58 ปี นับเป็นอดีตผู้นำไต้หวันคนแรกที่ถูกดำเนินคดีอาญา เขาถูกจับกุมในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว (2551) หลังจากที่สำนักงานอัยการได้ตั้งข้อกล่าวหาดังกล่าว และถูกคุมขังไว้ที่ศูนย์ควบคุมตัวชานเมืองไทเปนับจากนั้นมา
การดำเนินคดีฯนี้ ยังรวมถึงสมาชิกใน “อดีตครอบครัวหมายเลขหนึ่ง” โดยนอกจากการดำเนินคดีเฉิน และภรรยาแล้ว ยังมีจำเลยที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาพัวพันในการคอรัปชั่นได้แก่ ลูกชาย-ลูกสาวของเฉินคือ นายเฉิน จื้อจง และนางเฉิน ซิ่งอี๋ว์ตามลำดับ, ลูกเขยคือ นาย จ้าว เจี้ยน หมิง และลูกสะใภ้ นาง หวง รุ่ยจิ้ง
นอกจากนี้ ยังมีการพิพากษาโทษวงศาคณาญาติและพวกพ้องของอดีตผู้นำเฉิน อาทิ นาย เฉิน จื้อจง ต้องโทษจำคุก 2 ปี 6 เดือน ปรับ 1.5 ล้านเหรียญไต้หวัน ในความผิดฟอกเงิน
ลูกสะใภ้ นาง หวง รุ่ยจิ้ง ต้องโทษจำคุก 1 ปี 8 เดือน ปรับ 1.5 ล้านเหรียญไต้หวัน โดยรอลงอาญา 5 ปี ในความผิดฟอกเงิน
อดีตหัวหน้าเลขาฯรัฐบาลเฉิน นาย หม่า หย่งเฉิง จำคุก 20 ปี และริบสิทธิสาธารณะ 10 ปี ในความผิดยักยอกเงินหลวง ใช้ตำแหน่งกอบโกยผลประโยชน์ส่วนตัว และปลอมแปลงเอกสาร
คำตัดสินดังกล่าวเสมือนไคลแม็กซ์ของละครสะเทือนอารมณ์ในศาล ที่ยึดกุมจิตใจและแบ่งแยกประชาชน 23 ล้านคนบนเกาะไต้หวันตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา
เฉินตระโกนลั่นมาตลอดนับจากวันที่โดนจับกุมและนำตัวมาคุกขัง ว่าการดำเนินคดีต่อเขานั้น เป็นการแก้แค้นทางการเมืองของกลุ่มที่ต่อต้านการเคลื่อนไหวแยกตัวเป็นอิสระจากจีน ที่เขาได้ผลักดันระหว่างนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดี 8 ปี
ทั้งนี้ ไต้หวันได้ตั้งรัฐบาลปกครองดินแดนแยกต่างหากจากจีนนับจากปี 2492 แต่ผู้นำรัฐบาลในกรุงปักกิ่งยืนกรานมาตลอดว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน ที่ต้องกลับมารวมชาติในที่สุด แม้จะต้องใช้กำลังหากจำเป็น
อดีตปธน.เฉินแห่งพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า(ดีพีพี) ยังกล่าวหาประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่วแห่งพรรคก๊กมินตั่งที่เป็นมิตรกับปักกิ่ง ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการกระทำที่เขา(เฉิน) กล่าวหาว่าเป็น “ขบวนการล่าพ่อมด” ซึ่งหมายถึงการไล่ล่าเขาและคอรบครัว มาดำเนินคดี
เฉิน สุยเปี่ยน ครองอำนาจประธานาธิบดีไต้หวัน 2 เทอม 8 ปี และลงจากอำนาจฯในเดือนพฤษภาคม 2551 เขาถูกกล่าวหายักยอกเงินประมาณ 25 ล้านเหรียญสหรัฐ ต่อมา เฉินยอมรับว่าได้ปลอมแปลงเอกสารเพื่อเรียกเก็บเงินจากรัฐบาล แต่ก็ยังยืนยันว่าเขาใช้เงินเหล่านั้น “ในภารกิจลับทางการทูต” มิใช้เก็บเข้ากระเป๋าส่วนตัว
สำหรับข้อกล่าวหาที่ว่าภรรยาของเขาส่งเงินออกนอกดินแดน 20 ล้านเหรียญสหรัฐนั้น ก็มาจากทุนในโครงการเดียวกัน แต่เธอได้กระทำไปโดยที่เขาไม่รู้.
คลิกอ่าน: แฉเครือญาติ'อาเปี่ยน'ใช้ตำแหน่งผู้นำหาปย.เข้าตัว