เอเจนซี – คณะอัยการไต้หวันกำลังพิจารณาดำเนินคดีทางกฎหมายกับอดีตประธานาธิบดีเฉิน สุยเปี่ยนและภรรยาเพิ่มอีก หลังจากทั้งสองถูกพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต ปรับรวมกว่า 500 ล้านเหรียญไต้หวัน พร้อมริบสิทธิสาธารณะชั่วชีวิต คดียักยอกเงินหลวง, ใช้ตำแหน่งหน้าที่กอบโกยผลประโยชน์, รับสินบน, ปลอมแปลงเอกสาร และฟอกเงิน
พนักงานสืบสวนกำลังตรวจสอบข้อกล่าวหาของเฉิน สุยเปี่ยน ในอีก 6 กระทง อาทิ ข้อหายักยอกเงินในกองทุนสำหรับภารกิจลับทางการทูต ตลอดจนการรับสินบน และฟอกเงิน สำนักข่าวไชน่า ไทม์ ของไต้หวันอ้างคำกล่าวของแหล่งข่าวไม่ประสงค์ออกนาม
ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (11 ก.ย.) ศาลแขวงไทเปได้ตัดสินจำคุกเฉิน สุยเปี่ยนวัย 58 ปีตลอดชีวิตในข้อหายักยอกเงินหลวง, ฟอกเงิน, รับสินบน และปลอมแปลงเอกสาร และถูกปรับเงินอีก 200 ล้านเหรียญไต้หวัน ซึ่งเขาระบุว่า การตัดสินครั้งนี้เป็นการแก้แค้นทางการเมือง สืบเนื่องจากการที่เขาพยายามผลักดันอิสรภาพแก่ไต้หวันอย่างกัดไม่ปล่อยมาตลอดชีวิต
ขณะที่นาง อู๋ ซู่เจิน ภรรยาผู้พิการของเขาก็ถูกพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตในข้อหาเดียวกัน พร้อมปรับเงิน 300 ล้านเหรียญไต้หวัน (9.1 ล้านเหรียญสหรัฐ) และริบสิทธิสาธารณะตลอดชีวิตเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ตามกฎหมายไต้หวัน คำตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิตนั้น จะได้รับการอุทธรณ์โดยอัตโนมัติ
โดยพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี) ได้เรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัวเขาในทันที “หลังจากพิพากษาคดีแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องกุมขังอดีตประธานาธิบดีเฉินอีก เราต้องการให้รัฐบาลปล่อยตัวเฉินในทันที ตามสิทธิทางกฎหมายที่เฉินควรได้รับในช่วงอุทธรณ์คดี”
ในการณ์นี้ ทางศาลสูงไต้หวันจะตัดสินในวันที่ 25 กันยายนนี้ว่าจะกุมขังเฉินต่อไปหรือไม่
ด้านแหล่งข่าววงในเปิดเผยว่า ขณะนี้ทางคณะอัยการกำลังสืบหาหลักฐานที่ชี้ชัดว่าเฉินยักยอกเงินจากกองทุนสำหรับภารกิจลับทางการทูตไปไม่ต่ำกว่า 300,000 เหรียญสหรัฐในช่วงที่เขาเดินทางเยือน 11 ประเทศขณะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ตามที่นิตยสารไทม์ระบุ
เฉิน สุยเปี่ยน ครองอำนาจประธานาธิบดีไต้หวัน 2 เทอม 8 ปี และลงจากอำนาจฯในเดือนพฤษภาคม 2551 เขาถูกกล่าวหายักยอกเงินประมาณ 25 ล้านเหรียญสหรัฐ ต่อมา เฉินยอมรับว่าได้ปลอมแปลงเอกสารเพื่อเรียกเก็บเงินจากรัฐบาล แต่ก็ยังยืนยันว่าเขาใช้เงินเหล่านั้น “ในภารกิจลับทางการทูต” มิใช่เก็บเข้ากระเป๋าส่วนตัว
ไม่เพียงเฉิน สุยเปี่ยน และภรรยาที่ถูกดำเนินคดีคอร์รัปชั่นเท่านั้น แต่ยังมีสมาชิกใน “อดีตครอบครัวหมายเลข 1” ของเกาะไต้หวันที่เกี่ยวพันกับคดีนี้ ได้แก่ ลูกชาย ลูกสาว ลูกเขย และลูกสะใภ้ของเฉิน โดยนาย เฉิน จื้อจง ลูกชายต้องโทษจำคุก 2 ปี 6 เดือน ปรับ 1.5 ล้านเหรียญไต้หวัน ในความผิดฟอกเงิน ขณะที่ลูกสะใภ้ต้องโทษจำคุก 1 ปี 8 เดือน ปรับ 1.5 ล้านเหรียญไต้หวัน โดยรอลงอาญา 5 ปี ในความผิดฟอกเงิน รวมถึงอดีตหัวหน้าเลขาฯ รัฐบาลของเฉิน หม่า หย่งเฉิง ก็ต้องโทษจำคุก 20 ปี และริบสิทธิสาธารณะ 10 ปี ในความผิดยักยอกเงินหลวง ใช้ตำแหน่งกอบโกยผลประโยชน์ส่วนตัว และปลอมแปลงเอกสาร
ล่าสุดวันอาทิตย์ (13 ก.ย.) มีรายงานข่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เพิ่มกำลังคุ้มครองความปลอดภัยผู้พิพากษา 3 รายที่ตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิตเฉิน สุยเปี่ยน หลังจาก 1 ใน 3 ถูกขู่เอาชีวิต
